ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศข่าวใหญ่ระหว่างการเยือนกรุงริยาดของซาอุดีอาระเบีย วานนี้ (13 พฤษภาคม) ว่า สหรัฐฯ จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรซีเรียที่มีมายาวนาน ในขณะที่ได้ลงนามข้อตกลงซื้อขายอาวุธกับรัฐบาลซาอุดีอาระเบีย มูลค่าเกือบ 1.42 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำเนียบขาวระบุว่าเป็นข้อตกลงความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศที่ใหญ่ที่สุด เท่าที่สหรัฐฯ เคยทำมา
ทรัมป์ประกาศข่าวดังกล่าวระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ในฟอรัมการลงทุนของซาอุ โดยเขายังเผยภายหลังการหารือกับมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน ว่า ซาอุให้คำมั่นที่จะลงทุนในสหรัฐฯ มูลค่าถึง 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
นอกจากนี้เขาและมกุฎราชกุมารบิน ซัลมาน ยังได้ลงนามข้อตกลงความร่วมมือที่ครอบคลุมในหลายด้าน เช่น ด้านพลังงาน กลาโหม และเหมืองแร่
ทั้งนี้ ทรัมป์เลือกซาอุเป็นประเทศแรกในทริปเยือนต่างประเทศครั้งแรกหลังรับตำแหน่ง และเป็นประเทศแรกในทริปการเยือน 3 ประเทศในอ่าวเปอร์เซีย รวมถึงกาตาร์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ด้วย โดยทรัมป์มุ่งเน้นการขยายความร่วมมือด้านการลงทุนเป็นหลัก
เลิกคว่ำบาตร ให้โอกาสฟื้นฟูซีเรีย
ทรัมป์กล่าวถึงแผนยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรซีเรียที่มีมานานกว่าทศวรรษ โดยชี้ว่า การดำเนินการดังกล่าวจะให้โอกาสแก่รัฐบาลซีเรียในการกลับมาสู่ความยิ่งใหญ่ หลังจากที่รัฐบาลเผด็จการของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล อัสซาด ล่มสลายไปเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งกลุ่มต่อต้าน นำโดย อาเหม็ด อัลชารา ได้เข้ายึดอำนาจการปกครอง
“ซีเรียต้องเผชิญกับความชั่วร้าย สงคราม และการสังหารกันมาหลายปีแล้ว นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมรัฐบาลของผมจึงได้เริ่มดำเนินการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และซีเรียให้กลับมาเป็นปกติเป็นครั้งแรกในรอบกว่าทศวรรษ” เขากล่าวและเผยว่า การตัดสินใจยกเลิกคว่ำบาตร มีขึ้นตามคำขอของมกุฎราชกุมารบิน ซัลมาน และได้หารือเรื่องนี้กับประธานาธิบดี เรเจป ไตยิป แอร์โดอัน แห่งตุรกีแล้ว
ขณะที่คาดว่า ทรัมป์จะพบหารือกับประธานาธิบดี อาเหม็ด อัลชารา แห่งซีเรีย ที่ซาอุในวันนี้
โดยทรัมป์ยังเผยว่า ช่วงปลายสัปดาห์นี้ มาร์โค รูบิโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ มีกำหนดการเดินทางไปพบกับรัฐมนตรีต่างประเทศของซีเรียที่ตุรกี เพื่อหารือในประเด็นยกเลิกคว่ำบาตรด้วย
ภาพ: Brian Snyder / Reuters
อ้างอิง: