กิจกรรมหลักของนักท่องเที่ยวยามมาเยือนอำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช คือการออกเรือตามล่า ‘ปลาโลมาสีชมพู’ ซึ่งมักแหวกว่ายล้อคลื่นอยู่ริมฝั่ง แน่นอนว่าการเจอะเจอนั้นต้องขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ ช่วงเวลา และ ‘ดวง’ เป็นสำคัญ ไม่นานมานี้ผู้เขียนได้รับเชิญให้ร่วมสัมผัสขนอมในแง่มุมที่ต่างออกไป ไม่มีเหล่าวาฬมาทักทายเซย์ฮัลโหลให้ถ่ายรูปรัวชัตเตอร์ ซึ่งถามว่าเราเสียดายไหม บอกเลยว่าโ_ตรเสียดาย แต่นั่นแหละ…เรายอมได้ เพราะการแปลงร่างเป็นชาวประมงตามชาวบ้านออกไปหาปลาในเทศกาลตกปลาทรายก็ทำให้เราสนุกและลุ้นไปกับพวกเขาเช่นกัน
เทศกาลตกปลาทราย เป็นเทศกาลท้องถิ่น ซึ่งจัดขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 14 แล้ว โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างสีสันให้แก่ชุมชนและนักท่องเที่ยวต่างถิ่น ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 นายมาเนก เสือทอง เล่าให้ผู้เขียนฟังว่า “การตกปลาทรายมีมาตั้งรุ่นปู่ย่ายังสาว ชาวบ้านมักนุ่งโสร่งผ้าถุงออกไปยืนตกปลาตามโขดหินบ้าง ชายหาดบ้าง โดยเฉพาะช่วงเดือนร้อนไปฝนจะเห็นให้พรึบ พอตกได้ก็จะนำมาปรุงเป็นอาหารให้ลูกหลานกิน นำมาทอดกินบ้าง ต้มบ้าง แกงบ้าง ซึ่งล้วนแล้วแต่อร่อยทั้งสิ้น จากวิถีชีวิตก็แปรเปลี่ยนเป็นกิจกรรมชุมชน ปีแรกที่จัดก็มีแต่ชาวบ้านในละแวกเท่านั้น แต่ดูปัจจุบันสิครับ คนจากต่างจังหวัดมากันเยอะมาก กลายเป็นเทศกาลที่นักตกปลาท้องถิ่นแวะเวียนมาประชันฝีมือ”
ร้านอาหารหน้าหาดขนอม บรรยากาศดีและอร่อย
งานแข่งเทศกาลจะเริ่มกันตั้งแต่เช้าตรู่ โดยผู้เข้าแข่งขันจะต้องมาลงทะเบียนบริเวณงานซึ่งตั้งอยู่บริเวณหาดในเพลา พอได้ฤกษ์งามยามดี กรรมการจะให้สัญญาณปล่อยเรือแข่งขัน หลังจากนั้นเรือทุกลำจะทะยานออกชายฝั่งเพื่อจับจองหาจุดที่ตนคิดว่าชุกชุมที่สุดและตกได้มากที่สุด ทุกทีมจะมีเวลาเท่ากัน 5 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่ 9.00-14.00 น. มีข้าวกล่องและอาหารกลางวันพร้อมให้หอบหิ้วไปกินยามหิว
ความคิดแรกของฉันหลังจากออกเรือตามชาวบ้านไป สิ่งแรกที่สงสัยเลยคือทำไมต้องใช้เบ็ดตกปลาตกด้วย เนื่องจากปลาทรายเป็นปลาขนาดเล็ก และดูไม่ใช่ปลาที่นักตกปลาส่วนใหญ่ภิรมย์นักกับการตกได้ ถ้าใช้แห อวน หรือเครื่องมือจับปลาชนิดอื่นคงดีกว่า ซึ่งผู้ใหญ่ก็ให้ความกระจ่างอันน่าตกใจ
“ชาวขนอมเราตกปลาทรายจากคันเบ็ดเท่านั้นครับ เราเป็นชุมชนขนาดเล็ก หาเลี้ยงปากท้องด้วยการประมงง่ายๆ ตกเพื่อกินเสียส่วนใหญ่ เหลือก็ขาย ถ้าใช้อวน แห หรือเครื่องมือชนิดอื่นคาดว่าคงไม่เหลือปลาให้กิน” ผู้ใหญ่ตอบพลางหัวเราะ
ทีมออกหาปลา ฝนตกก็ไม่หวั่น
ใช้คันเบ็ดเกี่ยวเหยื่อตกปลาทีละตัว
ปลาทรายและปลาชนิดอื่นที่ตกมาได้
หลังจากแข่งขันเสร็จก็นำไปประกอบอาหาร
ช่วงเดือนมิถุนายนถึงสิงหาคมจะเป็นช่วงที่ปลาชุกชุมที่สุด ปลาทรายจะมีมากมหาศาล ว่ายลัดเลาะกับอยู่ชายฝั่ง โขดหิน เยอะถึงขนาดหย่อนเบ็ดปุ๊บ ปลาก็กินเหยื่อทันทีแทบไม่ต้องรอ ง่ายจนนึกฉงน การแข่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ประเภทแรกเอาปริมาณ ทีมไหนตกได้น้ำหนักรวมเยอะสุดก็ชนะไป ประเภทที่สองคือแข่งกันที่ขนาด ทีมไหนตกปลามาได้ตัวใหญ่สุดก็ชนะไป ระหว่างรอทีมนักตกออกเรือหาปลาในทะเล บนบกก็มีกิจกรรมอื่นให้เชียร์กันมันหยดติ๋ง ทั้งการแข่งมวยทะเลที่ให้ผู้แข่งนั่งบนท่อนไม้กลางทะเล ผลัดกันชกสวนกันไปมา ใครตกทะเลก่อนคนนั้นแพ้ การแข่งลิงเก็บมะพร้าว ซึ่งสเตจนี้ขอบอกเลยว่าสนุกสุดเหวี่ยง เชียร์กันลืมโลก ลืมเวลา ตะโกนแข่งกันจนเจ็บคอไปหมด
มวยทะเล คนแข่งอยู่ในน้ำ คนเชียร์อยู่บนบก
เรือเทียบฝั่ง
พอถึงเวลาบ่ายสอง เรือทั้งหมดต่างทยอยจอดเทียบท่า กิจกรรมต่างๆ ตามหาดถูกหยุด ชาวบ้านต่างแห่กันมุงโต๊ะชั่งน้ำหนัก บางทีมตกได้เยอะมากกว่า 4 กิโลกรัม ส่วนบางทีมตกได้ไม่ถึงกิโลกรัม คุณป้าผู้ได้รางวัลที่หนึ่งบอกกับผู้เขียนว่า “โอ๊ย ปีนี้พี่นึกว่าจะไม่ชนะเสียแล้ว ปกติตกได้เป็น 10 กิโลกรัม” เมื่อได้ยินดังนั้นทางผู้ใหญ่บ้านก็เสริมทันทีว่า “ปีนี้สภาพอากาศแปรปรวน ฝูงปลาอพยพมาน้อยกว่าเดิมเยอะมาก คงต้องดูทั้งฤดูกาลว่ากระทบมากน้อยแค่ไหน แต่ผมคาดว่าคงไม่กระทบเท่าไร เพราะเราไม่ได้ทำประมงเพื่อค้าขาย แต่ทำเพื่อยังชีพ”
ชั่งน้ำหนักแข่งกัน ใครน้ำหนักเยอะที่สุดชนะ ทีมนี้ได้ 3 กิโลกรัมกว่า
ชาวบ้านมุงดูเพื่อลุ้นผลน้ำหนักของแต่ละทีม
หลายคนบอกว่าการตั้งโรงไฟฟ้าขนอมอาจสร้างมลพิษและผลเสียแก่ธรรมชาติ แต่เท่าที่ผู้เขียนไปเยือนขนอมคราวนี้ ดูเหมือนว่าธรรมชาติของขนอมยังคงอยู่และสดใหม่เหนือคำบรรยาย หาดทรายขาวเนียนละเอียดทอดตัวโค้งยาวเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว น้ำทะเลสีฟ้าคราม มีเกาะแก่งแทรกแซมยามเมื่อมองทอดไกล ทิวทัศน์ของขนอมช่างสวยงามไม่ต่างจากฝั่งอันดามันเท่าไรนัก หากแต่ความเงียบสงบต่างกันราวฟ้ากับดิน
ท่าเรือแหลมประทับ สำหรับออกชมปลาโลมาสีชมพู
อำเภอขนอมยังมีสถานที่ให้ชมเพียบเลย ไม่ว่าจะเป็นการออกทะเลไปดูรอยเท้าหลวงปู่ที่เกาะนุ้ยนอก ซึ่งพี่เจ้าเรือแอบชี้จุดพร้อมเล่าให้ฟังว่าที่นี่เป็นแหล่งน้ำจืดของชาวเล เวลาออกเรือแล้วขาดน้ำจืดก็จะเดินมาเติมตรงนี้แหละ เป็นตาน้ำจืดกลางทะเล ซึ่งถ้าไม่สังเกตจะไม่รู้ว่าในแอ่งน้ำเล็กๆ เป็นน้ำจืด ไม่ใช่น้ำทะเล มีจุดดำน้ำดูปะการังหลายจุด มีเขาหินพับผ้า เขาหินลูกใหญ่กลางทะเลที่มีชั้นหินเป็นริ้วให้ดูเป็นชั้นๆ ลักษณะเหมือนแผ่นหินทับซ้อนเรียงต่อกันราวกับผ้าพับไว้ ฯลฯ
เกาะนุ้ยนอก
เขาพับผ้า
แม้ทริปนี้จะไม่เจอปลาโลมาสีชมพูตัวเป็นๆ เจอแต่โลมาจำลองตามร้านอาหาร แต่ก็เป็นทริปที่สนุกและได้ประสบการณ์มาเต็มเปี่ยม หากใครสนใจอยากมาเที่ยว แนะนำให้พ่วงมาด้วยทริปอื่นในจังหวัดเดียวกัน (ดูสถานที่อื่นเพิ่มเติมได้ที่นี่) รับรองว่าจะได้ประสบการณ์สนุก ของกินอร่อย ทั้งยังสนับสนุนชุมชนให้ก่อเกิดรายได้ด้วย
Special Thanks
- กองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงาน กกพ.
- เทศกาลตกปลาทราย เป็นหนึ่งในโครงการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาไฟฟ้าขนอม เพื่อให้ชาวบ้านมีรายได้ มีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น