จริงอยู่ที่ฟุตบอลเป็นหนึ่งในภาษาสากลของโลก แต่หากถามว่าคนบ้านไหนที่มีสำเนียงในการเอื้อนเอ่ยที่ไพเราะเพราะพริ้งมากกว่าคนอื่นเขา
หัวใจของเราหลายคนน่าจะเห็นตรงกัน
จะมีฟุตบอลที่ไหนที่ดูมีเสน่ห์และเปี่ยมไปด้วยมนตร์ขลังเหมือนฟุตบอลบราซิล หรือที่คนเฒ่าเขาเรียกกันว่า ‘ลูกหนังแซมบ้า’ กันอีก?
เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องสเต็ปการเล่นที่สวยงาม เทคนิคการเล่นที่ยากจะหาตัวจับได้ และจินตนาการอันเพริศพริ้ง ต่อให้ไม่ใช่คนบราซิลหากทีมชาติบราซิลลงสนาม หรือมีนักเตะแซมบ้าลงสนาม ผู้ชมไม่ว่าจะในสนามหรือหน้าจอโทรทัศน์ต่างก็อยากจะจับจ้องไปที่พวกเขาทั้งนั้น
แต่ความชื่นชมนั้นก็มาพร้อมกับคำถามที่เป็นเหมือนปริศนาของโลกฟุตบอล
‘ทำไมคนบราซิลเล่นบอลไม่เหมือนที่อื่น’
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หลายคนสงสัยกันมายาวนาน จนสุดท้ายมีความพยายามในการตามหาคำตอบ ซึ่งมันเป็นคำง่ายๆ แค่สองคำครับ
‘จิงกา’ (Ginga)
และ ‘โจกา โบนิโต’ (Joga Bonito)
ผมคิดถึงเรื่องของ จิงกา และ โจกา โบนิโต ขึ้นมาหลังจากที่เปิดเจอคลิปวิดีโอการเล่นของ ดาลมินญา จอมทัพลูกหนังชาวบราซิลในยุค 90 ที่เคยโด่งดังอยู่ช่วงสั้นๆ กับ เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญา ในลาลีกา สเปน – ยุคก่อนที่เรอัล มาดริด จะกลายเป็น ‘กาลาคติกอส’ และบาร์ซาจะมี Tiki-Taka
ดาลมินญานั้นเป็นนักเตะที่ดูเหมือนไม่น่าจะเก่ง ดูไม่มีออร่าซูเปอร์สตาร์ แต่เป็นนักฟุตบอลที่มีชั้นเชิงการเล่นสูงมาก สูงส่งจนน่ากลัว สามารถวาดลวดลายที่ไม่มีใครคาดคิด (และถึงคิดก็ไม่มีใครกล้าเล่น) ในสนาม
ลูกจ่ายแบบ No-Look Pass เหมือนเป็นขนมกรุบ
ดาลมินญาทำได้ถึงขั้นลูกดีดบอลข้ามหัวที่เรียกกันว่า ‘ลัมเบรตา’ (Lambreta อันนี้ก็ไม่ใช่ยี่ห้อมอเตอร์ไซค์อีกเหมือนกัน)
ผมนั่งดูคลิปการเล่นสั้นๆ ของดาลมินญาแค่ไม่กี่นาที ความทรงจำของนักเตะบราซิลในอดีตอีกมากมายก็ผุดขึ้นมาตามไปด้วย ไม่ว่าจะเป็น ริวัลโด ซ้ายฟ้าสั่งที่อาจจะไม่พลิ้วไหวแต่เต็มไปด้วยความหนักแน่นและเหนือชั้น, เดนิลสัน ปีกลอยลมที่ควบพาบอลไปเหมือนล่องบนเมฆา หรือ จูนินโญ เปาลิสตา จิ๋วแจ๋วมหัศจรรย์ที่เคยสะเทือนพรีเมียร์ลีกมาแล้วในช่วงเวลาสั้นๆ
โรบินโญ กับตำนาน ‘เพดาลา’ (Pedala) การสับขาอย่างรวดเร็วถึง 7 ชั้นจนคู่แข่งหลงทาง
แน่นอนใครจะลืม ‘R9’ โรนัลโด เด ลิมา ‘อิล เฟโนเมโน’ ในตำนาน และ ‘R10’ โรนัลดินโญ นักฟุตบอลผู้เป็นเหมือนภาพจำฟุตบอลที่สวยงามและมหัศจรรย์ของบราซิล
ที่เอ่ยมานั้นเป็นเพียงส่วนเล็กน้อยเท่านั้นครับ ผมเชื่อว่าทุกคนน่าจะมีนักฟุตบอลบราซิลในดวงใจที่อยู่ในความทรงจำอีกมากมาย และหลายคนอาจจะเคยคิดสงสัยเหมือนกันว่าทำไมคนบราซิลถึงเตะบอลกันได้เก่งนัก
มันมีใครเป่ามนตร์สะกดอะไรที่ปลายเท้าให้หรือเปล่านะ?
เหมือนที่ ‘เคน นครินทร์’ เคยบอกไว้ครับว่า คำถามที่ดีจะนำไปสู่คำตอบที่ดี เรื่องคำถามถึงปริศนาฟ้าแลบว่าทำไมคนบราซิลเตะบอลได้มหัศจรรย์ ได้มีการพยายามค้นหาคำตอบกันอย่างจริงจัง
เรื่องราวนั้นเกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีที่แล้ว
ย้อนหลังกลับไปในปี 2005 บริษัทยักษ์ใหญ่ของเกมกีฬาอย่าง Nike ซึ่งกำลังพยายามลงหลักและปักฐานในฐานะแบรนด์กีฬาที่จริงจังในเรื่องของเกมฟุตบอล ได้ทำแคมเปญการตลาดครั้งใหญ่ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน
แคมเปญการตลาดครั้งนั้นมีชื่อว่า ‘Ginga’ (ออกเสียงว่า ‘จิงกา’ นะครับ ไม่ใช่ ‘กิ้งก่า’ นะ)
โดยแคมเปญนั้นไม่ได้เป็นแค่การถ่ายทำโฆษณาชุดใหญ่เฉยๆ แบบที่ทำกันทั่วไป แต่เป็นการถ่ายทำสารคดีกีฬาขึ้นมาเรื่องหนึ่งในชื่อ ‘Ginga: The Soul of Brasil’ (2005) ซึ่งมีความยาวราว 1 ชั่วโมง
ในสารคดีนั้นแบ่งออกเป็นหลายพาร์ต ที่จะพาเราออกไปสำรวจกันถึงที่มาที่ไป หาคำตอบของคำถามใหญ่ที่ไม่มีใครเคยรู้นอกจากคนบราซิลว่าทำไมพวกเขาถึงเล่นฟุตบอลเก่งนัก
หนึ่งในตัวละครเด่นของ Ginga นั้นคือโรบินโญ ที่กำลังโด่งดังในฐานะซูเปอร์สตาร์ของทีมซานโตส นักเตะที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น ‘นิว เปเล’ เพราะลีลาการเล่นสุดมหัศจรรย์รวมถึงเป็นทายาทสายตรงมาจากสโมสรเดียวกันกับตำนานราชาลูกหนังตลอดกาล
อีกคนที่ได้รับความสนใจไม่น้อยคือ ฟัลเกา ราชาฟุตซอลโลกที่มีลีลาการเล่นระดับมหัศจรรย์พันลึก
ในเรื่องราวนั้นผมคงไม่สามารถถ่ายทอดออกมาได้ทั้งหมดครับ แต่สิ่งที่ทำให้เราได้รู้ความลับเล็กๆ แต่ยิ่งใหญ่ของคนบราซิลนั้นคือคำว่า Ginga
Ginga ไม่ได้เป็นแค่คำธรรมดา แต่เป็นคำที่สะท้อนถึงวิถีการใช้ชีวิตในแบบของคนบราซิลที่ใช้ชีวิตอยู่ใต้แสงอาทิตย์ ความสนุก สดใส ร่าเริง การขยับเล็กๆ น้อยๆ สร้างจังหวะให้ชีวิตได้คึกคักและมีสีสัน
ฟังดูเหมือนไม่น่าเชื่อ แต่คนบราซิลเป็นคนแบบนี้จริง และ Ginga นั้นสามารถนำมาปรับใช้ได้กับทุกสิ่งทุกอย่าง ซึ่งรวมถึงในเกมกีฬาอย่างฟุตบอล หรือแม้แต่ศิลปะการต่อสู้อย่างคาโปเอรา ที่มีการเคลื่อนไหวรวดเร็วและไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลย
ฟุตบอลบราซิลเล่นกันแบบนี้มาตลอด เด็กบราซิลจะเตะบอลเล่นกันทุกที่ ทุกเวลา ไม่ว่าจะในสนามที่อยู่ในฟาเวลา (ย่านที่พักอาศัย) บนชายหาด ริมถนน
