×

นายกฯ​ เข้าสภา แจงแถลงนโยบายรัฐบาล โครงการคนละครึ่งโปร่งใส-เป็นประโยชน์ มั่นใจคุณสมบัติรัฐมนตรี ประชามติยกเลิก MOU ไทย-กัมพูชา ย้ำไม่โยนภาระ แต่ให้เกียรติประชาชน

โดย THE STANDARD TEAM
30.09.2025
  • LOADING...
anutin-halfhalf-project-campaign-denial

วันนี้ (30 กันยายน) ที่อาคารรัฐสภา เวลา 08.48 น. อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เดินทางถึงอาคารรัฐสภา เข้าร่วมประชุมร่วมกันของรัฐสภาครั้งที่ 1 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่ 1) เพื่อพิจารณาเรื่องด่วน คือ การแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อรัฐสภาตามมาตรา 162 ของรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการอภิปราย 

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วานนี้ (29 กันยายน) มีการอภิปรายจนครบเวลา วันนี้มาอภิปรายต่อ สส.และ สว.ได้ให้คำแนะนำ ข้อคิด และข้อเท็จจริง ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็ได้บันทึกไว้ ส่วนใดที่สามารถนำไปปฏิบัติและเป็นประโยชน์ได้ก็จะดำเนินการตามนั้น

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า สส.พรรคประชาชน มีการพุ่งเป้าเรื่องโครงการ คนละครึ่ง ที่ดูเหมือนรีบร้อนเกินไป กังวลว่าจะเป็นการหาเสียงล่วงหน้านั้นนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า  ตนเองไม่รู้จะตอบอย่างไร เพราะเวลามีทำงานแค่ 4 เดือน ตามสไตล์การทำงานของ ครม.ชุดนี้อะไรทำได้ก็ต้องทำเลย ไม่มีคำว่ารีบร้อน มีแต่ทำด้วยความรวดเร็วและผ่านการกลั่นกรอง การดำเนินการที่ถูกต้องโปร่งใสและมีประโยชน์

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า มีการมองด้านลบเรื่องการหาเสียงล่วงหน้านั้น อนุทิน กล่าวว่า ทุกพรรคหาเสียงหมด การอภิปรายด้วยข้อมูลต่างๆ ให้ประชาชนเห็น สภาฯ ก็คือการหาเสียงอย่างหนึ่ง ขอผู้สื่อข่าวอย่าจับไปเป็นประเด็น ทุกครั้งที่มีการพูดในสภาฯ ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็พูดให้ประชาชนฟัง ไม่ได้พูดให้ฟังกันเอง

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า รัฐบาลมั่นใจใช่หรือไม่ว่า โครงการคนละครึ่งจะสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ในช่วงระยะเวลาสั้นได้ อนุทิน กล่าวว่า โครงการคนละครึ่ง เน้นการมีส่วนร่วมของประชาชน ประชาชนลงครึ่งหนึ่ง รัฐลงครึ่งหนึ่ง หากประชาชนไม่ลงก็จะไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรก็จะไม่เกิดประโยชน์  หากประชาชนลงครึ่งหนึ่งและรัฐลงครึ่งหนึ่งก็จะเกิดการหมุนเวียนการใช้จ่าย น่าจะเป็นการกระตุ้นและการไหลเวียนของเม็ดเงิน

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า การอภิปรายคุณสมบัติ ครม.จะเรียกความเชื่อมั่นอย่างไร อนุทิน กล่าวว่า เราตรวจสอบคุณสมบัติตามกฎหมายกำหนด ทั้งประวัติอาชญากรรม ประวัติการศึกษา รวมถึงตรวจสอบคุณสมบัติจากหน่วยงานยาเสพติด ตำรวจ อัยการ ปปง. ป.ป.ท. ป.ป.ช. ได้รับการยืนยันมาว่า ไม่มีข้อมูลใด ๆ ที่ ครม.ที่ได้รับการแต่งตั้งมีความผิดหรือขัดคุณสมบัติ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ารัฐมนตรีที่ถูก ป.ป.ช.กล่าวหา ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ใช่หรือไม่ อนุทิน ย้อนถามกลับว่า “กฎหมายว่าอย่างไร” ขณะที่การประชุม ครม.นัดพิเศษในเย็นนี้ มีหลายวาระที่เป็นวาระเร่งด่วน และเร่งทำนโยบายที่ได้แถลงเอาไว้

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี บวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า เตรียมทำประชามติในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้า โดยใช้บัตร 4 ใบ คือ บัตรเลือกสส.เขต สส.บัญชีรายชื่อ ประชามติรัฐธรรมนูญใหม่ และประชามติยกเลิก MOU ไทย-กัมพูชา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า รัฐบาลจะทำความเข้าใจประชาชนอย่างไรว่า เรื่องนี้ต้องเร่งทำความเข้าใจให้ประชาชนรับทราบ 

 

ก่อนหน้านี้เคยมีการทำประชามติหลายครั้งแล้ว ทางรัฐบาลจะประสานงาน และหาความร่วมมือกับทุกฝ่าย อาทิ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และกระทรวงมหาดไทยที่จะเร่งทำความเข้าใจ และความคุ้นเคยให้กับพี่น้องประชาชน เพื่อใช้สิทธิ์ให้ถูกต้องตามบัตรตรงคะแนน

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หวั่นว่าประชาชนจะเกิดความสับสนเนื่องจากมีบัตรเลือกตั้งหลายใบในคราวเดียว นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นการคาดการณ์ของบวรศักดิ์ เพราะการลงคะแนนต้องใช้งบประมาณ 5-6 พันล้านบาทต่อครั้ง ดังนั้นเพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ ที่สำคัญเราต้องไม่ดูถูกภูมิปัญญาของพี่น้องประชาชนที่จะสามารถทำความเข้าใจได้ จากการใช้สื่อประชาสัมพันธ์ต่างๆ ว่าจะต้องลงคะแนนอย่างไร

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า MOU ไทย-กัมพูชา ที่จะนำมาลงประชามติจะเป็นฉบับปี 43 หรือ 44 นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษา MOU 2543-2544 ระหว่างประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา สภาผู้แทนราษฎร กำลังศึกษาอยู่ก็ต้องรอผล หากผลออกมามีความชัดเจนว่าไม่ต้องศึกษา ก็อาจจะยกเลิกได้เลยโดยคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพราะอำนาจอยู่ที่ครม. เพียงแต่เราต้องการให้ประชาชนมีส่วนร่วม 

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวยืนยันว่า ไม่ได้เป็นการโยนภาระให้ประชาชน แต่เป็นการให้เกียรติมากกว่า เรื่องอะไรที่มีความแตกต่างทางความคิด และเป็นความสนใจเกี่ยวข้องกับอธิปไตยความมั่นคงของประเทศ ซึ่งทอดยาวมานานก็เลยอยากถามประชาชน หากผลการศึกษาออกมาแล้วชัดเจนว่าไม่เป็นประโยชน์กับประเทศไทย และประเทศไทยได้เปรียบอะไรเลย อะไรที่ประเทศไทยได้เปรียบกัมพูชา เราก็เว้นไว้เราเลือกประเทศไทยก่อน ดังนั้นถ้าหากชัดเจนก็อาจจะเลิกเลยก็ได้ และขอย้ำอีกครั้งว่านี่เป็นการให้เกียรติประชาชน ถ้าถามตน ตนทำเองตนเลิกไปแล้ว

 

นายกรัฐมนตรีอธิบายเพิ่มว่า คำว่า MOU คือ Memorandum of Understanding ถ้า MOU ทั่วไปจะเขียนว่าภายใน 2 ปีหากไม่บรรลุวัตถุประสงค์ ก็ต้องถือว่าเป็นอันสิ้นสุด ดังนั้น ตนต้องดูบริบทใน MOU 43-44 ว่ามีการกำหนดให้มีการสิ้นสุดไปของ MOU นี้หรือไม่อย่างไร หากไม่มีการกำหนดเลย ตนก็จะบอกว่าทำไม 20 ปี ยังไม่มีความเข้าใจ ยังหาข้อตกลงกันไม่ได้ แล้วจะเก็บไว้ทำไมถ้าประเทศไทยไม่ได้ประโยชน์ จึงขอย้ำว่า ถ้าประเทศไทยได้ประโยชน์ก็จะเก็บ แต่ถ้าประเทศไทยไม่ได้ประโยชน์ก็จะเลิก

 

ในส่วนของพรรคภูมิใจไทยกับพรรคประชาชน คือ MOA ตรงนี้ผูกพันเบี้ยวไม่ได้ 4 เดือนต้องยุบสภา แต่ MOU เมื่อเกิดความไม่เข้าใจกันเมื่อไหร่ก็ต้องเลิก นี่คือบริบทของตน แต่ก็มีคนพยายามไปตีความว่าจะต้องเลิกทั้งสองฝ่าย ซึ่งตนมองว่าแบบนั้นต้องเป็นสัญญา อย่างไรก็ตามคงต้องฟัง และถามผู้รู้ทางกฎหมาย

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายความมั่นคง ให้ข้อมูลว่าเห็นควรจะต้องยกเลิก MOU หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องของครม. ถ้าจะตัดสินใจก็ต้องตัดสินใจโดย 

ครม.

 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า แสดงว่ากรณีจำนวนบัตรเลือกตั้ง ยังไม่ชัดเจนว่าจะมีการทำประชามติเรื่องยกเลิก MOU ด้วยใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ต้องรอกรรมาธิการ

 

ในช่วงท้าย ผู้สื่อข่าวถามถึงความกังวลสมาชิกรัฐสภาในการที่รัฐบาลจะใช้ภาษีประชาชนหาเสียงครั้งหน้านี้ จะไม่เกิดขึ้นใช่หรือไม่ อนุทิน หัวเราะก่อนจะบอกว่า “ขอบคุณมาก เปิดประชุมแล้ว” และเดินออกจากวงสัมภาษณ์ไปเพื่อเข้าร่วมประชุมสภาในทันที 

 

อนุทิน ชาญวีรกูล คนละครึ่ง อนุทิน ชาญวีรกูล คนละครึ่ง อนุทิน ชาญวีรกูล คนละครึ่ง อนุทิน ชาญวีรกูล คนละครึ่ง อนุทิน ชาญวีรกูล คนละครึ่ง

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising