วันนี้ (14 สิงหาคม) ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วาระที่ 2-3 วงเงิน 3,780,600 ล้านบาท ในระหว่างวันที่ 13-15 สิงหาคม ซึ่งเป็นการพิจารณาเป็นรายมาตรา (วาระ 2) เป็นวันที่สอง
ศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส. กทม. พรรคประชาชน อภิปรายมาตรา 15 กระทรวงคมนาคม เสนอปรับลดงบประมาณของกระทรวงคมนาคม 3% จำนวน 5,558 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณโครงการอาคารกระทรวงคมนาคมใหม่ พร้อมทั้งยก 3 เหตุผลคือ
1. ต้นทุนสูงเกินไป เนื่องจากงบประมาณค่าก่อสร้างเมื่อรวมกับมูลค่าที่ดิน ค่าควบคุมงาน และค่าปรับปรุง รวมทั้งหมด 5,810 ล้านบาท ซึ่งเป็นแค่เงินต้น ยังไม่รวมดอกเบี้ย
2. มีเพียง 5 หน่วยงานเท่านั้นที่จะย้ายมาใช้อาคารแห่งนี้ จากเดิมที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเคยบอกว่าจะมี 22 หน่วยงานย้ายมาใช้ และจะมีบุคลากร 80,000 คนได้ประโยชน์ ซึ่งยืนยันว่าไม่จริง เพราะอีก 17 หน่วยงานของกระทรวงจะไม่ย้ายมาใช้อาคารนี้ นอกจากมีการสร้างอาคารใหม่แยกออกมา
3. อาคารมีขนาดใหญ่เกินความจำเป็น เพราะเมื่อรวมพื้นที่ทั้งหมดที่หน่วยงานจะใช้มีเพียง 18,149 ตร.ม. แต่มาขอพื้นที่ในการทำเฉพาะอาคารสำนักงานมากถึง 67,000 ตร.ม. มากกว่าเดิม 3.5 เท่า
โดยยกตัวอย่างเอกสารของกรมการขนส่งทางราง ระบุว่า การใช้พื้นที่เฉลี่ยต่อบุคลากรในหน่วยงาน 20.9 ตร.ม. ก็เพียงพอแล้ว แต่กลับมีการสร้างทั้งหมด 63 ตร.ม. นอกจากนี้ ยังถามเอไอ ChatGPT แล้ว เอไอก็ยังบอกว่า หากมีพนักงาน 1,000 คน ก็ควรมีอาคารใหญ่แค่ 22,000 ตร.ม. เพราะฉะนั้นจะสร้างทำไมเป็น 100,000 ตร.ม.
ศุภณัฐกล่าวว่า ตนขอถามว่ากรรมาธิการ (กมธ.) ได้มีการดูรายละเอียดเรื่องเหล่านี้หรือไม่ มีธงอยู่แล้ว ปรับลดพอเป็นพิธี แต่ไม่เคยดูความเหมาะสม ถือว่าไม่มีสามัญสำนึกในการของบประมาณ หากโครงการเหมาะสมจะใช้งบประมาณแค่ 1,200 ล้านบาท แต่กลับของบประมาณค่าก่อสร้าง 3,800 ล้าน ซึ่งยังไม่นับมูลค่าที่ดิน ทั้งที่สามารถประหยัดเงินได้ 2,000 กว่าล้าน แต่แบกตึกกันทั้งพรรค ไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น
ขณะที่ สุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายว่าค่าก่อสร้างอาคารกระทรวงคมนาคมแห่งใหม่ยังสามารถปรับลดได้อีก เพื่อประหยัดงบไปใช้ประโยชน์กับประชาชน พร้อมย้ำว่าตึกกระทรวงคมนาคมแห่งใหม่ถือเป็นโครงการที่ใช้งบสูงที่สุดของปี 2569 โดยในวาระที่สองมีการปรับลดเพียง 10% เท่านั้น
ตึกดังกล่าวนี้มีพื้นที่ใช้สอยมากถึง 115,196 ตารางเมตร หรือเฉลี่ย 124 ตารางเมตรต่อข้าราชการ 1 คน โดยมีออกแบบโอ่อ่าเกินความจำเป็น ทั้งห้องประชุมขนาดใหญ่หลายแห่ง ห้องออดิทอเรียม 631 ตารางเมตร ห้องสมุดกว่า 400 ตารางเมตร และชั้นทำงานรัฐมนตรีทั้งชั้น รวมถึงลานจอด ซึ่งไม่สอดคล้องกับความจำเป็นของหน่วยงานราชการ
นอกจากนี้ ยังพบการยัดไส้รายการครุภัณฑ์ราคาแพง เช่น โต๊ะในห้องสมุดชุดละ 200,000 บาท เก้าอี้ที่แพงเกินจริงกว่าราคาตลาด และยังมีแบบก่อสร้างบางส่วนที่ไม่ตรงตามใบแสดงรายการวัสดุและค่าใช้จ่าย (BOQ) แต่ผ่านการกลั่นกรองได้แบบมึนๆ
สุรเชษฐ์มองว่า ตึกกระทรวงคมนาคมแห่งใหม่เป็นโครงการแพงที่สุดของตึกราชการในปีนี้ และเป็นรายการฉาวที่สุดแห่งปี เพราะใช้งบประมาณมหาศาลโดยไม่สอดคล้องความจำเป็นของประชาชน พร้อมทั้งตั้งคำถามว่าจะผลาญงบเพื่อใคร และแบกเพื่อใคร พร้อมเรียกร้องให้ประธานอนุกรรมาธิการรับฟังตัวแทนพรรคประชาชน ให้หน่วยงานกลับไปออกแบบใหม่
ทั้งนี้ เสนอเน้นปรับฟังก์ชันการใช้งาน ลดความหรูหรา ไม่ให้เกินหน้าเกินตาหน่วยงานอื่น ตัดจำนวนห้องประชุมที่ไม่จำเป็น เอาห้อง Auditorium แบบ IMAX ออก ปรับแบบให้ไม่มี Void ตรงกลาง เพียงเท่านี้ก็สามารถประหยัดงบได้เกือบ 1,000 ล้านบาท
สุรเชษฐ์กล่าวอีกว่า ควรให้สำนักปลัดกระทรวงคมนาคมทบทวนแบบ และ BOQ ก่อนนำเสนอขอใหม่ในปีหน้า พร้อมย้ำว่าปัญหาตึกเก่ามีมาหลายสิบปี และสัญญาเช่าที่ดินจากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ยังเหลือจนถึงปี 2573 ทำให้การก่อสร้างล่าช้า 1 ปีไม่ใช่ปัญหา