สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่เพิ่งได้รับกำลังใจอย่างล้นหลามไปพร้อมกับสร้างการตื่นตัวให้หลายคนได้ระวังเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น สำหรับข่าวคราวของนักแสดงฝีมือดี เอ๋-พรทิพย์ สกิดใจ ภรรยาของนักแสดงรุ่นใหญ่ ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ ที่ได้แจ้งข่าวคราวผ่านช่อง YouTube: ป๋อสะกิดเอ๋ ว่าภรรยาของเขากำลังป่วยเป็นโรคมะเร็งปอด ซึ่งเจ้าตัวได้เผยว่าตกใจและไม่คิดว่าภรรยาจะเป็นโรคนี้ได้ ก่อนที่โลกโซเชียลจะวิพากษ์วิจารณ์กันไปในหลากหลายความเห็นถึงการนำอาการป่วยมาทำคอนเทนต์ในครั้งนี้
โดยล่าสุดในวันนี้ (6 มิถุนายน) ป๋อ ณัฐวุฒิ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวชี้แจงถึงอาการป่วยของภรรยา พร้อมย้ำว่าภรรยาเพิ่งตรวจพบและผ่าตัดก้อนเนื้อในปอดเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม ก่อนเตรียมสแกนร่างกายวันที่ 14 มิถุนายนนี้
“ขอชี้แจงเป็นครั้งสุดท้ายนะครับ ข่าวที่บอกว่าเป็นมะเร็งมา 2 ปี ไม่เป็นความจริงครับ เอ๋ได้รับการผ่าตัดเอาก้อนขนาด 1 ซม. ออกจากปอดเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคมที่ผ่านมาครับ ก้อนเนื้อถูกส่งเข้าตรวจสอบ พบว่าเป็นมะเร็ง นับตั้งแต่วันที่ 24 พฤษภาคม เราแทบจะนอนไม่หลับกันเลย ช็อกแต่ก็มีหลายเรื่องที่ต้องจัดการทั้งเรื่องงาน เรื่องลูก เรื่องการแจ้งข่าวกับคนใกล้ชิด แต่ทุกอย่างสับสนไปหมด หวาดกลัว เศร้า เสียใจ เราสู้ด้วยกันมา 2 คนจริงๆ
“เราทำคลิปขึ้นมา เพื่อให้สังคมตื่นรู้เรื่องของ PM2.5 ให้ทุกท่านได้ระวังและตรวจสุขภาพบ้าง จะได้ไม่ต้องเจอแบบเรา แต่คิดว่าการเล่าผ่าน Instagram หรือ TikTok มันสั้นเกินไปที่จะเล่าเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ได้ครอบคลุมทั้งหมด เราจึงตัดสินใจเล่าเรื่องราวลงใน YouTube ช่องของเราเอง
“เรื่องราวของ PM2.5 เป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดที่อยากให้ทุกคนหันมาสนใจสุขภาพของตนเอง เพราะอาจจะเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งให้เราเป็นมะเร็งปอดได้ ซึ่งในยุคปัจจุบันนี้มีผู้ป่วยเป็นมะเร็งปอดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เราไม่ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว เพราะเอ๋ต้องผ่าตัด ต้องพักฟื้น และยังเจ็บแผล ที่สำคัญสภาพจิตใจของเราทั้งคู่ไม่พร้อมที่จะเล่าและตอบคำถามมากมาย ความรู้สึกและจิตใจของเอ๋เป็นสิ่งที่ผมให้ความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งครับ ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม เอ๋ก็กลับมาพักฟื้นที่บ้าน สภาพจิตใจดีขึ้นเรื่อยๆ ตอนนี้เอ๋ยังพักฟื้นอยู่ที่บ้าน ด้วยจิตใจที่ยังเป็นคนป่วยอยู่ ในวันที่ 14 มิถุนายน ก็จะต้องไปสแกนทั้งตัวเพื่อดูให้แน่ใจว่ามีอะไรผิดปกติอีกหรือเปล่า ครอบครัวเรายังต้องอยู่กับสิ่งนี้อีก 5 ปีนะครับ
“ผม เอ๋ และลูกๆ ก็ยังต้องดำเนินชีวิตต่อไป และหวังว่าคลิปวิดีโอนั้นจะเป็นประโยชน์ให้ทุกท่านไปตรวจสุขภาพหรืออย่างน้อยไปตรวจปอดดูบ้างนะครับ ว่าอยู่ในสภาพที่ดีขนาดไหน ย้ำนะครับ PM2.5 เป็นเรื่องยุคใหม่ที่ต้องให้ความสำคัญมากจริงๆ ทุกท่านจะได้ไม่ต้องมาเจอแบบเรา กราบขอบพระคุณมากครับ”
ภาพ: Poh Natthawut / Facebook
อ้างอิง: