×

สรุปเหตุรถพุ่งชนฝูงชน งานพาเหรดฉลองแชมป์ลิเวอร์พูล มีผู้บาดเจ็บ 27 ราย

27.05.2025
  • LOADING...

เกิดเหตุสะเทือนใจในระหว่างขบวนพาเหรดฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีกของสโมสรลิเวอร์พูล เมื่อรถยนต์คันหนึ่งพุ่งชนฝูงชนที่ร่วมเฉลิมฉลองบริเวณถนน Water Street เมืองลิเวอร์พูล เมื่อเวลาประมาณ 18.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น

 

ตำรวจเมอร์ซีย์ไซด์เปิดเผยว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยอย่างน้อย 27 คนถูกนำส่งโรงพยาบาล ในจำนวนนี้มี 2 รายอาการสาหัส

 

โดยชายชาวอังกฤษวัย 53 ปี ซึ่งเป็นชาวท้องถิ่นของเมืองลิเวอร์พูล ถูกควบคุมตัวในฐานะผู้ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ขับรถคันดังกล่าว

 

พยานหลายรายเล่าว่าเหตุการณ์นี้ดั่งฝันร้าย เพราะวันนี้ถือเป็นวันที่แฟนบอลลิเวอร์พูลรอคอยมานานถึง 35 ปี และหลายคนเดินทางมาจากทั่วโลก ทั้งจากนิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย และประเทศไทย

 

แมตต์ โคล ผู้สื่อข่าวของ BBC ซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุพร้อมครอบครัว ให้สัมภาษณ์ว่า รถคันดังกล่าว “พุ่งผ่านตัวเขาไปห่างแค่ไม่กี่นิ้ว” ขณะฝูงชนกำลังชมการแสดงพลุและขบวนรถบัสของนักเตะ

 

“ผมคว้าลูกสาวแล้วกระโดดหลบ มันไม่หยุดเลย รถวิ่งฝ่าเข้ามาโดยไม่มีเจตนาจะเบรกแม้แต่น้อย” โคลเล่า พร้อมระบุว่าเสียงกรีดร้องและความวุ่นวายเกิดขึ้นทันที

 

อีกหนึ่งพยานในที่เกิดเหตุระบุว่า รถดูเหมือนจะขับขึ้นฟุตปาธและพุ่งไปทางกลุ่มคนอย่างจงใจ โดยบอกว่า “มันดูจงใจจริงๆ…มันทำให้ทั้งวันของเราพังทลาย”

 

หลังเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้นในช่วงท้ายของขบวนพาเหรดฉลองแชมป์ สโมสรลิเวอร์พูลได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ ระบุว่า “เรากำลังประสานงานอย่างใกล้ชิดกับตำรวจเมอร์ซีย์ไซด์ เกี่ยวกับเหตุการณ์บนถนน Water Street ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงท้ายของขบวนฉลองแชมป์ในค่ำคืนนี้

 

“ความคิดและคำภาวนาของเราขอมอบให้กับทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ร้ายแรงนี้ สโมสรจะให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่แก่หน่วยบริการฉุกเฉินและหน่วยงานท้องถิ่นที่กำลังดูแลสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง”

 

ขณะเดียวกัน ทางลิเวอร์พูลได้ตัดสินใจหยุดกิจกรรมโซเชียลมีเดียทันทีที่ทราบเหตุการณ์ ส่วนงานเลี้ยงของทีมที่วางแผนไว้ในวันอังคารถูกยกเลิก และ อาร์เน ชล็อต รวมถึงนักเตะทุกคน ได้รับแจ้งข่าวเศร้าเมื่อก้าวลงจากรถบัส

 

เบื้องต้นตำรวจและเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินจำนวนมากถูกส่งเข้าพื้นที่ทันทีหลังเกิดเหตุ และขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนเพิ่มเติม

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising