ในมุมมองของผู้คนจำนวนไม่น้อย ‘ความสำเร็จ’ ในชีวิต อาจเปรียบได้ดั่งถ้วยรางวัลอันเลอค่า ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงทั้งความมุ่งมั่น ความพยายาม จิตวิญญาณแห่งความไม่ย่อท้อ เรื่อยไปจนถึงขีดศักยภาพ ความสามารถในการที่คุณไม่ลดละจนไขว่คว้ามันมาครอบครองได้ในที่สุด   

ถึงอย่างนั้นก็ดี รางวัลแห่งความสำเร็จของแต่ละคนก็อาจจะมีหน้าตาเหมือนหรือแตกต่างกันออกไป ตามแต่รสนิยมและความชื่นชอบที่ปัจเจก ความสำเร็จของบางคนอาจวัดด้วยมูลค่าตัวเลขสินทรัพย์ในครอบครอง

บ้างอาจวัดด้วยความโอ่อ่าน่าอยู่ของอสังหาริมทรัพย์ หรือแม้กระทั่งของเก็บสะสมที่มีคุณค่าทางจิตใจ และไม่สามารถประเมินมูลค่าเป็นตัวเลขได้แม้แต่น้อย

แต่อีกหนึ่งในรางวัลอันทรงเกียรติที่เราเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่า สิ่งสิ่งนี้สามารถทำหน้าที่เป็นภาพสะท้อนให้กับทั้งความสำเร็จ และ ‘รสนิยม’ ของตัวตนผู้ที่มีในครอบครองได้อย่างสมบูรณ์แบบ นั่นก็คือ ‘รถยนต์’ 

เมื่อรถยนต์ไม่ได้เป็นเพียงพาหนะ หากแต่เป็น ‘คำนิยามที่ดีที่สุด’ ถึงความสำเร็จและตัวตนของผู้ครอบครอง

หากอธิบายในเชิงหลักจิตวิทยา นาธาน มัวร์ (Nathan Moore) นักจิตวิทยาผู้บริโภค (Consumer psychologist) ที่ศึกษาหลักจิตวิทยาในแง่มุมเศรษฐศาสตร์พฤติกรรม เบื้องหลังการตัดสินใจของผู้บริโภค เคยอธิบายกับสื่ออย่าง The Guardian ได้อย่างน่าสนใจว่า แรงจูงใจที่ทำให้เราตัดสินใจซื้อรถยนต์สักคัน แท้จริงแล้วถูกขับเคลื่อนเพื่อเติมเต็มแง่มุมต่างๆ ในชีวิตเรา ไม่ว่าจะด้านภาพลักษณ์ หรือแรงปรารถนาที่เรามี 

เมื่ออ้างอิงตามทฤษฎีที่ว่า รถยนต์จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่ยานพาหนะที่พาเราไปถึงที่หมายอย่างปลอดภัยเท่านั้น เพราะรถยนต์ยังทำหน้าที่แทนคำนิยามที่ดีที่สุดถึง ตัวตน บุคลิก รสนิยม ไลฟ์สไตล์ การให้คุณค่า (Values) กับสิ่งต่างๆ ของเจ้าของ ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์แทน ‘ความภาคภูมิใจ’ ที่ได้มาจากความพยายามทุ่มเททำงานอย่างหนัก จนเกิดเป็นความสำเร็จในชีวิตของเจ้าของรถคนดังกล่าว

ไม่แปลกที่เราจะเห็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จในชีวิตจากหลากหลายวงการ เลือกใช้รถยนต์หรูระดับ Luxury สมรรถนะสูง ดีไซน์โฉบเฉี่ยว สง่างาม น่าเกรงขาม เพื่อเป็นภาพสะท้อนเกียรติยศความสำเร็จในชีวิตที่พวกเขาภาคภูมิใจในการเพียรพยายามตรากตรำอย่างหนัก จนสามารถคว้ามันมาครอบครองได้ และถึงแม้ว่าแบรนด์รถยนต์หรูในท้องตลาดจะมีให้เลือกอยู่อย่างหลายหลาก หากแต่มีอยู่เพียงแบรนด์เดียวเท่านั้นที่ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย ชื่อของแบรนด์รถยนต์หรูสัญชาติเยอรมันแบรนด์นี้ก็จะปรากฏขึ้นมาในมโนภาพของเราทันทีที่นึกถึงรถยนต์เซกเมนต์ Luxury

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อจินตนาการถึงความหรูหรา ความสง่างาม ความเป็นเลิศด้านยนตกรรม และรสนิยมที่ทรงคุณค่าเหนือกาลเวลา…

“Das Beste oder nichts, หากไม่ดีที่สุด ก็อย่าเสียเวลาเปล่า” รสนิยมและแรงผลักสู่ความสำเร็จโดย Mercedes-Benz

ดาส เบสเทร์ โอเดอร์ นิชท์ส (Das Beste oder nichts) หรือที่แปลเป็นภาษาไทยได้ว่า “หากไม่ดีที่สุด ก็อย่าเสียเวลาเปล่า (The Best or nothing)” คือแบรนด์สโลแกนของ Mercedes-Benz ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปรัชญาการผลิตรถยนต์ของพวกเขาได้เป็นอย่างดี

กว่า 140 ปีที่ยืนหยัดในฐานะแบรนด์ผู้ผลิตรถยนต์คันแรกของโลกจวบจนถึงปัจจุบัน เครื่องหมายลูกศรสีเงิน Silver Arrows ของพวกเขาได้กลายเป็นภาพจำที่การันตีถึงคุณภาพความเป็นเลิศของยานยนต์ในทุกๆ แง่มุมอย่างแนบแน่น

ทั้งสมรรถนะเครื่องยนต์ทรงพลัง ดีไซน์โดดเด่นหรูหราทรงคุณค่าเหนือกาลเวลา การเดินหน้าสรรค์สร้างนวัตกรรมบุกเบิกใหม่ๆ ให้กับอุตสาหกรรมยานยนต์ ความรู้สึกปลอดภัยยามที่ได้ขับขี่ และท่วงท่าที่สง่างามในทุกจังหวะการก้าวขึ้นลงจากตัวรถ

หรือแม้แต่ชื่อเสียงของแบรนด์ตามที่เราได้กล่าวไปข้างต้นว่า เมื่อไรก็ตามที่เห็นโลโก้ Mercedes-Benz ภาพจำของผู้ขับขี่ที่ตามติดมาด้วยกันเสมอคือ ความมีรสนิยม การประสบความสำเร็จ และ ‘แรงขับเคลื่อนสู่ชัยชนะ’

หลักฐานที่พิสูจน์ว่า ตัวตนผู้ครอบครองรถยนต์ Mercedes-Benz สอดคล้องกับค่านิยมของแบรนด์ในแง่ของความกระหายในชัยชนะคือสมยานาม Silver Arrows ที่ถูกใช้เรียกแทนฉายารถแข่งสีเงินของทีม Mercedes

ย้อนกลับไปในช่วงปี 1934 ที่รายการแข่งขันซีรีส์ The International Eifel Race นั่นคือจุดเริ่มต้นครั้งแรกอย่างเป็นทางการที่รถยนต์ Mercedes-Benz Silver Arrow รหัส W 25 ได้ลงทำการแข่งขันและคว้าชัยชนะมาครอบครองได้สำเร็จ ก่อนที่พวกเขาจะเดินหน้าคว้าชัยชนะในสนามแข่งมาต่อเนื่องในหลายๆ ซีรีส์ จวบจนถึงยุคปัจจุบันภายใต้ทีม ‘Mercedes-EQ Formula E Team’ 

รถยนต์ Mercedes-Benz จึงไม่ได้เป็นเพียงตัวแทนรางวัลความสำเร็จส่วนบุคคล เพราะในมุมกลับกัน การเป็นเจ้าของรถ Mercedes-Benz ก็เหมือนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการครอบครองมรดก แห่งชัยชนะและนวัตกรรมร่วมกับ Silver Arrow ไปในตัวด้วยเช่นกัน 

แล้วนอกเหนือจากการครอบครองรถยนต์ Mercedes-Benz มีเอกสิทธิ์เหนือระดับใดอีกบ้างที่จะสามารถช่วยเติมเต็มทุกๆ จังหวะการใช้ชีวิตของผู้ครอบครองยนตกรรมคันนี้ได้อย่างลงตัว?

เพิ่มความพิเศษให้กับการครอบครองรถยนต์ Mercedes-Benz ของคุณ

เติมเต็มไลฟ์สไตล์เหนือระดับของคุณให้สมบูรณ์แบบมากไปอีกขั้น ด้วยสิทธิพิเศษที่เฉพาะผู้ที่เป็นเจ้าของ Mercedes-Benz เท่านั้นถึงจะได้รับ กับบัตรเครดิต UOB Mercedes

ตัวอย่างเช่น ‘คะแนนสะสมบัตรเครดิต’ ที่ได้จากการชำระค่าจองรถยนต์ Mercedes-Benz ผ่านช่องทางออนไลน์ (จำกัดสูงสุด 100,000 บาท/บัญชี/ปีปฏิทิน) ก็จะได้รับคะแนนสะสมยูโอบี รีวอร์ดสูงถึง 20 เท่า หรือทุกการใช้จ่ายทั่วไปไม่ว่าจะเป็น การเช็กระยะ การซ่อมบำรุงรักษา ฯลฯ ที่ตัวแทนจำหน่าย Mercedes-Benz อย่างเป็นทางการทั่วประเทศผ่านบัตรเครดิต UOB Mercedes ก็จะได้รับคะแนนสะสมยูโอบี รีวอร์ดทันที 4 เท่า*

* 1 ม.ค. 68 – 31 ธ.ค.68 

* เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด 

*ใช้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนได้เต็มจำนวนตามกำหนด จะได้ไม่เสียดอกเบี้ย 16% ต่อปี

ในทางกลับกัน หากใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิต UOB Mercedes ที่ตัวแทนจำหน่าย Mercedes-Benz อย่างเป็นทางการทั่วประเทศ คุณก็ยังจะได้รับส่วนลดพิเศษอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น รับส่วนลดเพิ่ม 20% เมื่อใช้คะแนนสะสมเท่ายอดใช้จ่าย หรือส่วนลด 15% สำหรับค่าอะไหล่และค่าแรง เป็นต้น

นอกจากนี้ก็ยังได้รับสิทธิ์จอดรถที่ช่องจอดสำรองพิเศษ ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และสยามพารากอน แถมยังได้รับสิทธิ์เข้ารับบริการล้างรถยนต์ Mercedes-Benz ฟรีทุกเดือนที่โปลิ-เคม เฉพาะสาขาที่ร่วมรายการอีกด้วย

จริงอยู่ที่คุณอาจจะมีบัตรเครดิตใบอื่นๆ ในครอบครองอยู่บ้างแล้ว แต่หากได้ชื่อว่าเป็นเจ้าของยนตกรรมอย่าง Mercedes-Benz บัตรเครดิต UOB Mercedes คือภาพสะท้อนแทนเอกสิทธิ์เหนือระดับที่คุณไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวง

รายละเอียดเพิ่มเติม สามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ https://www.uob.co.th/personal-en/credit-cards/rewards/uob-mercedes-credit-card.page