รายงานเบื้องต้น โดยหน่วยงาน Air Accident Investigation Bureau (AAIB) ของอินเดียที่ตรวจสอบ กรณีเครื่องบิน Air India ตกใกล้สนามบินเมืองอาห์เมดาบัด ทางตะวันตกของอินเดีย หลังขึ้นบินได้เพียงไม่นาน เพื่อมุ่งหน้าไปยังกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมา พบว่า สวิตช์ควบคุมเชื้อเพลิงทั้งสองตำแหน่งถูกสับสวิตช์ ไปยังตำแหน่งที่ตัดการจ่ายเชื้อเพลิง ซึ่งเป็นขั้นตอนที่จะทำให้เครื่องยนต์ดับ ก่อนที่เครื่องบินจะตกในเวลาไม่นาน
จากรายงานข้อมูลที่เก็บกู้ได้จากกล่องดำได้บันทึกเสียงสนทนาในห้องนักบิน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสับสนระหว่างนักบินทั้งสองคน โดยมีนักบินคนหนึ่งถามเพื่อนร่วมงานว่าทำไมเขาถึง ‘ตัดการจ่ายเชื้อเพลิง’ ขณะที่นักบินอีกคนหนึ่งตอบว่าเขาไม่ได้ทำเช่นนั้น
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า สวิตช์เหล่านี้ได้รับการป้องกันเป็นพิเศษและต้องใช้ความตั้งใจในการปฏิบัติ โดยปกติจะใช้เฉพาะในกรณีฉุกเฉิน เช่น เครื่องยนต์ไฟไหม้ ไม่ใช่ระหว่างการบินปกติ
รายงานเบื้องต้นฉบับนี้ได้อ้างถึงประกาศเตือนจากสำนักงานการบินพลเรือนแห่งสหรัฐฯ (FAA) ในปี 2018 ที่แจ้งเตือนผู้ประกอบการเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่กลไกล็อกของสวิตช์ตัดเชื้อเพลิงอาจหลุดออก
อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนว่าปัญหาทางกลไกนี้จะทำให้สวิตช์ทั้งสองตำแหน่งถูกเลื่อนพร้อมกันได้อย่างไร ประกาศดังกล่าวเป็นเพียงคำแนะนำ โดย Air India ไม่ได้ดำเนินการตรวจสอบตามที่แนะนำ นอกจากนี้ การบำรุงรักษาในช่วงที่ผ่านมา เช่น การเปลี่ยนโมดูลคันเร่งในปี 2019 และ 2023 ก็ไม่เกี่ยวข้องกับสวิตช์ควบคุมเชื้อเพลิงแต่อย่างใด
ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปได้แน่ชัดว่า เหตุเครื่องบิน Air India รุ่น Boeing 787-8 Dreamliner เที่ยวบิน AI171 ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ เมื่อช่วงกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมานี้ เกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์หรือความขัดข้องทางกลไกที่เกิดขึ้นได้ยาก ผลการสอบสวนยังคงดำเนินต่อไปเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง
เหตุการณ์เครื่องบินตกครั้งนี้มีผู้เสียชีวิต 260 คน ซึ่งในจำนวนนี้ผู้โดยสาร 241 จากทั้งหมด 242 คน เสียชีวิตเกือบยกลำ มีผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวคือ วิศวชกุมาร ราเมศ สัญชาติอังกฤษ ซึ่งหนีออกมาจากซากเครื่องบินได้สำเร็จ ก่อนที่จะได้รับความช่วยเหลือ
ทางด้าน Air India แสดงความเสียใจ และร่วมไว้อาลัยต่อการสูญเสียครั้งนี้ พร้อมให้คำมั่นจะยืนหยัดเคียงข้างครอบครัวและผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุบัติเหตุในครั้งนี้ และจะทำงานอย่างใกล้ชิดกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง รวมถึงหน่วยงานกำกับดูแลต่างๆ และยังคงให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่กับ AAIB และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆ ตลอดกระบวนการสอบสวน
ภาพ: Adnan Abidi / File Photo / Reuters
อ้างอิง: