‘รถติด’ สิ่งที่มนุษย์เมืองกรุงต้องเผชิญทุกวัน ยิ่งชั่วโมง Prime Time แล้วยิ่งแล้วใหญ่ จะว่าไปรถติดก็ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ไม่ว่าจะเจอบ่อยแค่ไหน เราเชื่อว่ามันก็ยังสร้างความหัวเสียจนหลายๆ ครั้งก็ต้องบ่น (หรือด่ากราด) เพื่อให้รู้สึกดีขึ้น ที่จริงแล้วการบ่นก็เหมือนเป็นการระบายรูปแบบหนึ่ง แต่การบ่นซ้ำๆ มีแต่จะทำให้เรายิ่งจมอยู่กับอารมณ์ลบ และสุดท้ายการหัวร้อนก็ไม่ได้ช่วยให้รถขยับไวขึ้น
วันนี้เราเลยมี 5 ทริกง่ายๆ ที่จะช่วยให้หลุดพ้นจากห้วงอารมณ์ลบในชั่วโมงรถติดมาฝาก ลองปรับใช้กันทีละนิดแล้วจะรู้ว่าการขับรถแบบใจนิ่งมันส่งผลดีกว่าที่คิด
ตั้งสติก่อนสตาร์ท
การเริ่มต้นวันด้วยความรีบเร่งจะทำให้อารมณ์เสียง่ายโดยไม่รู้ตัว นอกจากจะเช็ก GPS, เผื่อเวลาเดินทางให้มากขึ้นกว่าเดิมแล้ว
ก่อนสตาร์ทรถ ลองหลับตาสัก 5 วินาที หายใจเข้าออกลึกๆ แล้วบอกตัวเองว่า “วันนี้ฉันจะใจเย็นกับทุกอย่างที่ควบคุมไม่ได้”
การตั้งเจตนาเล็กๆ จะเป็นเกราะกันใจพัง เพราะบางทีรถติดอาจไม่แย่เท่าความคิดที่พาเราหงุดหงิดไปทั้งวัน
เปิดเพลงที่ทำให้ใจเราสงบ
ถ้ารถติดคือสนามรบ เพลงในรถก็คือเกราะป้องกันจิตใจ
ลองปรับมู้ดมาฟังเพลงจังหวะช้าๆ อย่างเพลงแจ๊ส ซึ่งมีงานวิจัยรองรับว่า ช่วยลดฮอร์โมนความเครียด (Cortisol) และเพิ่มความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ (HRV) ซึ่งสัมพันธ์กับภาวะใจสงบ ถือโอกาสได้ใช้ช่วงรถติดเป็นพื้นที่พักใจเล็กๆ ระหว่างวัน
ฝึกหายใจตอนติดไฟแดง
การฝึกหายใจแบบ 4-7-8 เป็นเครื่องมือรีเซ็ตอารมณ์ที่สามารถทำได้ง่ายๆ ระหว่างรถติด เพียงหายใจเข้า 4 วินาที กลั้นหายใจ 7 วินาที และปล่อยออก 8 วินาที
ทำวน 2-3 รอบ หรือเท่าที่สะดวก จะรู้สึกได้ว่าใจสงบและรับมือกับอารมณ์ฉุนเฉียวได้ดียิ่งขึ้น
เปลี่ยนรถติดให้เป็น Me Time
รถติดเป็นเวลาที่เราไม่สามารถไปไหนได้อยู่แล้ว แทนที่จะหัวเสีย ลองเปลี่ยนเวลานั้นให้เป็นเวลาของตัวเองด้วยการทำในสิ่งที่อาจยังไม่มีเวลาทำ เช่น ฟังพอดแคสต์ดีๆ, ฝึกภาษาด้วยการพูด ฟัง หรือแม้กระทั่งทบทวนเรื่องในจิตใจ รถอาจจะไม่ขยับ แต่เรายังขยับใจและสมองไปข้างหน้าได้เสมอ
บอกตัวเองว่าไม่เอาพลังไปเสียให้คนอื่น
การขับรถก็เหมือนเป็นชาเลนจ์แบบหนึ่งโดยเฉพาะเวลาที่เจอกับคนขับไม่น่ารัก แทนที่จะปรี๊ดกับคันที่ปาดหน้า ให้หายใจลึกๆ แล้วเลือกที่จะไม่ตอบสนอง ปล่อยวางให้เป็น คนที่เลือกเงียบได้ในตอนที่ใจอยากจะตะโกน คือคนที่ควบคุมเกมอารมณ์ได้อย่างแท้จริง
อ้างอิง: