วันนี้ (24 กันยายน) เวลา 14.20 น. ธเนศ วีระศิริ ที่ปรึกษาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุถนนสามเสน บริเวณหน้าโรงพยาบาลวชิรพยาบาลทรุดตัว
โดยระบุว่า จากการพิจารณาด้วยสายตา ปัญหาขณะนี้คือน้ำประปายังมีการไหลอยู่ฉะนั้นแล้วจะทำให้ดินจากที่สูงไหลไปที่ต่ำ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ต้องพยายามกั้นไม่ให้น้ำไหลเข้ายังจุดทรุดตัวเพิ่มเติมถ้าวันนี้มีการหยุดน้ำไหลได้ก็จะสามารถวางแผนเสถียรภาพในการป้องกันเหตุต่อได้
ความเสียหายส่วนที่เห็นชัดเจนคือเสาเข็มของสถานีตำรวจนครบาล (สน.) สามเสน ขาด และไม่มีกำแพงดินกันตัวอาคาร จากนี้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปสำรวจบริเวณดังกล่าวเพิ่มเติมเพื่อไม่ให้ผู้พักอาศัยในแฟลตตำรวจได้รับอันตรายหากต้องการกลับเข้ามาในพื้นที่
อย่างไรก็ตามในฝั่งโรงพยาบาลจะมีการพิจารณาเรื่องความหนาของกำแพงของอาคารเพิ่มเติมซึ่งการออกแบบฝั่งโรงพยาบาลมีการออกแบบให้มีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว
ในส่วนของน้ำที่ไหลออกมาจากท่อ ทราบว่ามีน้ำท่อระบายน้ำและท่อประปา ทั้งนี้ยืนยันได้ว่าดินยังมีการเคลื่อนตัวอยู่ซึ่งสาเหตุหลักคือเรื่องน้ำที่ไม่หยุดไหล กรณีถ้ามีฝนตกลงมาดินที่ค้างอยู่ด้านบนก็จะยิ่งไหลลงมาเพิ่มเติม
ทั้งนี้ที่เราเห็นว่าดินยังไม่เคลื่อนไหวคือดินมีเสถียรภาพอยู่แต่น้ำจะเป็นปัจจัยที่ทำให้ดินมีการเคลื่อนที่ ฉะนั้นต้องขอประชาสัมพันธ์ให้ ประชาชนหรือเจ้าหน้าที่ที่อยู่ฝั่งสถานีตำรวจนครบาล งดการใช้น้ำเพื่องดการระบายน้ำออกมาตามท่อ
ส่วนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่สามารถยืนอยู่ตำแหน่งที่มีความมั่นคงได้แต่ทั้งนี้จุดที่จะยืนจะต้องมีการพิจารณาตลอดเวลา
ธเนศ ระบุต่อว่ากล้องวัดความลาดเอียงของวิศวกรรมสถานฯ ได้ให้ข้อมูลว่าขณะนี้ อาคารฝั่ง สน.สามเสน มีการเคลื่อนตัวจาก 2 มิลลิเมตร
อย่างไรก็ตามเวลา 14.10 น. เจ้าหน้าที่จากบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในบริทผู้รับเหมาก่อสร้างรถไฟฟ้าใต้ดินสายสีม่วงช่วงใต้ จุดเกิดเหตุ บริเวณถนนสามเสนหน้า โรงพยาบาลวชิรพยาบาล นำกล้องวัดการเอียงตัวมาติดตั้งเพื่อดำเนินการ วัดความลาดเอียง ของสิ่งก่อสร้าง โดยเน้นไปที่สถานีตำรวจนครบาล(สน.) สามเสน และ แฟลตที่พักอาศัยด้านหลัง
ณ เวลา 14.15 น. สิ่งก่อสร้างดังกล่าวไม่เกิดความลาดเอียงหรือทรุดตัวซึ่งอีก 30 นาที เจ้าหน้าที่จะนำเครื่องดังกล่าวกลับมาวัดณจุดเดิมและจะเปลี่ยนจุดไปเรื่อยๆ เพื่อให้พบบริเวณรัศมีที่จะเห็นได้