วันนี้ (25 สิงหาคม) พล.ท. บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ร่วมสนทนาพิเศษ ‘เรื่องจริงจากชายแดน’ ที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ท่ามกลางนิสิต บุคลากร และศิษย์เก่าที่เข้าร่วมรับฟังอย่างล้นหลาม
พล.ท. บุญสิน กล่าวตอนหนึ่งว่า เพลงชาติไทยเป็นเพลงที่บางคนร้องเบา บางคนไม่อยากร้อง แต่บางคนไม่มีที่จะร้องด้วยซ้ำ เพราะไม่มีแผ่นดินที่จะให้ร้อง พวกเรามีแผ่นดินทำไมเราไม่ร้องดังๆ ถ้าเราไม่มีที่ร้อง เพลงนี้เราจะไม่ได้ร้องเลย พร้อมย้ำจุดยืนว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองหลังเกษียณอายุราชการ แม้จะได้รับการชักชวน โดยขอยืนหยัดทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดินไทยจนกว่าจะสิ้นลมหายใจ
“ขอย้ำว่าผมไม่เล่นการเมือง อยู่ตรงไหนก็ได้ที่ไม่มีผลประโยชน์ คำพูดนี้คงจะสื่อไปถึงหลายท่านที่ชักชวนผมเล่นการเมือง ผมไม่ถนัด แต่ถนัดปกป้องแผ่นดินเพื่อประเทศชาติ ด้วยเหตุนี้ที่พี่น้องคนไทยคิดถึงผม เพราะไม่ใช่หน้าตาดีอะไรมากมาย”
พล.ท. บุญสิน ยังเปิดเผยถึงเบื้องหลังการปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาที่ปราสาทตาเมือนธมเมื่อวันที่ 24-28 กรกฎาคม ว่าการตัดสินใจปิดพื้นที่ปราสาทตาเมือนธมเพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนของทั้งสองประเทศฆ่ากันที่นั่น และส่วนตัวพูดตั้งแต่แรกแล้วว่า พร้อมหากจำเป็นต้องมีการปะทะ เราทำดีที่สุดแล้วในกรอบระยะเวลาที่มีอยู่ เอาแผ่นดินคืนมาได้เท่าที่มีอยู่ แลกกับน้องๆ ที่เสียสละเลือดเนื้อ
“มีใครรู้ไหมว่าอะไรเกิดขึ้นกับครอบครัวเขาบ้าง น้องที่ขาขาดดมยาสลบตื่นขึ้นมาพูดอยู่คำหนึ่งว่า พวกเรายึดได้ไหมพี่ นี่คือสิ่งที่มันเกิดขึ้นจริง เจ็บจริงและเสียชีวิตจริง เราทำดีที่สุดแล้ว มันไม่ง่าย ไม่ใช่เดินไปแล้วปักธง เขาก็มีปืนใหญ่ จรวด ผมต้องขอชื่นชมและสดุดีวิญญาณที่พลีชีพเพื่อชาติและบาดเจ็บจำนวนมาก รวมถึงประชาชนที่สูญเสียในห้วงดังกล่าว” พล.ท. บุญสิน กล่าว
จากนั้น พล.ท. บุญสิน ได้ตอบคำถามนักศึกษาเรื่องความท้าทายของภารกิจการดูแลชายแดนว่า ไทยและกัมพูชาต่างฝ่ายต่างคิดว่าแผ่นดินนี้เป็นของตัวเอง เป็นความยากที่สองประเทศคุยกันไม่รู้เรื่อง นำไปสู่ความขัดแย้งด้วยการใช้อาวุธ
“วันดีคืนดีก็มาบอกว่า 3 ปราสาท 1 พื้นที่ เป็นของข้าพเจ้า มันจะเป็นได้อย่างไร ก็กูอยู่ของกูอย่างนี้มานานแล้ว ตามที่พูดไป มันไม่ได้ รัฐบาลก็คุยกับรัฐบาล ผมก็คุยกับแม่ทัพกัมพูชา ผมก็ตัดสินใจได้ ถ้าลูกน้องผมตาย ผมก็มีสิทธิ์ป้องกัน เพราะฉะนั้นมันยากตรงที่ว่าอีกฝ่ายหนึ่งอยากได้แผ่นดิน เราไม่ยอม บางพื้นที่ที่เขาล้ำขึ้นมา เราก็ไม่ยอม” พล.ท. บุญสิน กล่าว
พล.ท. บุญสิน กล่าวถึงความท้าทายในการตัดสินใจของผู้นำ ที่ต้องแบกรับแรงกดดันและคำวิจารณ์ว่า ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบในทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และภาพลักษณ์ของประเทศในเวทีโลก ไม่สามารถใช้เพียงความดุดันในการตัดสินใจได้ ยืนยันว่าทุกการกระทำเป็นไปตามแผนที่วางไว้ และการตัดสินใจในสถานการณ์ที่ผ่านมาถือว่าเหมาะสม เพราะตอบโต้หลังฝ่ายกัมพูชายิงใส่ก่อน
“วันนั้นวัยรุ่นไปเจอกันที่ปราสาทตาเมือนธม การตัดสินใจที่ลำบากที่สุด เพราะถ้าปิดยิงกันแน่นอน ตีหนึ่งรายงานผู้บังคับบัญชาขออนุญาตปิด ปิดตีสอง ตื่นเช้ามาเขาก็ยิงเราก่อน เพราะเขาบอกว่าเราปิดประเทศเขา แต่กูก็ปิดประเทศของกูเหมือนกัน จึงเป็นที่มาของสี่คืนห้าวัน และได้คืนมาในหลายตารางกิโลเมตร ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในแผนงานที่วางไว้หมดแล้ว แม่ทัพไม่ใช่แม่ทัพที่ใช้อารมณ์ทุกอย่างวางแผนไว้ วิชาที่ร่ำเรียนมาได้ใช้เพื่อบ้านเมือง ผมขอยืนยันกับประชาชนทุกคน”
นอกจากนี้ พล.ท. บุญสิน ยังตอบคำถามที่หลายคนถามว่ามีทหารไว้ทำไมว่า เป็นคำถามที่ทำให้ทหารน้อยใจแต่ตอบโต้ไม่ได้ เพราะบางคนฝึกมาทั้งชีวิตเพิ่งได้รบวันนี้ ต้องสั่งสมไว้ปฏิบัติทันทีเมื่อมีเหตุการณ์ ส่วนช่วงที่ไม่รบ ทหารยังมีหน้าที่สำคัญในการฝึกฝน ช่วยเหลือประชาชน พัฒนาประเทศ และรับมือกับภัยพิบัติต่างๆ ส่วนสถานการณ์ชายแดนในอนาคตจะเกิดการปะทะขึ้นอีกหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับท่าทีของกัมพูชา แต่ไทยมีความพร้อมที่จะตอบโต้