LINE ประเทศไทย เพิ่งจัดงาน LINE CONFERENCE THAILAND 2025 (LCT25) ซึ่งเป็นการประกาศทิศทางธุรกิจที่ต้องการต่อยอดจุดแข็งของแอปแชตที่เข้าถึงคนไทย 56 ล้านคนมาสู่บริการใหม่ๆ ที่จะทยอยเปิดตัวถึง 3 บริการในปีนี้
ไฮไลต์สำคัญของงานคือการเปิดตัว LINE PREMIUM บริการสมาชิกพิเศษที่ออกแบบมาสำหรับกลุ่มคนทำงานเป็นหลัก ในราคา 169 บาทต่อเดือน เตรียมเปิดตัวในไตรมาส 2 ของปีนี้ ซึ่งเป็นประเทศที่ 2 ต่อจากญี่ปุ่น
โดยมีฟีเจอร์เด่นคือการเปลี่ยนไอคอนแอปและฟอนต์ใน LINE, Multiple Profiles สำหรับแยกโปรไฟล์ตามกลุ่มเพื่อน, Message Backup จัดเก็บข้อความ รูปภาพ และไฟล์ได้แบบไม่มีวันหมดอายุ พร้อมพื้นที่จัดเก็บสูงสุด 100 GB และสิทธิประโยชน์จาก LINE SHOPPING และ LINE MAN ซึ่งมีมูลค่ารวมสูงสุดถึง 1,000 บาท
นรสิทธิ์ สิทธิเวชวิจิตร รองประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ LINE ประเทศไทย เผยถึงการพัฒนา LINE PREMIUM ว่า “เราทำงานใกล้ชิดกับญี่ปุ่นและเกาหลี วันนี้มีทีมจาก Developer บินมาด้วย ซึ่งเราขายของที่เขาเป็นคนผลิต ซึ่งเขาก็รอดูว่าคนไทยจะมีปฏิกิริยาอย่างไรกับฟีเจอร์ที่เขาพัฒนา”
นรสิทธิ์อธิบายเพิ่มเติมว่าในญี่ปุ่น การตลาดแตกต่างจากที่ไทย เพราะชาวญี่ปุ่นไม่ได้ใช้ LINE ในการทำงาน แต่คนญี่ปุ่นตอบรับฟีเจอร์ Multiple Profiles อย่างล้นหลาม เนื่องจากพวกเขามีหลายบทบาทในชีวิตและรู้สึกสบายใจที่สามารถปรับเปลี่ยนโปรไฟล์ได้ตามต้องการ
เมื่อถามว่าบริการพื้นฐานจะยังคงอยู่หรือไม่หลังจากเปิดตัว LINE PREMIUM นรสิทธิ์ยืนยันว่า “ฟีเจอร์ทั่วไปยังใช้ได้ปกติ ฟรีเหมือนเดิม แล้วเรายังมีทีมที่คอยปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เพราะโมเดลธุรกิจของเรามีรายได้จากการโฆษณา วันที่เรายังขายโฆษณาอยู่เราก็ยังให้บริการพื้นฐานฟรีได้ต่อไป”
แต่นรสิทธิ์อธิบายว่าฟีเจอร์อย่าง Backup มีต้นทุนด้าน Server ค่อนข้างสูง จึงต้องมีการเก็บค่าบริการ รวมถึงฟีเจอร์พิเศษอื่นๆ ที่ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ใช้ทุกคนต้องการ เช่น Sub Profile หรือการเปลี่ยนฟอนต์ ทั้งนี้ LINE ตั้งเป้าให้มีผู้สมัคร PREMIUM ราว 5-10% จากฐานผู้ใช้ทั้งหมด
นอกจาก LINE PREMIUM แล้ว บริษัทยังเตรียมเปิดตัว LINE GIFT บริการ e-Gifting ภายใต้คอนเซปต์ Social Gifting ที่ช่วยให้การส่งของขวัญผ่านแชตเป็นเรื่องง่าย โดยสามารถส่งได้ทั้ง e-Voucher และสินค้าที่ส่งตรงถึงผู้รับแม้ไม่รู้ที่อยู่ ผู้รับสามารถปรับเปลี่ยนสีและขนาดของสินค้าได้ตามต้องการ มีระบบ Wishlist ที่ช่วยให้การเลือกของขวัญตรงใจมากขึ้น และฟีเจอร์ตั้งเวลาส่งเพื่อไม่พลาดวันสำคัญ
LINE วางกลยุทธ์คล้ายกับที่ประสบความสำเร็จในไต้หวัน โดยเริ่มจากสินค้าที่มีมูลค่าไม่สูงมากเพื่อสร้างความคุ้นเคยในผู้ใช้ก่อน เช่น กาแฟ ชา ขนมต่างๆ ก่อนจะขยับไปสู่สินค้ามูลค่าสูงในอนาคต มีแผนเปิดตัวในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ พร้อมแคมเปญใหญ่ในช่วงเทศกาลปลายปี
บริการใหม่อีกตัวคือ LINE HEALTH บริการสุขภาพที่ต่อยอดจุดแข็งด้านการสื่อสารของ LINE ในการเชื่อมต่อผู้ใช้กับผู้ให้บริการทางการแพทย์ออนไลน์ โดยมีพาร์ตเนอร์หลักคือ Health at Work ให้บริการดูแลสุขภาพโดยแพทย์และผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง และ ooca สำหรับการปรึกษาด้านสุขภาพจิตกับจิตแพทย์และนักจิตวิทยา
LINE HEALTH เปิดให้บริการแล้วในระยะทดลอง และเป็นประเทศแรกที่ได้เปิดตัวบริการนี้อย่างเป็นทางการ โดยบริษัทกำหนด SLA หรือมาตรฐานขั้นต่ำที่เข้มงวด เช่น เวลารอพบแพทย์ต้องไม่เกิน 10 นาที รายได้หลักของบริการนี้มาจากส่วนแบ่งค่าบริการจากพาร์ตเนอร์
ในอนาคต LINE HEALTH ยังมีแผนเปิด Health Shop ศูนย์รวมผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ และกำลังพยายามเชื่อมต่อกับสวัสดิการของรัฐ โดยเฉพาะบัตรทอง ซึ่งอยู่ระหว่างการเจรจากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
อีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญคือการขยายธุรกิจ IP (Intellectual Property) ในไทยผ่านสองแพลตฟอร์มหลักคือ IPX (LINE FRIENDS) ครีเอทีฟสตูดิโอผู้สร้างสรรค์และพัฒนาคาแรกเตอร์ระดับโลก และ LINE WEBTOON แพลตฟอร์มเว็บตูนอันดับหนึ่งของโลกและในไทย
นรสิทธิ์กล่าวว่า “คนไทยเก่งเรื่องคราฟต์ เรื่องการวาด งานมีคุณภาพเทียบเท่าเอเชียระดับโลก ซึ่งมีโอกาสที่ IP ไทยจะไปโตระดับโลกได้ เช่นที่เกาหลีมี K-Pop แต่ไทยมีซีรีส์ BL คอนเทนต์เหล่านี้มันมีหลายอย่างที่คนไทยทำได้ดี”
LINE มุ่งสนับสนุนให้ครีเอเตอร์ไทยพัฒนา IP ของตนเองและส่งออกไปตลาดโลก ผ่านการสร้าง IP ใหม่และการต่อยอดเนื้อหาจาก LINE WEBTOON
LINE ยังเปิดตัวโครงการเพื่อนักพัฒนาชาวไทยอีก 2 โครงการ ได้แก่ LINE MINIAPP แพลตฟอร์มที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างแอปบน LINE ได้ง่ายขึ้น ลดข้อจำกัดในการพัฒนา Native App ที่ต้องใช้ทรัพยากรสูง
พร้อมเปิดตัว LINE MINIAPP Playground สำหรับทดลองสร้าง MINIAPP และ LINE DEVELOPER PARTNER โปรแกรมส่งเสริมศักยภาพนักพัฒนาไทย เปิดโอกาสให้นักพัฒนาเข้าถึงการสนับสนุนรอบด้านจาก LINE เพื่อต่อยอดเป็นพาร์ตเนอร์องค์กรนักพัฒนาชั้นนำระดับประเทศ
นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนา BOT MARKETPLACE ต่อยอดจุดแข็งด้านกรุ๊ปแชตสู่ศูนย์รวมบอตที่ช่วยตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ในหลากหลายมิติอีกด้วย