×

นาฬิกา Rolex กลายเป็นสินทรัพย์ทางเลือก! ของนักลงทุน บางรุ่นในตลาดมือสองทำกำไรสูงสุดมาตลอด 15 ปี

19.07.2025
  • LOADING...
rolex-for-new-investors

จากข้อมูลจากตลาดนาฬิกามือสอง รายงานว่า Rolex บางรุ่นไม่ได้เป็นแค่เครื่องบอกเวลา แต่ยังกลายเป็น “สินทรัพย์ทางเลือก” ให้นักลงทุนที่ต้องการเก็บกำไรในระยะยาว โดยเฉพาะรุ่นที่ราคาขายต่อพุ่งสูงกว่ารุ่นอื่น ๆ อย่างเห็นได้ชัด

 

โดยเว็บไซต์ Bob’s Watches ซึ่งเป็นตลาดซื้อขายนาฬิกาหรูรายใหญ่ของสหรัฐฯ รายงานการวิเคราะห์ข้อมูลย้อนหลัง 15 ปี จากการซื้อขายนาฬิกา Rolex กว่า 50,000 เรือน พบว่าหลายรุ่นมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยบางรุ่นราคาพุ่งเกิน 600% ทำให้นาฬิกาหรูกลายเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่มีความผันผวนต่ำที่สุดเมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่น ๆ เช่น หุ้น หรือคริปโต และมักมีมูลค่าเพิ่มขึ้นตามกาลเวลา

 

Paul Altieri ซีอีโอของ Bob’s Watches แสดงความเห็นว่า นาฬิกา Rolex ไม่ใช่แค่ของสะสม แต่คือสินทรัพย์ที่จับต้องได้ ใส่ได้ ทำประกันได้ และส่งต่อได้ ต่างจากราคาหุ้นที่อาจหายวับไปตามแรงเหวี่ยงของตลาด

 

แม้ในช่วงปี 2023 ที่ผ่านมา ตลาดนาฬิกามือสองโดยรวมจะเริ่มชะลอตัวลง หลังช่วงโควิด แต่แบรนด์ Rolex ยังคงเป็นแบรนด์ที่โดดเด่น โดยเฉพาะ 3 รุ่นยอดนิยมที่สร้างผลตอบแทนสูงสุดในตลาดมือสองตลอด 15 ปีที่ผ่านมา ประกอบด้วย

 

  1. Rolex Datejust ซึ่งเป็นนาฬิกาโมเดล dress watch กลายเป็นรุ่นที่มีมูลค่าเพิ่มสูงสุด โดยเฉพาะรุ่นย่อยที่มีรหัสอ้างอิง เช่น 16013, 16233, และ 69173 หากย้อนดูราคาขายตั้งแต่ปี 2010 มีราคาขายต่อเฉลี่ยอยู่แค่เพียง 1,150 ดอลลาร์ (ราว 42,000 บาท) กระทั่งในปี 2025 ราคาพุ่งขึ้น 8,500 ดอลลาร์ (ราว 300,000 บาท) โดยเพิ่มขึ้นกว่า 639%

 

“แม้คนส่วนใหญ่มักมองว่านาฬิกาโมเดล dress watch ไม่น่าได้รับความสนใจเท่ารุ่นสปอร์ต แต่รุ่น Datejust กลับสามารถเข้าถึงได้หลากหลายกลุ่ม ทำให้ได้รับความนิยมสูงในตลาดมือสอง” ซีอีโอของ Bob’s Watches ย้ำ

 

  1. Rolex Submariner นาฬิกาสปอร์ตโมเดลที่ฮิตที่สุด ในช่วงปี 2020 – 2022 ราคาพุ่งแรงสุด 18,889 ดอลลาร์ (ราว 660,000 บาท) แม้มีช่วงที่ราคาตกในปี 2023 แต่ปัจจุบันกลับมาฟื้นตัวอยู่ที่ราว 17,295 ดอลลาร์ (ราว 605,000 บาท) สะท้อนให้เห็นว่าไม่ใช่แค่กระแสชั่วคราว แต่เป็นรุ่นที่มีมูลค่าการลงทุนที่ยั่งยืน โดยรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงของ Submariner ได้แก่รหัส 16610, 116610 และ 16613

 

และ 3. Rolex GMT-Master II เป็นอีกรุ่นที่มีสีขอบที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น สี Pepsi และ Batman ขายดีเพราะดีไซน์และเรื่องราวของแต่ละรุ่นมีผลต่อมูลค่ามาก เช่น ขอบสี Pepsi ที่เชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์การบิน ช่วยเพิ่มความน่าสะสมและผลักดันราคาให้สูงขึ้นในตลาด โดยตั้งแต่ปี 2010 ราคามือสองเพิ่มขึ้นถึง 506% ปัจจุบันปี 2025 ยืนราคาที่ 20,595 ดอลลาร์ (ราว 720,000 บาท) รุ่นยอดนิยมได้แก่รหัส 116710 Batman และรหัส 16710 Pepsi / Coke

 

เรียกได้ว่าการลงทุนใน Rolex ไม่ใช่แค่เรื่องของแบรนด์ แต่คือการมองเห็น ‘คุณค่าในความคลาสสิก’ ที่สวมใส่ได้จริง เก็บสะสมได้ และสามารถขายต่อได้ตามมูลค่าของตลาด

 

ภาพ: i viewfinder/shutterstock

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising