ออมสิน-ธอส. 2 แบงก์รัฐ ประกาศหั่นดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.25% ตามมติกนง. โดยมีผล 15 สิงหาคม 2568
วันนี้ (14 สิงหาคม) วีระชัย อมรถกลสุเวช รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส รักษาการผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เผยว่า ธนาคารออมสินปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลง 0.25% ต่อปี สอดคล้องกับมติคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เพื่อช่วยลดภาระทางการเงิน เพิ่มสภาพคล่อง และสนับสนุนการปรับตัวของผู้ประกอบการและประชาชน ดังนี้
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำสำหรับลูกค้ารายย่อย (MRR) ลดเหลือ 6.295% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำสำหรับลูกค้าสินเชื่อรายใหญ่ (MLR) ลดเหลือ 6.325% ต่อปี
- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำสำหรับลูกค้าใช้วงเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ลดเหลือ 6.095% ต่อปี
การปรับลดดังกล่าวส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทั้ง 3 ประเภทของธนาคาร (MRR / MLR / MOR) ยังคงต่ำในระบบ เมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่
ทั้งนี้ ธนาคารออมสินจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเดิม เพื่อให้ผู้ฝากยังได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสม ตามภารกิจส่งเสริมการออม ควบคู่กับการสนับสนุนให้เศรษฐกิจปรับตัวรับมือกับความผันผวนของเศรษฐกิจโลก โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป หรือจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง
ธอส. หั่นดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยสู่ระดับต่ำสุดในระบบ
กมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดภาระด้านที่อยู่อาศัยให้ลูกค้าและขับเคลื่อนภาคอสังหาริมทรัพย์ของประเทศ จึงปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) จากปัจจุบัน 6.495% ต่อปี ลดเหลือ 6.245% ต่อปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป ส่งผลให้ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ของ ธอส. ยังคงอยู่ในระดับต่ำสุดเมื่อเทียบกับธนาคารพาณิชย์และสถาบันการเงินของรัฐอื่น
“การที่ ธอส. ปรับลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี เนื่องจากต้องการช่วยลดภาระหนี้ให้กับลูกค้ารายย่อยที่เป็นฐานลูกค้าหลักของธนาคาร จะทำให้ค่าใช้จ่ายในการผ่อนชำระเงินงวดของลูกค้าลดลงและทำให้มีเงินเพียงพอสำหรับการดำรงชีพต่อไปได้” นายกมลภพ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ธอส.ยังคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) ไว้ที่ 6.100% ต่อปี และคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) ไว้ที่ 6.000% ต่อปี ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับตลาด