วันนี้ (26 เมษายน) เอกฉัตร ศีตวรรัตน์ รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์มีนโยบายส่งเสริมให้ผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จาก FTA มากขึ้น ดังนั้นกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศจึงร่วมมือกับกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงาน ของเกาหลีใต้ จัดงานสัมมนา ‘Thailand-Korea RCEP Trade Forum: Bridging Markets, Building Futures’ เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568
เอกฉัตรกล่าวว่า การสัมมนาครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมทั้งผู้ประกอบการไทยและเกาหลีใต้ที่อยู่ในไทย โดยมีบริษัทต่างๆ ส่งผู้แทนเข้าร่วมกว่า 100 ราย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ ภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ให้ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้ตระหนักรู้และเข้าใจในความสำคัญของ RCEP รวมทั้งเสริมสร้างศักยภาพให้ผู้ประกอบการไทยที่สนใจส่งออกไปเกาหลีใต้ โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม รวมถึงประชาชนทั่วไป ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงพาณิชย์ในการผลักดันให้มีการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้า
“ผมประเมินว่าไทยได้รับประโยชน์มหาศาลจากความตกลงการค้าเสรี โดยเฉพาะกรอบ RCEP ซึ่งในปีที่ผ่านมา การค้าระหว่างไทยกับประเทศสมาชิก RCEP มีมูลค่าสูงถึงกว่า 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนในมิติของการใช้ประโยชน์จากความตกลงฯ การใช้ประโยชน์ของไทยภายใต้ RCEP ในการส่งออกไปเกาหลีใต้ มีอัตราสูงสุดเมื่อเปรียบเทียบกับการส่งออกไปยังประเทศสมาชิก RCEP อื่นๆ”
เอกฉัตรกล่าวว่า การสัมมนาครั้งนี้จึงเป็นส่วนหนึ่งซึ่งสะท้อนถึงการทำความร่วมมือระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ เพื่อส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลกฉบับนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสทางการค้าการลงทุนระหว่างกันให้มากขึ้น และลดผลกระทบจากสภาวะที่ตลาดโลกมีความผันผวนอย่างหนัก
ทั้งนี้ ความตกลง RCEP เป็น FTA ฉบับที่ 14 ของไทย และเป็นความตกลงการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดในโลก ประกอบด้วย สมาชิก 15 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน 10 ประเทศ จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ มีประชากรรวมกว่า 2,200 ล้านคน หรือ หนึ่งในสามของประชากรโลก การใช้สิทธิประโยชน์จากความตกลงนี้จะช่วยสร้างแต้มต่อให้ผู้ประกอบการในตลาดโลกมากขึ้น
ส่วนเกาหลีใต้เป็นคู่ค้าอันดับ 13 ของไทย โดยในปี 2567 การค้าระหว่างไทยกับเกาหลีใต้ มีมูลค่า 15,280.86 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ไทยส่งออกไปเกาหลีใต้ มูลค่า 5,937.99 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากเกาหลีใต้ มูลค่า 9,342.87 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง น้ำมันสำเร็จรูป แผงวงจรไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์อลูมิเนียม และน้ำตาลทราย สินค้านำเข้าสำคัญ เช่น แผงวงจรไฟฟ้า เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เคมีภัณฑ์ และเครื่องจักรกล
