×

‘การบินไทย’ มูลค่าพุ่งแตะ 4 แสนล้านบาท ติด 1 ใน 10 หุ้นใหญ่สุดของไทย

06.08.2025
  • LOADING...
ราคา หุ้น การบินไทย พุ่งแตะจุดสูงสุดในรอบ 7 ปี

ราคาหุ้นการบินไทย (THAI) ปรับตัวขึ้น 3 วันติดต่อกัน ทำจุดสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปีที่ 14.40 บาท หลังจากกลับมาซื้อขายในตลาดหุ้นไทยอีกครั้งตั้งแต่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา หนุนมาร์เก็ตแคปแตะ 4 แสนล้านบาท 

 

บมจ.การบินไทย หรือ THAI ถูกพักการซื้อขายกว่า 4 ปี เพื่อเข้าสู่กระบวนการปรับโครงสร้างธุรกิจ ก่อนจะกลับมาซื้อขายได้ตามปกติอีกครั้งในต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนที่ราคาหุ้นจะพุ่งขึ้นมาปิดที่ 13.60 บาท เพิ่มขึ้น 300% จากราคาปิดสุดท้ายก่อนพักการซื้อขายที่ 3.32 บาท เมื่อกลางเดือนพฤษภาคม ปี 2564 ส่งผลให้ THAI กลายเป็น 1 ใน 10 หุ้นที่มีมูลค่ามากที่สุดของไทย ด้วยมูลค่า 3.85 แสนล้านบาท

 

ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นกว่า 300% ส่งผลให้การบินไทยกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากสุดเป็นอันดับ 10 ของไทย ณ วันที่ 6 สิงหาคม 2568 แซงหน้าหุ้นอย่าง บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE), บมจ.กรุงเทพดุสิตเวชการ (BDMS), ธนาคารกรุงไทย (KTB) และธนาคารกรุงเทพ (BBL) เป็นต้น

 

อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นของการบินไทยปัจจุบันเป็นระดับที่สูงกว่าราคาเป้าหมายที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ โดยข้อมูลจาก Settrade.com ที่รวมความเห็นนักวิเคราะห์จาก 9 บริษัทหลักทรัพย์ ประเมินราคาเหมาะสมสูงสุดของการบินไทยไว้ที่ 12.50 บาท ต่ำสุด 7.20 บาท ส่วนราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 9.44 บาท 

 

บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ระบุว่า ให้ราคาเป้าหมายที่ 10 บาท โดยอิงจาก P/E เป้าหมายที่ 10.5 เท่า เทียบเท่าอุตสาหกรรมสายการบินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

 

การบินไทยเป็นสายการบินแห่งชาติที่มีส่วนแบ่งการตลาดอันดับ 1 ในประเทศไทย หลังการฟื้นฟูกิจการ การบินไทยได้ก้าวขึ้นสู่เส้นทางบินที่ไม่มีการแข่งขันสูงด้วยฝูงบินและเครื่องยนต์ที่ลดจำนวนลงแต่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยลดลงเหลือ 5 รุ่นจาก 9 รุ่นเมื่อปี 2562 เน้นเส้นทางที่ทำกำไรเป็นหลักและลดจำนวนพนักงานลงถึง 50%

 

การบินไทยวางแผนใช้ประโยชน์จากทำเลที่ตั้งทางยุทธศาสตร์และสถานะสายการบินแห่งชาติ โดยมีแผนขยายฝูงบินเพิ่มขึ้น 50% ภายใน 5 ปีข้างหน้าเพื่อรับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวในเอเชีย ซึ่งคาดว่าจะช่วยสร้างรายได้ต่อผู้โดยสาร (Yield) และอัตราบรรทุกผู้โดยสาร (Load factor) ที่ดีกว่าคู่แข่งในภูมิภาค โดยเฉพาะเส้นทางยุโรปและญี่ปุ่น ทั้งนี้ Yield หลังโควิดของ THAI ยังคงแข็งแกร่ง โดยลดลงน้อยกว่าคู่แข่งในช่วงปี 2566 – 2567 อีกทั้งยังมีโอกาสเพิ่มขึ้นจากการลดต้นทุนเพิ่มเติมและการเติบโตของรายได้จากพันธมิตรร่วมรหัสเที่ยวบิน (codeshare partners)

 

เราคาดว่า Yield ต่อผู้โดยสารของ THAI จะลดลงจาก 3 บาทต่อปริมาณการขนส่งด้านผู้โดยสาร (RPK) ในปี 2566 – 2567 เหลือ 2.8 บาทต่อ RPK ในปี 2568 – 2570 อย่างไรก็ตาม เราคาดว่ากำไรของ THAI จะยังคงแข็งแกร่งเนื่องจากฐานต้นทุนที่ต่ำ อีกทั้งต้นทุนต่อปริมาณการขนส่งด้านผู้โดยสาร (CASK) มีแนวโน้มลดลง

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising