กรุงศรี คอนซูมเมอร์ เผยภาพรวมธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลปี 2568 มีแนวโน้มชะลอตัว ผู้บริโภครัดเข็มขัดและลดการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอย่างชัดเจน เดินหน้าลีนองค์กร งัดดาต้าปรับสิทธิประโยชน์บัตรให้ตรงความต้องการลูกค้า
อธิศ รุจิรวัฒน์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ และประธานชมรมธุรกิจบัตรเครดิต สมาคมธนาคารไทย เปิดเผยถึงภาพรวมธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลในปี 2568 ว่ามีแนวโน้มชะลอตัว สินเชื่อเพื่อรายย่อยเติบโตช้า สาเหตุหลักมาจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังเปราะบาง ภาวะความเชื่อมั่นของตลาดที่ยังไม่ฟื้นตัว และปัจจัยกดดันต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเศรษฐกิจในประเทศนั้นค่อนข้างซบเซา
“เรียกได้ว่าเป็นปีที่ท้าทายอย่างมาก และอาจจะมากที่สุดเท่าที่เคยผ่านมา เศรษฐกิจในประเทศซบเซา ประเทศไทยเผชิญกับปัจจัยลบหลายอย่าง ได้แก่ เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นในเอเชีย การลดลงของนักท่องเที่ยวจีนกว่า 20-30% ซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของประเทศ การใช้จ่ายในประเทศลดลง และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่ำลงอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ หนี้ครัวเรือนยังคงสูงที่สุดในรอบ 15 ปี (เมื่อเทียบกับ GDP) และภาคการส่งออกและการผลิตก็ประสบปัญหา”
อธิศ รุจิรวัฒน์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ และประธานชมรมธุรกิจบัตรเครดิต สมาคมธนาคารไทย
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลังน่าจะไม่ต่างจากครึ่งปีแรก ทั้งความขัดแย้งทางชายแดนที่เพิ่มแรงกดดันต่อความรู้สึกผู้บริโภค มาตรการภาษี และการหดตัวของสินเชื่อรายย่อยของธนาคาร การท่องเที่ยวที่ลดลงยังคงเป็นปัญหาสำคัญ
ทั้งนี้ ในช่วงครึ่งแรกปี 2568 ตลาดสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันในประเทศไทยมีขนาด 469,000 ล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับตลาดบัตรเครดิต แต่ลดลง 5% จากปีที่แล้ว
“นี่ไม่ใช่ปีแรกที่ตลาดสินเชื่อส่วนบุคคลหดตัว และเป็นการหดตัวต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 นับเป็นครั้งแรกที่ตลาดหดตัวต่อเนื่องโดยไม่ได้มีปัจจัยเรื่องการระบาดของโรค แต่มาจากสภาพเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภค” อธิศกล่าวย้ำ
สำหรับหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) นั้น ยอดหนี้ NPL (ค้างชำระเกิน 90 วัน) โดยรวมของระบบเคยสูงถึง 4.3% ในเดือนกันยายนปีที่แล้ว ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงโควิด แต่ปัจจุบันลดลงอย่างต่อเนื่องเหลือ 3.7% ซึ่งสะท้อนว่าตลาดเริ่มกลับสู่สมดุล อย่างไรก็ตาม การที่ยอดสินเชื่อคงค้างลดลง สะท้อนว่าผู้ประกอบการระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลมากขึ้น คุณภาพลูกหนี้ดีขึ้น เพราะผู้ที่ยังใช้บริการอยู่สามารถบริหารจัดการหนี้ได้ดีขึ้น แต่สินเชื่อใหม่ไม่เติบโต
สำหรับผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2568 ของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ในภาพรวมนับว่ายังเติบโตดีกว่าตลาดทั้งในแง่ของจำนวนบัตรและยอดใช้จ่ายผ่านบัตร โดยมียอดใช้จ่ายผ่านบัตร 191,400 ล้านบาท, ยอดสินเชื่อใหม่ 45,400 ล้านบาท, ยอดสินเชื่อคงค้าง 136,000 ล้านบาท และยอดบัญชีลูกค้าใหม่ 273,700 บัญชี ขณะที่อัตราส่วนหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วัน อยู่ที่ระดับ 1.2% สำหรับบัตรเครดิต และ 2.3% สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในธุรกิจจากการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม
อธิป ศิลป์พจีการ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด และประธานชมรมสินเชื่อส่วนบุคคล ภายใต้สมาคมธนาคารไทย กล่าวเสริมว่า จากสภาพเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มชะลอตัวลงและภาระหนี้ภาคครัวเรือนที่สูงส่งผลให้ธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่อง โดยผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้สินเชื่อมากขึ้นและต้องการลดภาระการใช้สินเชื่อในสถานการณ์ความไม่แน่นอนจึงส่งผลให้มีการใช้สินเชื่อที่ลดลง ในขณะที่ผู้ประกอบการก็ระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ควบคู่กับมาตรการการควบคุมของหน่วยงานภาครัฐ ส่งผลให้ยอดการปล่อยสินเชื่อใหม่ลดลง จึงเป็นความท้าทายของผู้ประกอบการในการปล่อยสินเชื่อในสภาพตลาดที่มีการแข่งขันสูง
บรรยาย: อธิป ศิลป์พจีการ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อยุธยา แคปปิตอล เซอร์วิสเซส จำกัด และประธานชมรมสินเชื่อส่วนบุคคล ภายใต้สมาคมธนาคารไทย
อินไซต์เผย ผู้บริโภคใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น วางแผนระยะยาวมากขึ้น
ข้อมูลจากพฤติกรรมการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตในกลุ่มกรุงศรีคอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล อันประกอบไปด้วย บัตรเครดิต กรุงศรี, บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิต เซ็นทรัล เดอะวัน และบัตรเครดิตโลตัส ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายน 2568 ชี้ให้เห็นว่า
- กลุ่มรายได้สูง (Affluent & Super Affluent) ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลัก สร้างยอดใช้จ่ายผ่านบัตรกว่า 40% ของปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรทั้งหมด
- ในครึ่งปีแรกของปี 2568 ผู้บริโภคทุกกลุ่ม ทั้งกลุ่มรายได้ปานกลาง (Mass) และรายได้สูง (Affluent & Super Affluent) ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมชะลอการใช้จ่ายมากขึ้น ผู้บริโภคมีความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น ลดการใช้จ่ายในหมวดฟุ่มเฟือย เช่น สินค้าแฟชั่น, ตกแต่งบ้าน, สุขภาพและความงาม
- ผู้บริโภคหันมาเลือกผ่อนชำระมากขึ้น โดยเฉพาะใน 3 หมวดหลัก ได้แก่ ช้อปออนไลน์, ประกัน, ตกแต่งยานยนต์
หมวดใช้จ่ายผ่านบัตรสูงสุด 5 อันดับแรก เรียงตามยอดใช้จ่าย ได้แก่
- ประกันภัย
- ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านสะดวกซื้อ
- ปั๊มน้ำมัน
- สินค้าตกแต่งบ้าน
- ช้อปออนไลน์
หมวดใช้จ่ายผ่านบัตรสูงสุด 5 อันดับแรก เรียงตามอัตราการเติบโต ได้แก่
- กองทุนรวม
- แอปเดลิเวอรี
- โซเชียลมีเดียและแอปพลิเคชัน
- ตัวแทนท่องเที่ยว
- อุปกรณ์กีฬาและฟิตเนส
อธิศกล่าวสรุปว่า จากข้อมูลดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าความเชื่อมั่นในตลาดอาจยังไม่ฟื้นตัว ผู้บริโภคระมัดระวังมากขึ้น ลดหรือชะลอการใช้จ่ายสินค้าฟุ่มเฟือย เน้นการใช้จ่ายในหมวดที่จำเป็นและการวางแผนระยะยาวมากขึ้น ส่งผลให้แนวโน้มธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลเติบโตช้า
ทั้งนี้ จากปัจจัยท้าทายต่างๆ ในช่วงครึ่งปีหลังกรุงศรี คอนซูมเมอร์ จำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ให้สอดรับกับสภาวะตลาด โดยมุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจด้วยความระมัดระวัง เพื่อรักษาระดับผลการดำเนินงาน มุ่งสร้างความเติบโตอย่างมีคุณภาพ พร้อมบริหารต้นทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน โดยนำการวิเคราะห์ข้อมูลและเทคโนโลยี AI มาใช้ในการทำการตลาดเพื่อให้เข้าใจและเข้าถึงลูกค้าได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น, ปรับกลยุทธ์การตลาดและวิธีทำโปรโมชันโดยใช้ศักยภาพและเครือข่ายพันธมิตรของกลุ่มบริษัทเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ, พร้อมปรับจุดขายผลิตภัณฑ์บัตรเครดิตและสินเชื่อให้มีจุดเด่นและสิทธิประโยชน์ที่ตอบโจทย์ลูกค้ายิ่งขึ้น เพื่อให้ลูกค้าเลือกใช้จ่ายผ่านบัตรเป็นบัตรหลักในชีวิตประจำวันและเพิ่มยอดใช้จ่ายผ่านบัตร รวมถึงขยายฐานลูกค้าอย่างต่อเนื่อง