วันนี้ (28 สิงหาคม) ภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงแนวทางการดำเนินการแก้ปัญหากรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าจับกุมนักเรียนชายวัย 13 ปี และควบคุมตัวมารดาซึ่งเป็นชาวกัมพูชา ในฐานลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย ว่า รับทราบเมื่อเช้านี้ เป็นเรื่องที่สะเทือนใจของคุณครูที่อยู่ในโรงเรียนทั้งหมดเพราะเห็นมาตั้งแต่เด็ก ไม่ได้มีเจตนาจะทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ภายในประเทศด้านความมั่นคง ซึ่งน่าเห็นใจ
ภูมิธรรมยังระบุอีกว่า ได้สั่งการให้ ชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ เลขาธิการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามประสานไปยังพื้นที่ ซึ่งทุกฝ่ายรับทราบและเป็นเรื่องของกฎหมายที่เจ้าหน้าที่ต้องปฏิบัติตาม ไม่เช่นนั้นจะเป็นการละเว้นปฏิบัติหน้าที่
ขณะเดียวกันได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งทุกภาคส่วนกำลังคิดและหาทางออกให้ดีที่สุด เพราะไม่ใช่ปัญหาด้านอาชญากรรม
แต่ขอเวลาเนื่องจากตามกฎหมาย แม่ของเด็กชาวกัมพูชาจะต้องถูกผลักดันออกนอกประเทศ ส่วนเด็กยังอยู่ได้เพราะถูกคุ้มครองด้วยอายุที่ยังไม่ถึง 15 ปี แต่การที่จะให้เด็กอายุไม่เกิน 15 ปี อยู่โดยไม่มีญาติพี่น้องในประเทศไทย ก็จะเป็นการจัดการทางมนุษยธรรมที่ยากเกินไป ขออย่ากังวลใจ รัฐบาลรับทราบเรื่องแล้ว ทุกฝ่ายก็ปฏิบัติต่อเด็กเป็นอย่างดี และจะแก้ไขปัญหานี้ให้ดีที่สุด
ส่วนเด็กจะสามารถเรียนต่อได้หรือไม่ ภูมิธรรมระบุว่า ต้องไปดูช่องทางทางกฎหมาย เช่นเดียวกับการขอสัญชาติไทยที่ต้องดูไปถึงแม่เด็กด้วย เนื่องจากอาศัยอยู่ในประเทศไทยตั้งแต่เด็ก เหมือนเช่นกรณีชาวอุยกูร์ที่ถูกควบคุมตัวมากว่า 10 ปี ต้องหาช่องทางในการคลี่คลาย กฎหมายก็ต้องว่าให้ถูกต้อง มนุษยธรรมก็ต้องดูให้สอดรับกับความเป็นจริง ซึ่งต้องพิจารณาเป็นรายกรณีไปและจะพยายามดำเนินการอย่างเต็มที่