ภายใต้ความมุ่งหมาย (Sense of Purpose) คือ ‘สร้างความงามที่ขับเคลื่อนโลก’ (Create the Beauty that Moves the World) ซึ่งเป็นเหมือนเข็มทิศในการดำเนินธุรกิจของ ‘ลอรีอัล กรุ๊ป’ ผู้นำอุตสาหกรรมความงามระดับโลกจากฝรั่งเศสที่อยู่เบื้องหลัง 37 แบรนด์ชั้นนำ อาทิ Garnier, 3CE, YSL Beauty, La Roche-Posay, CeraVe และแบรนด์อื่นๆ อีกมากมาย มีแง่งามที่งอกเงยท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านเพื่อความยั่งยืนทั้งในมิติด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เราอยากชวนทุกคนไปเรียนรู้
นอกจากพันธกิจความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมที่ลอรีอัลมีการกำหนดเป้าหมายบนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ (Science Based Targets) เพื่อให้แน่ใจว่าการดำเนินงานขององค์กรเคารพใน ‘ขีดจำกัดความปลอดภัยของโลก’ (Planetary Boundaries) หรือขีดจำกัดที่โลกสามารถรับไหว ซึ่งกำหนดโดยวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมตั้งแต่การทำงานต้นน้ำถึงปลายน้ำของผลิตภัณฑ์
การให้ความสำคัญกับ ‘คน’ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนพนักงาน ผู้คนที่ใช้ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ พันธมิตรทางธุรกิจ ไปจนถึงชุมชน บนความเชื่อที่ว่า “ความงามงอกเงยเกิดขึ้นจากการสร้างพลังให้ผู้คน” คือประเด็นหลักที่ The Standard สนใจและอยากชวนทุกคนไปเรียนรู้วิธีคิดขององค์กรระดับโลก
เพราะสิ่งที่น่าสนใจมากไปกว่าการสร้างบรรยากาศให้พนักงานได้เติบโต หรือการมอบเครื่องมือที่จะทำให้ทุกคนได้พัฒนาศักยภาพของตัวเองอย่างเต็มที่ ไปจนถึงนโยบายและโครงการมากมายที่สนับสนุนความหลากหลาย ลอรีอัลทำอย่างไร จึงสร้างพลังในการขับเคลื่อนทุกแบรนด์ในเครือลอรีอัล รวมถึง ‘ลอรีอัล ประเทศไทย’ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในลอรีอัล กรุ๊ป โดยมีแบรนด์ดังในเครือ 16 แบรนด์ ให้ก้าวเดินไปในทิศทางเดียวกัน
ไม่ง่าย…สำหรับองค์กรที่มีพนักงานทั่วโลกมากกว่า 90,000 คน (ข้อมูลปี 2024)
ส่องวิธีสร้างพลังให้ผู้คนเพื่อสร้าง‘สร้างสรรค์ความงามที่ขับเคลื่อนโลกแบบ ‘ลอรีอัล’
1.แก่นแท้ของ ‘ความหลากหลาย’ หัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจของลอรีอัล
เรื่องความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการไม่แบ่งแยก (Diversity, Equity & Inclusion) ของ ลอรีอัล จะยึดเกาะบน 4 แกนหลัก ได้แก่
- เพศสภาพ และ LGBTQIA+ ลอรีอัลต้องการสร้างความเท่าเทียมทางเพศในทุกๆ ระดับและแผนกของบริษัท เพื่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ไม่แบ่งแยกกับกลุ่ม LGBTQIA+ ทุกที่ทั่วโลก และเพื่อมีส่วนร่วมในการต่อต้านการเลือกปฏิบัติหรือความรุนแรงทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคุกคามทางเพศและความรุนแรงบนฐานเพศสภาพ
- ภาวะทุพพลภาพ เพื่อไม่ให้เกิดการแบ่งแยกต่อผู้พิการภายในบริษัท บริษัทได้มีการกำหนดจำนวนผู้พิการที่จะรับเข้าทำงาน นอกจากนี้ยังปรับใช้แนวทางการไม่แบ่งแยกกับผู้บริโภค ซัพพลายเออร์ และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
- ช่วงอายุและช่วงวัย เพราะเป้าหมายของลอรีอัลคือการส่งเสริมให้เกิดบทสนทนาและความร่วมมือในหมู่เพื่อนพนักงานที่มาจากช่วงวัยที่ต่างกัน ตั้งแต่ระดับผู้บริหารไปจนถึงผู้ที่เพิ่งจบการศึกษา
- สถานะทางเศรษฐกิจ สังคม และความหลากหลายของชาติพันธุ์ โดยมุ่งความสนใจไปที่ความหลากหลายในการรับผู้สมัคร เพื่อเพิ่มความหลากหลายในด้านภูมิหลังทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมในทุกๆ ทีมของบริษัท สร้างความมั่นใจในโอกาสที่เท่าเทียมกันในการพัฒนาด้านอาชีพ และสร้างความตระหนักรู้ให้กับพนักงานและผู้บริหารในเรื่องนี้
ความพยายามในเรื่องความหลากหลายและการไม่แบ่งแยกไม่ได้จำกัดอยู่แค่ภูมิภาคเดียว แต่ลอรีอัลนำไปปฏิบัติโดยปรับให้เข้ากับบริบทท้องถิ่น เพื่อให้เกิดผลลัพธ์และมีความหมายในวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน
ด้วยแนวทางที่แข็งแรงและชัดเจนนี้ ทำให้ความหลากหลายทางวัฒนธรรม พื้นเพ และประสบการณ์ของลูกค้าทั่วโลก รวมถึงความพยายามในการสร้างทีมที่เปิดรับทุกประสบการณ์ชีวิตและภูมิหลัง กลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่นำไปสู่การสร้างพลังความคิดสร้างสรรค์ นวัตกรรม และความสำเร็จทางธุรกิจ
2.หยิบยื่นโอกาสในการทำงานให้กับทุกความหลากหลายโดยไร้ข้อจำกัด
ลอรีอัลให้ความสำคัญกับการจ้างงาน การสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงาน การริเริ่มโครงการ และสวัสดิการต่างๆ ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความเข้าใจในความหลากหลายของผู้คนอย่างแท้จริง
สำหรับ ลอรีอัล ประเทศไทย ที่ก่อตั้งและดำเนินกิจการมากว่า 30 ปี มีพนักงานกว่า 650 คน ครอบคลุมการดำเนินงานทั้งในประเทศไทย พม่า ลาว และกัมพูชา ก็เปิดกว้างด้านความหลากหลาย ตั้งแต่ขั้นตอนการคัดเลือกบุคลากร ที่ไม่จำเป็นต้องระบุเพศสภาพบนใบสมัคร เพื่อให้มั่นใจว่าพวกเขาจะได้รับการพิจารณาบนพื้นฐานความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และความเหมาะสมในตำแหน่งงานอย่างแท้จริง
ด้านสวัสดิการ ลอรีอัลขยายขอบเขตสิทธิประโยชน์ของพนักงานให้ครอบคลุมถึงคู่รักเพศเดียวกันทันทีที่ประเทศไทยมีการประกาศใช้กฎหมายสมรสเท่าเทียม อาทิ สิทธิในการลาคลอดสำหรับบิดา (Paternity Leave) จำนวน 42 วัน ที่ปรับเป็น “Secondary Parental Leave” สำหรับคู่สมรสเพศเดียวกัน รวมไปถึงสิทธิลาคลอดอย่าง Maternity Leave หรือ First Parental Leave ที่ครอบคลุมถึงการอุปการะบุตรของคู่รักเพศเดียวกันด้วยเช่นกัน
ตัวอย่างโครงการที่สะท้อนแนวทางการส่งเสริมการไม่แบ่งแยกในที่ทำงาน อาทิ หลักสูตรอบรมเรื่องอคติโดยไม่รู้ตัว การเป็นผู้นำที่เปิดกว้าง และการตั้งกลุ่มพนักงานที่สนับสนุนความหลากหลายในแง่มุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเพศ เชื้อชาติ และอัตลักษณ์ LGBTQ+
3.เปิดโอกาสให้คนหนุ่มสาวร่วมสร้างพลังขับเคลื่อนโลก
ที่ลอรีอัล กรุ๊ป เปิดโอกาสให้คนหนุ่มสาวอายุต่ำกว่า 30 ปี ได้มีโอกาสเข้ามาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์ความงามที่ขับเคลื่อนโลก จากโครงการพัฒนาอาชีพหลากหลายโครงการ โดยมีคนรุ่นใหม่กว่า 25,000 คนที่ได้มีส่วนร่วมทุกปี
ตัวเลขข้างต้น เกิดขึ้นจากการผลักดันโครงการ L’Oréal For Youth (L4Y) โครงการระดับโลกของ ลอรีอัล กรุ๊ป ที่มุ่งสร้างโอกาสให้คนรุ่นใหม่ทั่วโลกมีความเท่าเทียมในการพัฒนาและสร้างอาชีพ
ปี 2023 มีคนรุ่นใหม่กว่า 100,000 คนได้ประโยชน์จากกิจกรรม ได้รับการจ้างงาน รวมถึงการพัฒนาคนรุ่นใหม่ผ่านกิจกรรมต่างๆ เช่น โครงการฝึกงาน, โครงการเล่าเรียนควบคู่กับการทำงาน, โครงการผู้ฝึกงานด้านการบริหาร, L’Oréal SeedZ, ตำแหน่งในโครงการ V.I.E. ของสถานทูตฝรั่งเศส และโอกาสเรียนรู้การทำงานแบบอื่นๆ
4. พนักงานทั่วโลกกว่า 15,000 คน มีอายุมากกว่า 50 ปี
เพื่อรับมือกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ทั้งเรื่องประชากร เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ลอรีอัล แสดงจุดยืนที่จะเป็นองค์กรที่เปิดพื้นที่ให้คนทุกวัย ไม่ว่าอายุเท่าไรหรือมีประสบการณ์มากน้อยแค่ไหนก็มีโอกาสในการทำงาน ที่ลอรีอัลทั่วโลก พนักงาน 15% ของบริษัทอายุมากกว่า 50 ปี และเป็นครั้งแรกที่มีคน 4 รุ่นทำงานร่วมกัน
คาดการณ์ว่า ภายในปี 2035 ยุโรปจะมีประชากรครึ่งหนึ่งอายุมากกว่า 45 ปี 70% ของตำแหน่งงานในอนาคตจะเป็นงานที่ยังไม่มีในปัจจุบัน และปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะส่งผลกระทบต่อทุกอาชีพ เป้าหมายขององค์กรคือ ต้องพัฒนาทักษะการทำงานตลอดชีวิตการทำงาน พร้อมจะเป็นบริษัทที่เปิดกว้าง สร้างแรงบันดาลใจ และสร้างสรรค์นวัตกรรมให้กับคนทุกวัย
เป็นที่มาของการริเริ่มโครงการ L’Oréal For All Generations ในปี 2022 โครงการระดับโลกที่ส่งเสริมให้คนทุกรุ่นทำงานร่วมกัน และมีงานทำได้ตลอดชีวิตวัยทำงาน มุ่งเน้นไปที่การปรับกิจกรรมด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี และเพิ่มโอกาสการทำงานในทุกช่วงของอาชีพ
นอกจากนี้ยังช่วยให้การเกษียณเป็นไปอย่างราบรื่น และเปิดโอกาสให้มีส่วนร่วมได้อย่างต่อเนื่องผ่านเครือข่ายของพนักงานเก่า ตั้งแต่การเรียนออนไลน์ การทำงานร่วมกันของคนวัยต่างๆ ไปจนถึงการตรวจสุขภาพเฉพาะทางและอบรมทักษะดิจิทัล
ไม่แปลกใจเลยที่ ลอรีอัล กรุ๊ป สามารถขับเคลื่อนความมุ่งหมายระดับโลกได้สำเร็จในทุกประเทศที่เข้าไปดำเนินธุรกิจ เพราะหัวใจสำคัญอยู่ที่การสร้างพลังให้กับ ‘คน’ ที่หลากหลายด้วยความเท่าเทียมและไม่แบ่งแยก ไปจนถึงการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่สนับสนุนให้ทุกคนกล้าเป็นตัวเอง กล้าแสดงความคิดเห็น มีความสุข มีพลังในการทำงาน
อ้างอิง: