×

ลิเวอร์พูลเดินเกมไว! ทำไมหงส์แดงเร่งปิดดีล ‘เวียร์ตซ์-ฟริมปง-เคอร์เคซ’ ตั้งแต่ตลาดยังไม่เปิด?

26.05.2025
  • LOADING...
ลิเวอร์พูล

ภาพบรรยากาศงานฉลองแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างเป็นทางการที่แอนฟิลด์เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นภาพประวัติศาสตร์ที่แฟน ‘หงส์แดง’ ลิเวอร์พูล ทั่วโลก เฝ้ารอคอยมาอย่างยาวนานกว่า 35 ปี ถือเป็นภาพที่น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง

 

ไม่ว่าจะเป็นการรับมอบถ้วยแชมป์ของ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค จากมือของ อลัน แฮนเซน ตำนานปราการหลังผู้เป็นกัปตันทีมคนก่อนหน้า ที่พาลิเวอร์พูลได้แชมป์เมื่อปี 1990, มงกุฎถ้วยพรีเมียร์ลีกที่เพื่อนวางบนศีรษะของ โม ซาลาห์, น้ำตาของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ที่ในที่สุดก็ได้รับการอำลาที่สมเกียรติ, การปีนขึ้นบนคานประตูของ อลิสสัน เบคเกอร์ เพื่อชวนแฟนๆ ร้องเพลงฉลอง, เพลงเชียร์ประจำตัวของ เฟเดริโก เคียซา ที่แม้จะเป็นตัวสำรองอดทน แต่ก็เป็นคนที่แฟนบอลรักและให้กำลังใจมากที่สุดคนหนึ่ง

 

รวมถึงการพบกันครั้งแรกของ อาร์เน สลอต และ เจอร์เกน คล็อปป์ ผู้รับช่วงต่อและผู้วางรากฐานทุกอย่างไว้ให้

 

แต่สิ่งที่น่าประทับใจและน่าสนใจกว่าคือ การที่ลิเวอร์พูลไม่ได้หยุดนิ่ง พร้อมเดินหน้าในตลาดการซื้อ-ขายผู้เล่นรอบใหม่ที่กำลังจะมาถึง

 

เฌเรมี ฟริมปง, มิลอส เคอร์เคซ และซูเปอร์สตาร์ที่กำลังสร้างความฮือฮามากที่สุดในเวลานี้อย่าง ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ ซึ่งล่าสุดมีรายงานว่ามีการยื่นข้อเสนออย่างเป็นทางการในราคาเริ่มต้น 100 ล้านปอนด์ให้แก่ไบเออร์ เลเวอร์คูเซนแล้ว

 

ทำไมทีมแชมป์ต้องรีบร้อนถึงขนาดนี้?

 

 

เพราะความสำเร็จเป็นเรื่องของเมื่อวาน

 

ถึงแม้ว่าลิเวอร์พูล ภายใต้การนำของ อาร์เน สลอต จะทำผลงานได้อย่างสุดยอดด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ซึ่งนับเป็นแชมป์ลีกสมัยที่ 20 ของสโมสร สูงที่สุดในอังกฤษกลับมาทาบแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดได้อีกครั้ง แต่ความสำเร็จที่ได้มานั้นคือเรื่องของวันวาน

 

งานของวันพรุ่งนี้เพื่อจะสู้ศึกสำหรับฤดูกาลหน้าได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว และความจริงมันได้เริ่มต้นมานานแล้วด้วย

โดยก่อนหน้านี้โค้ชชาวดัตช์เคยเปิดเผยว่าได้มีการวางแผนร่วมกับริชาร์ด ฮิวจ์ส ผู้อำนวยการสโมสรถึงเป้าหมายในการปรับทัพเสริมทีม โดยมีการส่งสัญญาณเป็นนัยว่าช่วงปิดฤดูกาลนี้จะมีความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เกิดขึ้นภายในทีม

 

การส่งสัญญาณเดินเกมเร็วครั้งนี้แตกต่างจากช่วงปิดฤดูกาลที่แล้วซึ่งทั้งสลอตและฮิวจ์ส เพิ่งเข้ามารับตำแหน่งโดยที่ตลอดเวลาที่ตลาดนักเตะเปิดทำการไม่มีการเสริมทัพเลย และเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากแฟนๆ จนสุดท้ายได้คว้าตัว เฟเดริโก เคียซา กองหน้าทีมชาติอิตาลีมาในราคาที่ต่ำอย่างเหลือเชื่อแค่ 12.5 ล้านปอนด์ ซึ่งก็เป็นเพียงตัวสำรองอดทนตลอดฤดูกาล

 

เพียงแต่สิ่งที่เดอะค็อปรวมถึงแฟนฟุตบอลคู่แข่งทีมอื่นไม่ได้คาดคิดคือ ลิเวอร์พูลจะเดินเกมไวถึงขนาดนี้

 

ไวระดับที่ฤดูกาลปิดตัวลง งานฉลองแชมป์ยังไม่ทันจบดี มีข่าวกับผู้เล่นถึง 3 รายด้วยกัน

 

 

 

2 ขุมพลังใหม่ริมเส้น

 

3 ผู้เล่นที่มีข่าวกับลิเวอร์พูลในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาต้องบอกว่าเป็นผู้เล่นที่มีความน่าสนใจอย่างมาก

2 รายแรกเป็นผู้เล่นในกลุ่มที่มีกระแสข่าวและการคาดเดามาก่อนแล้วคือ เฌเรมี ฟริมปง กับ มิลอส เคอร์เคซ ที่จะเข้ามาเติมความสดใหม่ในเกมริมเส้นให้กับทีม

 

โดยรายของฟริมปง ดาวเตะจากเลเวอร์คูเซนคือตัวตายตัวแทนของ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แบ็กขวาสายเลือดแท้ของสโมสรที่ตัดสินใจอำลาทีมเพื่อไปค้นหาความท้าทายใหม่กับเรอัล มาดริด ซึ่งแม้ว่าโดยตำแหน่งและสไตล์จะแตกต่างกัน 

 

แต่ทีมวิเคราะห์ของลิเวอร์พูลซึ่งนำโดย ดร.ริชาร์ด สเปียร์แมน ซึ่งเป็นผู้วิเคราะห์ข้อมูลเลือก อาร์เน สลอต มารับตำแหน่งต่อจากเจอร์เกน คล็อปป์ เชื่อว่าฟริมปง จะเป็นผู้เล่นที่สามารถตอบโจทย์การทำทีมของโค้ชชาวดัตช์ได้เป็นอย่างดี

 

ไม่นับเรื่องที่เป็นผู้เล่นที่คุ้นเคยกับ เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค และโคดี กักโป ที่เล่นในทีมชาติเนเธอร์แลนด์ด้วยกัน

 

จุดเด่นของฟริมปงคือความเร็วระดับจรวดทางเรียบ เก่งกาจในการกระชากพาบอลไปกับตัวด้วยความเร็วสูง กล้าที่จะดวลคู่แข่งในการเล่นแบบ 1v1 และการเปิดบอลที่มีความแม่นยำในพื้นที่สุดท้าย แม้ว่าจะถูกมองว่าเกมรับเป็นจุดอ่อนก็ตาม

 

เช่นกันกับเคอร์เคซ แบ็กซ้ายวัย 21 ปีที่โดดเด่นกับบอร์นมัธในช่วง 2 ฤดูกาลหลังสุด ก็เป็นฟูลแบ็กที่เต็มไปด้วยพลังอันล้นเหลือ สามารถเติมขึ้นลงได้ตลอดทั้งเกมและมีจุดเด่นในเรื่องของความแข็งแกร่ง ความใจสู้ และเท้าซ้ายฉมังเดชที่ได้ทั้งการเปิดบอลและการทำประตูด้วยตัวเอง

 

เคอร์เคซซึ่งเป็นรุ่นน้องคนสนิทในทีมชาติฮังการีของ โดมินิก โซโบสไล ถูกคาดหมายว่าจะแทนที่ของ คอสตัส ซิมิกาส ฟูลแบ็กตัวสำรองอดทนที่น่าจะต้องถูกปล่อยตัวหลังจบฤดูกาลนี้

 

 

 

ดีลเซอร์ไพรส์แห่งปี

 

แต่ดีลที่สร้างความประหลาดใจมากที่สุดคือ ฟลอเรียน เวียร์ตซ์ สตาร์ทีมชาติเยอรมนีของเลเวอร์คูเซนที่กำลังทำให้เดอะค็อปทั่วโลกตื่นเต้น

 

เหตุผลนั้นเป็นเพราะผู้เล่นในระดับสตาร์แบบนี้มักไม่ได้อยู่ในสารบบการเสริมทัพของลิเวอร์พูลมากนัก เนื่องจากมีค่าตัวที่สูงและยากที่จะได้ตัวมาร่วมทีม ซึ่งรายของดาวเตะวัย 22 ปีก็ตกเป็นข่าวกับบาเยิร์น มิวนิก และแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งไม่อยู่ในข่ายที่ลิเวอร์พูลน่าจะสนใจได้เลย

 

อย่างไรก็ดี กลับเป็นว่าลิเวอร์พูล เดินเครื่องอย่างจริงจังในรายของเวียร์ตซ์ และกำลังจะเอาชนะคู่แข่งอย่างบาเยิร์น ที่เดินเกมผิดพลาดได้

 

โดยความผิดพลาดของบาเยิร์น เกิดจากความมั่นใจว่าจะสามารถบีบให้เลเวอร์คูเซนและนักเตะยอมตกลงย้ายทีมได้โดยง่าย โดยการใช้เครื่องมือช่วยเหลืออย่างสื่อในแคว้นบาวาเรีย แต่กลยุทธ์ดังกล่าวกลับย้อนเข้าตัวเมื่อ ฮันส์ เวียร์ตซ์ พ่อของนักเตะซึ่งทำหน้าที่เอเยนต์ด้วยมองว่าทีม ‘เสือใต้’ ไม่จริงใจ

 

ตรงข้ามกับลิเวอร์พูลที่อดทนรอโอกาสในการเจรจามาโดยตลอด และเมื่อได้โอกาสจึงเชิญมาเจรจากันที่อังกฤษ การเจรจาเกิดขึ้นในเมืองแบล็กพูล โดยเวียร์ตซ์และครอบครัวได้รับข้อมูลแผนการทำทีมรวมถึงบทบาทของเขาในแอนฟิลด์จากตัวของสลอตโดยตรง และประทับใจกว่าครั้งพูดคุยกับ แว็งซองต์ กอมปานีย์ โค้ชของบาเยิร์น

 

ขณะที่ระหว่างสโมสรลิเวอร์พูลก็เปิดการเจรจากับเลเวอร์คูเซนอย่างตรงไปตรงมา ให้เกียรติกัน ทำให้ทุกอย่างเป็นไปด้วยดี

 

เวียร์ตซ์เป็นผู้เล่นในตำแหน่ง ‘หมายเลข 10’ ด้วยสไตล์จอมทัพพรสวรรค์ที่เก่งกาจในการครองบอล สร้างจังหวะและโอกาสให้กับทั้งตัวเองและเพื่อนร่วมทีม ซึ่งเป็นจุดที่ลิเวอร์พูลขาดในฤดูกาลนี้ เพราะแม้โซโบสไลจะทำหน้าที่ได้ดีแต่ขาดทีเด็ดทีขาดในจังหวะสุดท้ายไป

อีกทั้งการที่ทีมสูญเสียอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ หมายถึงการที่ลิเวอร์พูลจะขาดผู้เล่นที่มีจินตนาการในการสร้างสรรค์เกมคนสำคัญ ซึ่งเวียร์ตซ์ถูกคาดหวังว่าจะเข้ามาทดแทนในจุดนี้

 

การเจรจาในเวลานี้อยู่ในขั้นคืบหน้าไปมากแล้ว และคาดว่าจะเสร็จสิ้นโดยเร็วที่สุดก่อนที่เวียร์ตซ์จะเข้าแคมป์ทีมชาติเยอรมนีในช่วงต้นเดือนหน้า

 

 

จะมีดีลอื่นอีกไหม?

 

นอกจากรายของทั้ง 3 ผู้เล่นแล้ว ลิเวอร์พูลได้คว้าตัว จอร์จี มาร์มาดาชวิลี ผู้รักษาประตูทีมชาติจอร์เจียมาจากบาเลนเซีย ซึ่งซื้อตัวไว้ล่วงหน้าหนึ่งฤดูกาล โดยจะมาแทนที่ของ ควีวิน เคลเลเฮอร์ ผู้รักษาประตูมือสองที่ต้องการไปเป็นมือหนึ่งกับทีมอื่น

 

ตำแหน่งที่เป็นเป้าหมายสำคัญอีกตำแหน่งคือกองหน้า โดยคาดว่า ดาร์วิน นูนเญซ จะถูกปล่อยตัวออกไปโดยเร็ว ซึ่งมีสโมสรในลีกซาอุดีอาระเบีย และสโมสรอื่นๆ ในยุโรปจับตรามองอยู่ โดยที่ลิเวอร์พูลพร้อมปล่อยตัวในราคาต่ำกว่า 85 ล้านปอนด์ที่ซื้อมาจากเบนฟิกา

 

ในแนวรุก เฟเดริโก เคียซา อาจถูกปล่อยตัวออกจากทีมหากมีข้อเสนอจากอิตาลีให้ย้ายกลับบ้านเกิด แต่ยังไม่แน่ชัดว่าจะมีการเสริมทัพทดแทนหรือไม่ในบทบาทนี้ เพราะในทีมเยาวชนมี ริโอ นูโมฮา ดาวรุ่งพุ่งแรงที่คาดว่าจะได้รับการปั้นจากสลอตให้ขึ้นมาทีมชุดใหญ่ถาวรในเร็วๆ นี้

 

อีกคนที่อาจจะโยกย้ายคือ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ที่ดูไม่เป็นที่ชื่นชอบของบอสชาวดัตช์นัก และตัวนักเตะต้องการโอกาสในการลงสนามต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงของการฉลองแชมป์ที่แอนฟิลด์ นักเตะวัย 22 ปีถูกจับภาพได้ว่าร้องไห้สะอึกสะอื้นกับครอบครัวก่อนจะสวมแว่นดำพรางคราบน้ำตาไว้

 

เซ็นเตอร์แบ็กเป็นอีกจุดที่อาจมีนักเตะเข้ามาเสริมทีม โดยสถานการณ์การเจรจาสัญญาใหม่ของ อิบราฮิมา โคนาเต ยังไม่คืบหน้าซึ่งหากไม่มีการต่อสัญญาหรือมีแนวโน้มว่าจะรอย้ายทีมฟรีหลังหมดสัญญาในปี 2026 ลิเวอร์พูลอาจยอมขายเพื่อหานักเตะใหม่ แม้จะพลาดตัว ดีน เฮาเซน ที่เลือกไปเรอัล มาดริดก็ตาม

 

ในตำแหน่งนี้ยังต้องจับตาดูอนาคตของ จาเรลล์ ควานซาห์ กองหลังดาวรุ่งและโจ โกเมซ ที่มีข่าวว่าอาจจะตัดสินใจย้ายออกจากทีมด้วย โดยหากมีใครย้ายออกไปก็จะต้องหาคนเข้ามาเสริมทัพทดแทนทันที เพราะเป็นจุดที่ถือว่าขุมกำลังอ่อนที่สุด

 

เรียกได้ว่ายังมีความเคลื่อนไหวอีกหลายจุดที่อาจจะเกิดขึ้น เพียงแต่หากได้ ฟริมปง เคอร์เคซ และเวียร์ตซ์ มาร่วมทีมจริงและได้ตัวมาเร็ว ก็ถือว่าเป็นการเดินเกมขั้นสุดยอดของผู้อำนวยการอย่างฮิวจ์ส สยบเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในช่วงก่อนหน้านี้ว่าทำงานเฉื่อยชาเกินไป

 

เป็นการเตรียมการที่ดีสำหรับการสู้ศึกในฤดูกาลหน้า เติมความสดชื่นเข้ามาสู่ทีมให้เกิดบรรยากาศของการแข่งขัน

 

เพราะฤดูกาลหน้านั้นจะยากยิ่งกว่าเดิม

 

เหมือนที่ใครเขาว่า เป็นแชมป์นั้นยากแล้ว แต่การป้องกันแชมป์นั้นยากกว่า และนี่คือเหตุผลที่ลิเวอร์พูลต้องเดินหน้าไวขนาดนี้

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising