‘ชีวิตที่ดี’ เป็นเป้าหมายที่ใครก็ใฝ่หา แต่การกินดี ออกกำลังกายสุดโต่ง มีสุขภาพการเงินมั่นคงกลับไม่ใช่มาตรฐานของการมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีแบบ ‘Well-being’ ที่คนยุคนี้ต้องการ
ยิ่งถ้าเป้าหมายคือ ‘ชีวิตดีที่ยั่งยืน’ ดีในมิติใดมิติหนึ่งไม่เพียงพอ ต้องสร้างสมดุลให้ครอบคลุมไปถึงการปรับสมดุลจิตใจ เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต มีสุขภาวะทางสังคมและสิ่งแวดล้อมที่มีคุณภาพ
ไม่ยาก…หากเราจะลุกขึ้นมาออกแบบตารางการกิน นอน ออกกำลังกาย เพื่อสร้างร่างกายที่แข็งแรง แต่อาจจะท้าทายอยู่สักหน่อยถ้าคิดจะสร้างสภาพแวดล้อมที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสภาพแวดล้อมของที่อยู่อาศัยซึ่งมีผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพและสุขภาวะที่ดี
ข้อมูลจาก Global Wellness Institute พบว่าธุรกิจด้านสุขภาพทั่วโลกเติบโตถึง 7.3% ต่อปี โดยกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีแนวโน้มเติบโตสูงที่สุดในปี 2023-2028 ขณะที่ตลาดอสังหาเพื่อสุขภาพในไทยก็เติบโต 10% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง
ความท้าทายนี้ถูกส่งต่อไปยังบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องนำเอา Well-being มาเป็นโจทย์หลักในการออกแบบที่อยู่อาศัยในอนาคต
สำหรับ ‘Proud Real Estate’ แบรนด์อสังหาที่ให้ความสำคัญกับ ‘ความสุขที่ยั่งยืน’ การสร้างสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยผ่านการพัฒนาโครงการจึงเป็นเป้าหมายสำคัญเพราะเชื่อว่า ‘สุขภาวะที่ดี เริ่มต้นจากในบ้าน’ ทุกการออกแบบจึงต้องคำนึงถึงทั้งร่างกาย จิตใจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล เพื่อให้การใช้ชีวิตในทุกวันเต็มไปด้วยคุณภาพที่แท้จริงและยั่งยืน นั่นเป็นเพราะ DNA ตั้งต้นของแบรนด์ คือการสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรีที่ตอบโจทย์ด้านความเป็นอยู่ที่ดี มากไปกว่าทำเลระดับ Rare Location การออกแบบที่สวยงาม แบรนด์ยังให้ความสำคัญกับองค์ประกอบที่จะช่วยยกระดับสุขภาพและสุขภาวะที่ดีให้กับผู้อยู่อาศัยอย่างยั่งยืนในทุก ๆ วัน นี่คือจุดแข็งที่ Proud ทำได้ดีมาโดยตลอด
ในวันที่คนเริ่มมองหาชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีแบบ ‘Well-being’ แบรนด์จึงถือโอกาสต่อยอดจุดแข็งและสานต่อแนวทางการสร้างรูปแบบการใช้ชีวิตที่มากกว่าที่อยู่อาศัย ด้วยแนวคิด ‘ALL IS WELL เพื่อชีวิตดีที่ยั่งยืน’
‘ALL IS WELL เพื่อชีวิตดีที่ยั่งยืน’ เป็นแนวคิดที่ถูกออกแบบมาโดยมุ่งสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ชีวิตดีในทุกมิติ ตั้งแต่ทำเลที่ตั้ง ดีไซน์ ฟังก์ชัน คุณค่าการบริการ ไปจนถึงนวัตกรรมต้องสอดคล้องกันอย่างสมบูรณ์เพื่อ ‘ความสุขที่ยั่งยืน’ และสอดคล้องกับเทรนด์ตลาดโลกที่เน้นสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ผ่าน 5 องค์ประกอบเพื่อชีวิตดีที่ยั่งยืน ได้แก่
- WELL-CRAFTED DESIGN: การออกแบบเพื่อทุกชีวิต คำนึงถึงสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย
- WELL-LIVING AMENITIES: พื้นที่ส่วนกลางที่เป็นศูนย์รวมด้านการดูแลสุขภาพทั้งกาย ใจ และจิตวิญญาณ เพื่อการพักผ่อนขั้นสูง
- WELL-CURATED SERVICES: คัดสรรการบริการและสิทธิประโยชน์สำหรับผู้อยู่อาศัย พร้อม Health Butler ประจำโครงการ
- WELL COMMUNITY: สานต่อการดูแลระยะยาว สร้างความผูกพันภายในครอบครัว เพื่อนบ้าน และชุมชน ผ่านการบริหารโครงการตามมาตรฐานระดับโลก
- WELL SUSTAINABILITY: การพัฒนาที่อยู่อาศัยที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรอบด้าน ส่งเสริมให้ทุกคนมีกิจกรรมและไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืน
ในฐานะ World-class Luxury Well-being Developer แบรนด์ยังมองไกลไปถึงการยกระดับมาตรฐานอาคารไทยสู่ระดับโลก ที่ผ่านมา Proud จัดตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนาเพื่อสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยที่ยั่งยืน โดยร่วมมือกับหน่วยงานชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ เช่น เครือโรงพยาบาลกรุงเทพ, คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมถึง Spacely AI สตาร์ทอัพสัญชาติไทย เพื่อพัฒนาโครงการให้ตอบโจทย์มาตรฐานระดับโลก รวมไปถึงการนำมาตรฐานอาคาร Fitwel มารับรองและพัฒนาโครงการแนวสูงของ Proud ทุกโครงการ เพื่อส่งมอบการดูแลในระยะยาว
What is Fitwel?
Fitwel เป็นมาตรฐานระดับสากลที่ใช้ประเมินและรับรองอาคารที่ออกแบบเพื่อส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี พัฒนาขึ้นโดยศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกา (CDC) ร่วมกับ General Services Administration (GSA) โดยมี Center for Active Design (CfAD) ซึ่งเป็นองค์กรตรวจประเมินและจัดอันดับอาคารเพื่อคุณภาพชีวิตผู้ใช้งานเป็นผู้ดำเนินงาน
จุดประสงค์ก็เพื่อส่งเสริมให้ทุกอาคาร ทุกพื้นที่ สามารถสร้างเสริมสุขภาพและสุขภาวะที่ดีได้ โดยอาคารที่ได้รับการรับรองจะต้องผ่านมาตรฐาน 7 หมวดหมู่หลักในการส่งเสริมสุขภาวะที่ดี ได้แก่
- Impacts Surrounding Community Health เสริมสร้างความสัมพันธ์กับชุมชนโดยรอบให้ได้รับประโยชน์จากพื้นที่ เช่น การสร้างพื้นที่สีเขียวให้คนทั่วไปเข้ามาใช้งานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
- Reduces Morbidity and Absenteeism ลดอัตราการป่วยและขาดงานจากปัญหาสุขภาพ เช่น สร้างอาคารที่มีระบบถ่ายเทอากาศที่ดี จัดพื้นที่สำหรับออกกำลังกายหรือกิจกรรมเพื่อสุขภาพ มีจุดบริการน้ำดื่มที่มีคุณภาพ หรือเพิ่มพื้นที่สีเขียว
- Supports Social Equity for Vulnerable Populations เป็นมิตรต่อการใช้งานของคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น เด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาสทางสังคม เช่น ออกแบบพื้นที่ให้คนทุกกลุ่มเข้าใช้งานได้ มีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสุขภาพในพื้นที่สำหรับทุกคน
- Instills Feelings of Well-Being สร้างสุขภาวะที่ดีในพื้นที่ใช้งาน สร้างสภาพแวดล้อมให้ผู้ใช้ความรู้สึกปลอดภัยและสบายใจ ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงพื้นที่ธรรมชาติ และทำกิจกรรมทางสังคมร่วมกันได้อย่างเท่าเทียม
- Enhances Access to Healthy Foods มีทางเลือกอาหารเพื่อสุขภาพและออกแบบพื้นที่ที่ส่งเสริมให้เกิดพฤติกรรมการบริโภคที่ดี เช่น เข้าถึงอาหารสุขภาพได้สะดวก และหลากหลาย สร้างแรงจูงใจให้บริโภคอาหารสุขภาพ ด้วยอาหารสุขภาพราคาพิเศษ
- Promotes Occupant Safety ส่งเสริมความปลอดภัยในพื้นที่ด้วยการออกแบบพื้นที่ที่ลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ อาชญากรรม และการติดเชื้อ เช่น เพิ่มแสงสว่างในจุดสุ่มเสี่ยง ออกแบบบันไดให้ปลอดภัยแก่ผู้ใช้งาน มีอุปกรณ์กระตุกหัวใจไฟฟ้าชนิดอัตโนมัติ (AED)
- Increases Physical Activity ส่งเสริมกิจกรรมเคลื่อนไหวร่างกาย อาทิ ออกแบบพื้นที่เพื่อสนับสนุนการใช้บันได เพิ่มการเข้าถึงอุปกรณ์ออกกำลังกายทั้งในร่มและกลางแจ้ง หรือ สนับสนุนการใช้รถโดยสารสาธารณะ
Proud ตอกย้ำผู้นำ Well-being Developer ด้วยการรับรองมาตรฐาน Fitwel ครบทุกโครงการแนวสูง
ที่ผ่านมา Proud นำแนวทาง Fitwel มาปรับใช้ในการพัฒนาที่อยู่อาศัยทุกโครงการเพื่อให้ผู้อยู่อาศัยได้รับประโยชน์ครบทุกมิติ และยังตั้งเป้าที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับอสังหาในประเทศไทยในด้านสุขภาวะและความเป็นอยู่ที่ดีของผู้อยู่อาศัยภายในโครงการในอนาคต
จนถึงตอนนี้ อาคารที่ได้มาตรฐาน Fitwel ในประเทศไทยมีจำนวนทั้งสิ้น 30 อาคาร ซึ่ง 3 ใน 4 อาคารของกลุ่ม Multifamily Residential ที่ได้รับรางวัลเป็นโครงการของ Proud ได้แก่
- InterContinental Residences Hua Hin ได้รับการรับรอง Fitwel Built Certification
- VEHHA Hua Hin ได้รับการรับรอง Fitwel Design Certification
- ROMM Convent ได้รับการรับรอง Fitwel Design Certification
InterContinental Residences Hua Hin ถือเป็นคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่แห่งแรกของไทยและเป็นโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์ InterContinental แห่งแรกของโลกที่ได้รับมาตรฐาน Fitwel Built Certification มาพร้อมบริการระดับ World Class Services จาก InterContinental Hotel Group (IHG) แห่งแรกในประเทศไทย ครบครันด้วย Facilities ขนาดใหญ่ และสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการรวมกว่า 7,000 ตารางเมตร
VEHHA Hua Hin คอนโดวิวทะเลที่ออกแบบ ภายใต้แนวคิด My Everyday Vibe เชื่อมต่อธรรมชาติ ไลฟ์สไตล์ และบริการระดับโรงแรม เพื่อชีวิตที่ครบครันในทุกๆ วัน ไฮไลต์สำคัญตามมาตรฐาน Fitwel ได้แก่ การจัดพื้นที่สีเขียว พื้นที่ออกกำลังกาย การเข้าถึงแสงธรรมชาติ การสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการใช้ชีวิตอย่างสมดุล การออกแบบพื้นที่ที่ลดมลพิษอากาศ เช่น ระบบระบายอากาศที่มีคุณภาพสูงและวัสดุที่ช่วยลดความร้อนในอาคาร การออกแบบโครงการให้ส่งเสริมการเดิน การใช้จักรยาน และการเข้าถึงพื้นที่ออกกำลังกายโดยง่าย พร้อมบริการแบบ A La Carte Hotel Services จัดเต็มด้วยส่วนกลางกว่า 25 กิจกรรมบนพื้นที่ 2,700 ตารางเมตร ครบครันตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
ROMM Convent โครงการที่อยู่อาศัยใจกลางเมือง ที่นำหลัก Holistic Wellness มาปรับใช้กับการใช้ชีวิตประจำวัน โดดเด่นด้วยการบริการด้านสุขภาพและการอยู่อาศัยครบวงจร โดยมี Wellness Partner เป็นโรงพยาบาลชั้นนำอย่างโรงพยาบาล BNH มอบบริการด้านสุขภาพแบบองค์รวมและสิทธิพิเศษเข้าถึงการรักษาสำหรับผู้อยู่อาศัยในโครงการ รวมไปถึง กิจกรรม Health and Wellness Workshops เพื่อส่งเสริมสุขภาพ และ Concierge: Health Butler Services ที่พร้อมตอบสนองความต้องการด้านสุขภาพส่วนบุคคล
มากไปกว่าการสร้างชีวิตที่ยั่งยืนแต่คือการ ‘ดูแลกันตลอดไป’
นอกจากการยกระดับมาตรฐานใหม่ให้กับวงการอสังหาไทยผ่านการออกแบบที่อยู่อาศัยเพื่อความยั่งยืนในทุกๆ วัน Proud Real Estate ยังเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายแรกๆ ที่นำมาตรฐาน Fitwel Certification ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับโลกด้านสุขภาวะของผู้อยู่อาศัย มาใช้รับรองในโครงการคอนโดมิเนียมทุกโครงการของบริษัท โดยไม่หยุดเพียงแค่ขั้นตอนการพัฒนา แต่ยังให้ความสำคัญกับการดูแลคุณภาพชีวิตของลูกบ้านในระยะยาว ด้วยบริการหลังการขายที่ออกแบบให้สอดคล้องกับแนวคิด ‘All is Well เพื่อชีวิตดีที่ยั่งยืน’ ทั้งในด้านการบริหารจัดการพื้นที่ สิ่งอำนวยความสะดวก และกิจกรรมส่งเสริมสุขภาวะต่างๆ ที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การดูแลของทีมงานมืออาชีพที่มี Fitwel Ambassador ทำหน้าที่ตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบโครงการไปจนถึงการบริหารจัดการหลังการอยู่อาศัย เพื่อให้มาตรฐานด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีนั้นส่งต่อได้อย่างยั่งยืนจริงในทุกวัน
การดูแลกันตลอดไปของแบรนด์ยังกินความครอบคลุมไปถึงการดูแลชุมชนโดยรอบ โดยให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (ESG) เพื่อสร้างความมั่นคงและเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว
เป้าหมายคือ การลดคาร์บอนจนเป็นกลาง (Carbon Neutrality) ภายในปี 2040 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 พร้อมวางแผนการพัฒนาความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชนผ่านโครงการและกิจกรรมต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อชีวิตดีที่ยั่งยืน (ALL IS WELL) สำหรับทุกชีวิตอย่างแท้จริง
อ้างอิง: