หอการค้าไทย-ผู้ส่งออก รุดหารือ ศุภจี ผนึกกำลังเชิงรุก ภาครัฐ-เอกชน รับมือมาตรการภาษีสหรัฐฯ ดัน FTA – เปิดตลาดอินเดีย – ดูแลสินค้าเกษตร พร้อมเร่งช่วยเหลือผู้ประกอบการค้าชายแดน
วันที่ 9 ตุลาคม เวลา 10.45 น. ที่กระทรวงพาณิชย์ ศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยหลังหารือ ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย ดร.ชนินทร์ ชลิศราพงศ์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย และผู้แทนภาคเอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางความร่วมมือในการรับมือกับมาตรการภาษีของสหรัฐอเมริกา (U.S. Tariff)
ป้องกันสินค้าสวมสิทธิ์ควบคุมสินค้านำเข้าไม่ได้มาตรฐาน และส่งเสริมการค้ากับตลาดใหม่ รวมทั้งการเตรียมความพร้อมผู้ประกอบการไทยต่อกฎระเบียบการค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา
ศุภจี กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหา ผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดสำคัญของไทย โดยตั้งเป้าหมายให้การเจรจารายละเอียดมีข้อยุติภายในสิ้นปีนี้ เพื่อให้ผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศได้รับความชัดเจนและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น พร้อมเน้นให้ทุกภาคส่วนทำการบ้านล่วงหน้า รวมทั้งเตรียมตลาดทดแทน และวางกลยุทธ์สินค้าให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดโลก
“เราต้องทำงานเชิงรุกมากขึ้น ระหว่างกระทรวงกับภาคเอกชน เพื่อให้เกิดกิจกรรมทางการค้าอย่างเป็นรูปธรรมที่เน้นกระตุ้นสั้น ได้ยาว และกระจายตัว กระทรวงพาณิชย์พร้อมทำงานร่วมกับภาคเอกชนเต็มที่ เพื่อให้ทีมไทยแลนด์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างยั่งยืน” ศุภจีกล่าว
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ชวนวิเคราะห์ เหตุใดสินค้าจีนทะลัก ส่งออกเริ่มหมดแรง แบกเศรษฐกิจไทยไม่ไหว แม้แต่ ‘ข้าวไทย’ ยังเสี่ยงพ่ายแพ้ให้กับคู่แข่งเวียดนามและอินเดีย
- ไขคำตอบ ทำไมเสน่ห์และความสามารถในการแข่งขันไทยค่อยๆ เลือนหาย ‘กับดักเศรษฐกิจไทย (บางเรื่อง)’ กำลังกลายเป็นแผลอักเสบเรื้อรัง
- ราคาข้าวไทยพุ่ง All Time High เสี่ยงฉุดไทยพ่ายเวียดนาม
- เศรษฐกิจไทยซึม นักท่องเที่ยวจีนไม่มา กำลังซื้อยังทรุดจากปัญหาหนี้ครัวเรือน
ส่งออกตลาดสหรัฐฯ เริ่มได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษี เอกชนรับ! คำสั่งซื้อสินค้าชะลอตัว
ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ปัจจุบันการส่งออกไปสหรัฐฯ เริ่มได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีดังกล่าว ทำให้การสั่งซื้อสินค้าชะลอตัวลง
ดังนั้น การขับเคลื่อนการเจรจาภาษีไทยกับสหรัฐ ประเด็นที่ต้องจับตาในปี 2569 หากสามารถคลี่คลายการลงนาม MOA และผ่านสภาสหรัฐได้สำเร็จ ฯ พร้อมทั้งมีการกำหนดสัดส่วนวัตถุดิบในภูมิภาค (RVC) ที่ชัดเจนจะช่วยให้การส่งออกสินค้าไทยกลับไปสู่ระดับเดิมได้ เนื่องจากคู่แข่งในภูมิภาคส่วนใหญ่ก็มีอัตราภาษีใกล้เคียงกันประมาณ 19-20%
ส่วน FTA ไทย-EU มั่นใจว่าจะสามารถเจรจาในรายละเอียดได้จบภายในสิ้นปี 2568 ถึงต้นปี 2569 แต่ขั้นตอนที่ผ่านสภาของ EU ที่มี 27 ขั้นตอน
เชื่อว่าจะต้องใช้เวลา ส่วนของไทยหากต้องมีการยุบสภาและเลือกตั้งใหม่ในปีหน้า ก็จะเป็นประเด็นหนึ่งที่ต้องติดตาม แต่เชื่อว่าหากเรื่องนี้จบจะช่วยยกระดับตัวเลขส่งออกของไทยได้พอสมควร
อย่างไรก็ตาม คาดว่าการส่งออกทั้งปีมีแนวโน้มดีมีโอกาสโต 2.5% และอาจทำได้ถึง 5% ซึ่งจะมีผลต่อการปรับประมาณการ GDP อีกครั้งในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2568 และการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย
ผู้ส่งออกข้าวชี้ไทยยังเผชิญปัญหาพัฒนาพันธุ์-ค่าเงินบาทแข็งสู้คู่แข่งยาก
ร.ต.ท.เจริญ เหล่าธรรมทัศน์ นายกสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า ภาคการส่งออกข้าวยังเผชิญปัญหาขาดแคลนพันธุ์ข้าวที่ตรงกับความต้องการของตลาดโลก จึงจำเป็นต้องเร่งพัฒนาพันธุ์ข้าวใหม่ เพิ่มผลผลิตต่อไร่ และรักษาค่าเงินบาทให้อยู่ในระดับที่แข่งขันได้
ปริม จิตจรุงพร ประธานสภาธุรกิจไทย-อินเดีย กล่าวว่า ตลาดอินเดียมีศักยภาพสูงและกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้า วัสดุก่อสร้าง ของตกแต่งบ้าน และอาหาร พร้อมขอความร่วมมือจากกระทรวงพาณิชย์ใน การส่งเสริมการค้ากับแต่ละรัฐของอินเดียอย่างเป็นระบบ
ด้าน ดร.ชนินทร์ ชลิศราพงศ์ รองประธานกรรมการหอการค้าไทย กล่าวว่า ภาคเอกชนต้องการเห็นความคืบหน้าในการเจรจาเขตการค้าเสรี (FTA)ให้ FTA ไทย-เอฟตา มีผลบังคับโดยเร็ว เพื่อปูทางสู่ FTA ไทย-อียู และฉบับอื่นๆ ซึ่งหากสามารถสรุปเร็ว จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน ของผู้ประกอบการไทยได้อย่างมาก
ทั้งนี้ ภาคเอกชนยังได้เสนอให้จัดตั้ง ‘คณะทำงานเชิงรุกด้านผลิตภัณฑ์ยางพารา’ ระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการและเกษตรกรรับมือภาวะตลาดซบเซา และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยใช้วัตถุดิบภายในประเทศ (Local Content) ซึ่งทางกระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการตรวจสอบเชิงลึกและบังคับใช้กฎหมายกับผู้ถือหุ้นนอมินีอย่างเข้มงวด
เร่งบริหารจัดการข้าวคงค้าง 1.8 ล้านตัน
ศุภจี ย้ำว่า กระทรวงพาณิชย์เตรียมบริหารจัดการข้าวคงเหลือจำนวน 1.8 ล้านตัน โดยจะร่วมมือกับเกษตรกรและภาคเอกชน ในการยกระดับคุณภาพและบรรจุภัณฑ์ให้มีมูลค่าเพิ่ม ผลักดันให้เกิดต้นแบบเกษตรกรคุณภาพที่ สามารถสร้างรายได้อย่างยั่งยืนเป็นตัวอย่างให้กับเกษตรกร
รวมถึงศึกษาความต้องการของตลาดโลกเพื่อขยายการผลิตพืชเกษตรที่มีศักยภาพสูง และกระทรวงพาณิชย์มุ่งมั่นผลักดันการเจรจา FTA ต่างๆให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อเปิดโอกาสทางการค้าใหม่ให้กับผู้ประกอบการไทย
ภาพ: alexis84 / Getty Images, Sumin_Daddy / Getty Images