บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ผู้นำธุรกิจค้าส่งค้าปลีก แม็คโครและโลตัส รายงานผลประกอบการไตรมาส 1/68 มีรายได้รวม 129,950 ล้านบาท เติบโต 2.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY)
ส่วนกำไรสุทธิหลังรายการปรับปรุงเติบโตขึ้น 10.3% เป็นผลมาจากยอดขายที่เติบโตขึ้นทั้งในธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก จากการเปิดสาขาใหม่ การขายนอกร้าน และการขายออนไลน์ ที่เติบโตแข็งแกร่ง โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าอาหารสด กลุ่มสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ (Private label) และสินค้าแบรนด์ที่มีจำหน่ายเฉพาะที่แม็คโครและโลตัส
รวมไปถึงการผนึกกำลังเพื่อเพิ่มมูลค่าและประสิทธิภาพในการดำเนินงาน หลังการปรับโครงสร้างภายในกลุ่มธุรกิจ (Synergistic Value) ยังช่วยสนับสนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯ ปรับตัวดีขึ้น
อีกทั้งบริษัทฯ ยังคงบริหารจัดการด้านการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการลดภาระหนี้และการปรับปรุงกระแสเงินสดให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษัทฯ มีสภาพคล่องที่แข็งแรงและฐานะทางการเงินที่มั่นคง
นอกจากนี้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Euromonitor International ได้จัดอันดับ Makro PRO เป็นแพลตฟอร์ม Grocery e-Commerce อันดับ 1 ของประเทศไทย ด้วยส่วนแบ่งตลาดยอดขายในปี 2567 ที่ 39.5% ในขณะที่ Lotus’s SMART App มีส่วนแบ่งตลาดยอดขายตามมาเป็นอันดับสอง ที่ 19.5% จากตลาด Grocery E-Commerce ของประเทศไทยซึ่งมีมูลค่า 64,000 ล้านบาท
ธานินทร์ บูรณมานิต ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/68 เติบโตตามแผนธุรกิจและเป้าหมายที่วางไว้ เราเดินหน้าเพิ่มสัดส่วนรายได้จากกลุ่มสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัทฯ (Private label) ที่เน้นคุณภาพดี ในราคาที่คุ้มค่า ครอบคลุมทุกหมวดหมู่สินค้า พร้อมต่อยอดกลุ่มสินค้าอาหารพร้อมปรุง-พร้อมทาน (RTC–RTE)
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปี 2568 ซีพี แอ็กซ์ตร้า เดินหน้าผลักดันกลยุทธ์หลัก มุ่งสร้างการเติบโตทุกช่องทางจำหน่าย โดยเฉพาะการขายผ่านออนไลน์และการขายนอกร้าน โดยพัฒนาเทคโนโลยีและแพลตฟอร์ม รวมถึงการนำ AI วิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าแบบ Hyper-Personalization เพื่อนำเสนอสินค้าให้ตรงกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำขึ้น พร้อมกับเดินหน้าขยายสาขา ปรับโฉมสาขา และพัฒนาพื้นที่เช่าเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภค