วานนี้ (28 มิถุนายน) เมื่อเวลา 19.35 น.ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ในการชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย มีการฉายภาพเลเซอร์เป็นรูปธงชาติไทยบนอนุสาวรีย์ เพื่อเป็นการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ตามจุดประสงค์ของการชุมนุม
ขณะที่เมื่อเวลา 17.50 น. กลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย ได้อ่านแถลงการณ์เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ชินวัตร ลาออกจากตำแหน่งทันที ระบุว่ามีพฤติการณ์เป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศชาติ และมีความผิดมาตรฐานจริยธรรมร้ายแรง
ผู้ชุมนุมร่วมกันยืนบนเวทีและอ่านบทร้อยกรอง ‘เพลงชาติไทยผูกใจเรา’ ซึ่งมีเนื้อหาเกี่ยวกับการเสียสละเพื่อแผ่นดินไทย และการรวมพลังความสามัคคี
นิติธร ล้ำเหลือ เป็นตัวแทนกลุ่มอ่านแถลงการณ์
ในแถลงการณ์ระบุถึงสถานการณ์การเมืองการปกครองของไทยตั้งแต่ พ.ศ. 2475 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 93 ปี ที่ผู้บริหารประเทศ ทั้งฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ ไม่ได้ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยฯ และไม่ได้ทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติอย่างแท้จริง ทำให้เกิดวิกฤตการณ์ในหลายด้าน ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ กระบวนการยุติธรรม ความมั่นคง และคุณธรรมจริยธรรม
แถลงการณ์ยังระบุว่า ผู้มีอำนาจไม่เคารพกฎหมาย ทุจริตฉ้อฉล บิดเบือนอำนาจ และขาดความรับผิดชอบต่อประเทศชาติและประชาชน นอกจากนี้ ยังมีกระบวนการที่ประกอบด้วยกลุ่มบุคคลทางการเมือง กลุ่มทุนผูกขาด เจ้าหน้าที่รัฐ และเจ้าหน้าที่องค์กรอิสระ ที่ร่วมกันทำลายรัฐธรรมนูญ หลักนิติธรรม คุณธรรม จริยธรรม และเอกราชอธิปไตยของชาติ รวมถึงการใช้อำนาจปกครองบ้านเมืองตามอำเภอใจ และรัฐบาลยังอยู่ภายใต้การบงการจากต่างชาติ
กลุ่มผู้ชุมนุมระบุว่า พฤติกรรมเหล่านี้เป็นที่ประจักษ์ชัดต่อประชาชนไทยมาโดยตลอด แต่บรรดานายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี สมาชิกรัฐสภา องค์กรอิสระ และหน่วยงานของรัฐ ไม่ได้นำพาต่อการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง
แถลงการณ์เน้นย้ำถึงบทบาทของนายกรัฐมนตรี แพทองธาร ว่าเป็นผู้ไร้ความสามารถ ขาดความซื่อสัตย์สุจริต เข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 ว่าด้วยความผิดต่อความมั่นคงของรัฐภายนอกราชอาณาจักร และขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ หมวด 5 หน้าที่ของรัฐ
นอกจากนี้ ยังมีพฤติการณ์สมคบคิดและแสดงเจตนาใช้อำนาจหน้าที่เพื่อตอบสนองความต้องการของอริราชศัตรูที่มุ่งล่วงละเมิดอำนาจอธิปไตยและต้องการยึดครองแผ่นดินไทย รวมถึงทรัพยากรของชาติ ซึ่งถือเป็นการทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน และขัดต่อคำถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับตำแหน่ง
กลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยยังกล่าวว่า แม้จะมีข้อเท็จจริงปรากฏและมีการยอมรับของนายกรัฐมนตรี แต่คณะรัฐมนตรีและพรรคร่วมรัฐบาลยังคงสนับสนุนให้แพทองธาร ชินวัตร ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีต่อไป ซึ่งอาจถือได้ว่าเข้าร่วมกระทำการที่เป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศชาติเช่นเดียวกัน
สุดท้ายแถลงการณ์เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งทันที เพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ความมั่นคง และอำนาจอธิปไตยแห่งราชอาณาจักรไทย รวมถึงเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม