🤔 ว่ากันว่า ‘กฎข้อแรกของการเป็นแชมป์’ คือทีมของคุณต้องหาทางเก็บ 3 แต้มมาได้ให้ถึงมือ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม…แม้เกมนั้นจะเต็มไปด้วยอุปสรรค ที่ดูท่าว่าจะจบแบบเจ๊าหรือเสียแต้มก็ตาม
สิ่งนั้นกำลังเกิดขึ้นกับ ลิเวอร์พูล ในภารกิจป้องกันบัลลังก์พรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2025/26
ล่าสุด หงส์แดงเพิ่งบุกไปเฉือน เบิร์นลีย์ ถึงเทิร์ฟมัวร์ แบบใจหายใจคว่ำ จากจุดโทษของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ นาที 90+5 คว้า 3 แต้มล้ำค่า และกลายเป็นทีมเดียวในลีกตอนนี้ที่ชนะ 4 นัดรวด มี 12 คะแนนเต็ม
แต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้ ลิเวอร์พูลก็แสดงให้เห็นแล้วว่า พวกเขาเชี่ยวชาญการ ‘เอาตัวรอด’ และพลิกเกมเก็บแต้มในช่วงท้ายได้บ่อยครั้ง จนกฏข้อแรกของการเป็นแชมป์…กำลังถูกเขียนขึ้นใหม่ในชื่อ ‘Arne Time’
◾ เกมที่ 1: เกือบเปิดหัวไม่สวย
นัดเปิดฤดูกาล ลิเวอร์พูลออกนำ 2-0 ก่อนโดนตีเสมอ 2-2 แต่ท้ายเกมพวกเขากลับมาได้สองประตูจาก เฟเดริโก คิเอซ่า นาที 84 และ ซาลาห์ (ทำสถิติยิงเกมเปิดซีซันมากที่สุด 10 ลูก) ตะบันประตูปิดกล่องนาที 90+4 พาทีมชนะ 4-2
◾ เกมที่ 2: เซนต์เจมส์พาร์ก มีอำเภอไหม? พอดีมีเด็กจะแจ้งเกิด
ตัดมาเจอนัดเจอ นิวคาสเซิล ที่เหลือ 10 คนตั้งแต่ครึ่งแรก หงส์แดงนำ 2-0 แต่ถูกเจ้าถิ่นที่วิ่งสู้ฟัดสุดๆ ไล่ตีเสมอ 2-2 จนสุดท้ายเป็นทีเด็ดของดาวรุ่ง ริโอ เอ็นกูโมฮา (ที่ตอนนั้นอยู่ในวัย 16 ปี 361 วัน) ยิงนาที 90+10 พาทีมชนะ 3-2 พร้อมแจ้งเกิดแบบเต็มตัว
◾เกมที่ 3: โซโบ พระเอกตัวจริง!
ในแมตช์ใหญ่กับคู่แข่งแย่งแชมป์อย่าง อาร์เซนอล ที่ดำเนินไปอย่างสูสี ทั้งสองทีมเล่นด้วยความระมัดระวังสุดๆ ก่อน โดมินิค โซบอซไล รับหน้าที่พรกเอกของงาน กดฟรีคิกนาที 82 เป็นประตูชัย 1-0 เก็บ 3 แต้มสุดระทึกในแอนฟิลด์
◾เกมที่ 4: Arne Time = เวอร์ชันใหม่ของ Fergie Time
และล่าสุดกับ เบิร์นลีย์ ที่ยื้อเกมไว้จนถึงช่วงทดเจ็บ ก็ไม่วายมาพลาดเสียจุดโทษจากแฮนด์บอลในเขตโทษ ก่อนเป็นซาลาห์ที่จัดการปิดบัญชีจากจุดโทษ นาที 90+5 ให้ทีมชนะอีกครั้ง
สิ่งที่เกิดขึ้น ในเกมล่าสุดทำให้หลายคนเทียบกับ ‘Fergie Time’ ในยุคทองของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยฝากความทรงจำด้วยการที่ลูกทีมปีศาจแดงของเขามักจะยิงประตูชัยช่วงท้ายเกมบ่อยครั้ง
ตอนนี้ ลิเวอร์พูล ของ อาร์เน่ ชลอต กำลังสร้าง ‘Arne Time’ ในแบบฉบับตัวเองเช่นกัน
และจากสิ่งที่เกิดขึ้นในเกมลีกของลิเวอร์พูลทั้งหมดนี้ มันชัดเจนว่าเข้าข่าย ‘กฏข้อแรกของการเป็นแชมป์’ แบบเห็นๆ พวกเขาชนะเกมที่เกือบจะชนะไม่ได้ แต่ยังคว้า 3 แต้มกลับออกมาได้เสมอ
แน่นอนว่าฤดูกาลยังเหลืออีกยาวไกลถึง 34 นัด และคงเร็วเกินไปที่จะพูดว่าพวกเขาจะป้องกันบัลลังก์ได้หรือไม่
แต่…ถ้าลิเวอร์พูลยังพกพาสซิฟข้อนี้ติดตัวไปตลอดเส้นทางล่ะก็ การป้องกันแชมป์คงไม่ใช่เรื่องเพ้อฝันเกินไปเลยใช่ไหมล่ะ?