×

ทรัมป์เปิดฉากถล่มฮูตีในเยเมน จุดไฟสงครามตะวันออกกลางครั้งใหม่?

18.03.2025
  • LOADING...
ผศ. ดร.มาโนชญ์ อารีย์ นักวิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศวิเคราะห์สถานการณ์การโจมตีฮูตีของทรัมป์

เมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2025 กองทัพสหรัฐฯ ได้เปิดปฏิบัติการโจมตีฐานที่มั่นของกลุ่มฮูตีในเยเมน โดยมุ่งเป้าไปที่ระบบเรดาร์ ระบบป้องกันทางอากาศ ฐานยิงขีปนาวุธ และคลังโดรน

 

เป้าหมายหลักของปฏิบัติการนี้ คือ การทำลายขีดความสามารถทางทหารของกลุ่มฮูตี ที่สหรัฐฯ เชื่อว่าได้รับการสนับสนุนด้านอาวุธและเงินทุนจากอิหร่าน ซึ่งกลุ่มฮูตีได้โจมตีเรือพาณิชย์ในทะเลแดงและช่องแคบบับ เอล-มันเดบ (Bab al-Mandab) ที่เป็นหนึ่งในเส้นทางเดินเรือที่สำคัญที่สุดของโลกตั้งแต่หลังปฏิบัติการจู่โจมสายฟ้าแลบของอิสราเอลในฉนวนกาซา เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2023 

 

ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รายงานว่า การโจมตีครั้งนี้สร้างความเสียหายอย่างหนัก ทำให้นักรบฮูตีเสียชีวิตกว่า 50 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บเกือบ 100 คน รวมถึงมีรายงานผู้เสียชีวิตในกลุ่มพลเรือนที่เป็นเด็กและผู้หญิง

 

การส่งสัญญาณเตือนอิหร่าน?

 

การโจมตีฮูตีของทรัมป์ไม่ได้เป็นเพียงแค่การปกป้องเส้นทางเดินเรือระหว่างประเทศ แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณเตือนตรงไปยังอิหร่าน ซึ่งเป็นผู้ให้การสนับสนุนกลุ่มฮูตีทั้งด้านเงินทุนและอาวุธ

 

รัฐบาลทรัมป์กำลังเพิ่มแรงกดดันให้อิหร่านยุติการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ และหยุดการสนับสนุนกลุ่มติดอาวุธในภูมิภาค โดยเตือนว่าหากอิหร่านเพิกเฉย สหรัฐฯ อาจใช้ปฏิบัติการทางทหารเพิ่มเติม

 

ทรัมป์ออกแถลงการณ์ผ่าน Truth Social โดยระบุว่าการโจมตีครั้งนี้เป็น “การโจมตีที่เด็ดขาดและทรงพลัง” พร้อมเตือนอิหร่านว่า หากยังคงสนับสนุนฮูตีต่อไป สหรัฐฯ จะไม่ลังเลที่จะดำเนินมาตรการที่รุนแรงกว่าเดิม

 

ฮูตี-อิหร่านตอบโต้ สงครามจะขยายตัว?

 

หลังการโจมตีของสหรัฐฯ เพียงไม่กี่ชั่วโมง กลุ่มฮูตีได้ยิงขีปนาวุธและโดรนกว่า 18 ลูก ใส่เรือบรรทุกเครื่องบิน USS Harry Truman ที่กำลังลาดตระเวนในทะเลแดง แม้ว่ากองทัพเรือสหรัฐฯ จะสามารถสกัดกั้นการโจมตีได้ส่วนใหญ่ แต่เหตุการณ์นี้เป็นสัญญาณว่าความขัดแย้งอาจบานปลาย

 

ทางด้านรัฐบาลอิหร่านได้ออกมาประณามสหรัฐฯ โดยระบุว่าการโจมตีครั้งนี้เป็น “การรุกรานอย่างเปิดเผย” และเตือนว่าสหรัฐฯ ต้องรับผิดชอบต่อผลที่ตามมา

 

เซย์อิด อับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน กล่าวหาทรัมป์ว่า พยายามจุดชนวนให้ภูมิภาคนี้เข้าสู่ภาวะไร้เสถียรภาพ พร้อมย้ำว่าอิหร่านจะไม่ยอมถูกกดดันจากสหรัฐฯ

 

อาจารย์มาโนชญ์

 

ทำไมสหรัฐฯ ถึงโจมตีฮูตีในเวลานี้?

 

ผศ. ดร.มาโนชญ์ อารีย์ อาจารย์ประจำภาควิชารัฐศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒมองว่า การโจมตีของทรัมป์เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ที่ซับซ้อน ซึ่งเกี่ยวข้องกับทั้งความมั่นคงของอิสราเอล ความสัมพันธ์กับรัสเซีย และการส่งสัญญาณทางการทูตไปยังอิหร่าน โดยพิจารณาจาก 3 ปัจจัยดังนี้ 

 

  1. การสนับสนุนอิสราเอล
    • ทรัมป์มีจุดยืนชัดเจนว่าสนับสนุนอิสราเอลอย่างเต็มที่ตั้งแต่กลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีอีกครั้ง
    • กลุ่มฮูตีเคยประกาศว่าจะโจมตีเรือสินค้าที่มีความเชื่อมโยงกับอิสราเอล
    • การโจมตีของฮูตีส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของอิสราเอลโดยตรง

 

  1. ความพยายามในการแยกรัสเซียออกจากจีนและอิหร่าน
    • ทรัมป์พยายามแยกรัสเซียออกจากอิหร่านโดยใช้วิธีทางการทูตและการกดดันทางทหาร เช่นเดียวกับที่นักวิเคราะห์มองว่าทรัมป์พยายามแยกรัสเซียออกจากจีนในสงครามยูเครน
    • อย่างไรก็ตาม รัสเซียแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับการโจมตีของสหรัฐฯ ซึ่งอาจสะท้อนว่ามอสโกยังคงรักษาความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับเตหะราน

 

  1. การใช้ปฏิบัติการทหารเพื่อเจรจากับอิหร่าน
    • ทรัมป์เคยส่งสัญญาณว่าต้องการเจรจากับอิหร่าน แต่ถูกปฏิเสธ
    • การโจมตีฮูตีอาจเป็นความพยายามกดดันให้อิหร่านกลับเข้าสู่โต๊ะเจรจา

 

ทะเลแดง เส้นทางยุทธศาสตร์ของการค้าโลก

 

ทะเลแดงเป็นหนึ่งในเส้นทางเดินเรือที่สำคัญที่สุดของโลก เชื่อมมหาสมุทรอินเดียเข้ากับคลองสุเอซและทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ประมาณ 12% ของน้ำมันที่ขนส่งทางทะเล และ 8% ของก๊าซธรรมชาติเหลวทั่วโลกไหลผ่านเส้นทางนี้

 

ตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา กลุ่มฮูตีได้โจมตีเรือพาณิชย์ที่เดินทางผ่านทะเลแดง ส่งผลให้บริษัทขนส่งต้องเปลี่ยนเส้นทางไปอ้อมแหลมกู๊ดโฮป ทวีปแอฟริกา ซึ่งเพิ่มต้นทุนด้านโลจิสติกส์ กระทบต่อเศรษฐกิจโลก ด้วยระยะทางที่เพิ่มขึ้นหลายพันไมล์นี้ จึงอาจส่งผลให้ราคาน้ำมันและค่าขนส่งพุ่งสูงขึ้น

 

ทรัมป์จะขยายสงครามหรือไม่?

 

ผศ. ดร.มาโนชญ์ มองว่า สหรัฐฯ อาจพยายามดึงพันธมิตรในตะวันออกกลางเข้ามาร่วมมือในการโจมตีกลุ่มฮูตี โดยเฉพาะสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซึ่งมีท่าทีแข็งกร้าวต่อกลุ่มฮูตี อีกทั้งจากความสำเร็จของข้อตกลงสันติภาพ Abraham Accords ที่ทรัมป์ผลักดันทำให้ UAE กลายเป็นพันธมิตรสำคัญของอิสราเอล

 

อย่างไรก็ตาม ซาอุดีอาระเบียอาจเลือกวางตัวเป็นกลาง เนื่องจากไม่ต้องการตกเป็นเป้าหมายของการโจมตีจากกลุ่มฮูตีโดยตรง ดังจะเห็นได้จากช่วงหลังมานี้ที่ซาอุดีอาระเบียเดินหน้าสร้างสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งรัสเซียและจีน ซึ่งเป็นสองมหาอำนาจขั้วตรงข้ามกับสหรัฐฯ 

 

ส่วนคำถามที่ว่าทรัมป์ต้องการจะสร้างอิทธิพลเหนือทะเลแดงหรือไม่นั้น ผศ. ดร.มาโนชญ์ มองว่า เป้าหมายในวันนี้ของทรัมป์คือการปกป้องผลประโยชน์ของตนเองและคุ้มกันเรือสินค้าของอิสราเอล แต่ในระยะยาว หากสหรัฐฯ สามารถจัดการกลุ่มฮูตีได้เด็ดขาดจริง สหรัฐฯ อาจพยายามขยายอิทธิพลทางทหารในเยเมนผ่านการสร้างฐานทัพใหม่ และอาจสร้างกลุ่มอำนาจใหม่ในเยเมนที่เข้ามาแทนที่กลุ่มฮูตี เพื่อควบคุมสถานการณ์ในภูมิภาคและรับประกันความมั่นคงของเส้นทางเดินเรือ 

 

ขณะที่เยเมน ทั้งรัฐบาลและกลุ่มฮูตีต่างยืนหยัดที่จะสู้ต่อไป โดย ผศ. ดร.มาโนชญ์ วิเคราะห์ว่า การต่อสู้ตอบโต้กันไปมาระหว่างสหรัฐฯ ภายใต้การนำของทรัมป์กับกลุ่มฮูตีจะหยุดได้ขึ้นอยู่กับการเจรจาในเฟสที่สองของอิสราเอลและฮามาส เพราะถ้าตราบใดที่อิสราเอลยังคงไม่เปิดช่องทางให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา กลุ่มฮูตีก็จะยังคงใช้การโจมตีทะเลแดงเป็นเครื่องมือต่อรอง และสหรัฐฯ ก็จะยังคงเดินหน้าโจมตีฮูตีต่อไป

 

ฉะนั้นปฏิบัติการในครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงแค่การตอบโต้ทางทหาร แต่เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ที่ซับซ้อน ซึ่งเกี่ยวข้องกับทั้งสหรัฐฯ อิสราเอล อิหร่าน รัสเซีย และจีน ทั้งสิ้น

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising