‘แบงก์ชาติ’ เผยแนวทางลดผลกระทบมาตรการจัดการบัญชีม้า ได้แก่ ร่นเวลาปลดระงับวงเงิน ‘ผู้บริสุทธิ์’ ให้เร็วขึ้น เร็วสุดเพียง 3-4 ชั่วโมง และเตรียมทำระบบคัดแยก ‘บัญชีม้า’ กับ ‘ผู้บริสุทธิ์’ เสร็จภายในสิ้นกันยายนนี้ ยืนยันไม่เห็นพฤติกรรม ‘ถอนเงิน-โอนเงิน’ เพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ ชี้ระบบธนาคารยังมีสภาพคล่องสูงมาก
วันนี้ (15 กันายน) ดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า สาเหตุหลักที่ทำให้มีการระงับการทำธุรกรรมจำนวนมากขึ้นในปัจจุบันเนื่องจากมีการบังคับใช้ พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2568 เมื่อเมษายนที่ผ่านมา ทำให้มีความพยายามกวาดบัญชีม้า และ ‘ต่อเส้นเงิน’ มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม มิจฉาชีพมักจะเก่งในการหลอกคนที่ไม่เกี่ยวข้องให้มาใช้บัญชีของตนเอง ซึ่งนำไปสู่ผลกระทบต่อผู้สุจริตในวงกว้าง โดยการต่อเส้นเงินนี้ ยังมีอีกเป้าหมายคือ การกักเงินที่ถูกหลอกให้คงอยู่ในระบบให้ได้มากที่สุด
ดังนั้น “การต่อเส้นเงินต้องทำอย่างรวดเร็ว เพื่อกักเงินไว้ให้ได้มากที่สุด และต้องต่อเท่าที่จำเป็น” ดารณี กล่าว
นอกจากนี้ เมื่อช่วงกลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีการต่อเส้นการเงินเพิ่มไปยังผู้ให้บริการ e-Money และ Digital Asset ด้วย “ทำให้ต้องมีการเชื่อมโยงสินทรัพย์เหล่านี้เข้ามาในเส้นเงินด้วย ทำให้เส้นเงินยาวขึ้นและกระทบผู้คนจำนวนมาก”
ทั้งนี้ ‘การถูกอายัดบัญชี’ ในกรณีการกระทำทุจริตทางการเงิน จะต้องเป็นผู้ที่มีหมายอายัดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และปปง. ได้พิสูจน์ความผิดแล้ว โดยการปลดอายัด ในกรณีนี้จะมีกระบวนการที่ต่างออกไปจาก ‘การถูกระงับธุรกรรม’ ข้างต้น
‘แบงก์ชาติ’ เผยแนวทางลดผลกระทบ จากมาตรการจัดการบัญชีม้า
ดารณี หลังจากธปท. ได้หารือ ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และธนาคารพาณิชย์ (ธพ.) แล้ว เห็นชอบร่วมกัน
ที่จะปรับแนวทางการระงับธุรกรรม และกระบวนการปลดการระงับ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน ‘ผู้บริสุทธิ์’
โดยในส่วนของภาคธนาคาร ธปท. ได้ให้ธนาคารพาณิชย์ ดำเนินการหลักๆ ดังนี้
- กวาดบัญชีม้าและต่อเส้นเงิน ‘เท่าที่จำเป็น’ หรือระบุบัญชีมิจฉาชีพ แยกออกจากบัญชีผู้บริสุทธิ์ ให้ได้อย่างถูกต้องรวดเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้หลอกลวงผู้เสียหายเพิ่ม ภายในสิ้นกันยายนนี้
- ลดระยะเวลาการปลดการระงับธุรกรรมของผู้บริสุทธิ์ให้เร็วขึ้น อย่างเร็วสุดภายใน 4 ชั่วโมง (จากเดิม 3-7 วัน)
- เร่งปรับการแจ้งผู้ถูกระงับธุรกรรมให้มีความชัดเจน ถึงลักษณะการถูกระงับและสิ่งที่ผู้ได้รับผลกระทบต้องทำต่อ และให้เป็นมาตรฐานยิ่งขึ้น
ขณะที่ อรมนต์ จันทพันธ์ ผู้อำนวยการ ธปท. กล่าวว่า จากการรวบรวมข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม – 11 กันยายน จำนวนบัญชีในเส้นเงินที่ถูกระงับชั่วคราว เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10,000 บัญชีต่อสัปดาห์ โดยจำนวนนี้ รวมบัญชีทั้งหมด ทั้งบัญชีผู้บริสุทธิ์และมิจฉาชีพ
นอกจากนี้ ถึงแม้จะมีการพูดถึงประเด็นดังกล่าวอย่างกว้างขวางในโซเชียลมีเดีย แต่ยังไม่พบว่า ยอดการโดนระงับบัญชีเพิ่มขึ้นสูงผิดปกติ กล่าวคือ มีความเป็นไปได้ว่ากรณีที่ปรากฏในโซเชียลมีเดียอาจเป็นบัญชีที่ถูกระงับมาก่อนหน้านี้แล้ว
ขณะที่ สุปรีชา ลิมปิกาญจนโกวิท ผู้แทนจากสมาคมธนาคารไทย ยังเปิดเผยว่า วานนี้ (14 กันยายน) มีผู้โทรเข้าระบบ AOC 1441 กด 2 เพียงประมาณ 100 รายเท่านั้น ขณะที่ อัตราปลดสำเร็จอยู่ที่ราว 10% นอกจากนี้ จากการตรวจสอบกับหลายธนาคารก็พบว่า จำนวนผู้ร้องเรียนที่โทรเข้าไปยังธนาคารต่างๆ ยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ และไม่ได้มีตัวเลขที่ผิดปกติแต่อย่างใด