ไม่ว่าจะมีลูกฟุตบอลจริงๆ หรือไม่ก็ไม่สำคัญ ขอให้มีอะไรที่เตะได้พวกเขาก็เตะมัน และต่อให้ไม่มีเพื่อนอยู่สักคนก็ไม่เป็นไร คนบราซิลเตะเล่นคนเดียวก็ได้สนุกไปอีกแบบเหมือนกัน
สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ทำให้ทักษะความสามารถในการเล่นฟุตบอลของคนบราซิลนั้นเหนือชั้นกว่าใคร พวกเขามีทักษะการเล่น การควบคุมลูกฟุตบอลได้อย่างน่าทึ่ง และบางครั้งก็ไม่น่าเชื่อว่านั่นจะเป็นฝีเท้าการควบคุมของมนุษย์
และสิ่งเหล่านี้เองครับที่เป็นต้นธารไปสู่สิ่งที่ยิ่งใหญ่ต่อไปอย่างคำว่า ‘Joga Bonito’
คำว่า Joga Bonito ซึ่งมีความหมายว่า ‘The Beautiful Game’ หรือเกมที่งดงาม เป็นชื่อสารคดีลูกหนังชิ้นที่ 2 ที่ Nike จัดทำขึ้นในช่วงฟุตบอลโลก 2006 ซึ่งต่อยอดความสำเร็จมาจาก Ginga ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในปีก่อนหน้า
‘Joga Bonito: The Beautiful Game (2006)’ พาเราไปสำรวจความลับของเกมลูกหนังบราซิลกันต่อว่าทำไมพวกเขาถึงเล่นฟุตบอลได้งดงามนัก ซึ่งก็แบ่งออกเป็นหลายพาร์ตเหมือนเดิม แต่คราวนี้มีตัวละครที่หลากหลายขึ้น
และคนที่เป็นตัวเด่นของเรื่องคือ โรนัลดินโญ ที่กำลังก้าวขึ้นมาเป็นนักฟุตบอลอันดับหนึ่งของโลกในเวลานั้น
อีกเช่นเคยครับ ผมขอละการเล่าเรื่องทั้งหมด แต่อยากเชื้อเชิญให้ได้ลองไปค้นหากันดู (พอหาชมกันได้ในอินเทอร์เน็ต) ว่าทำไมคนบราซิลถึงเล่นฟุตบอลได้งดงาม
แต่โดยสรุปแล้ว คำตอบสั้นๆ ที่ผมค้นพบด้วยตัวเองคือคนบราซิลน่าจะคิดว่า ‘เล่นแบบธรรมดาจะเล่นกันไปทำไม’
ฟุตบอลสำหรับพวกเขาคือความสนุกสนาน ความบันเทิง คือรอยยิ้ม คือเสียงหัวเราะ คือความรู้สึกตื่นเต้นไม่ว่าจะเป็นคนวาดลวดลายเอง หรือเป็นคนที่เฝ้าดูคนอื่นวาดลวดลายก็ตาม
และโรนัลดินโญคือภาพวาดของคำว่า Joga Bonito ที่นับว่าสมบูรณ์แบบที่สุด เพราะการเล่นที่สวยงาม ตระการตา เหนือชั้น แต่ก็ยังทรงประสิทธิภาพ
จนถึงทุกวันนี้ก็ไม่มีนักเตะคนไหนที่ทำได้แบบนี้อีกเลย แม้กระทั่งเนย์มาร์ เจ้าชายสุริยันของบราซิลคนล่าสุดก็อาจจะเก่งกาจ แต่ก็ยังไต่ไปไม่ถึงในระดับนั้น
อย่างไรก็ดี สิ่งเหล่านี้ไม่ว่าจะเป็น Ginga หรือ Joga Bonito นั้นทำให้บราซิลไม่เพียงแต่เป็นชาติที่ครองความยิ่งใหญ่ด้วยการเป็นแชมป์ฟุตบอลโลกมากที่สุดถึง 5 สมัย แต่พวกเขายังเป็นชาติขวัญใจของใครหลายคนที่จะคอยเฝ้าติดตามและเอาใจช่วยเสมอในรายการใหญ่รายการสำคัญของโลก
เป็นเช่นนี้มาตั้งแต่อดีต ในยุคของ ‘O Rei’ เปเล ผ่านกาลเวลามาถึง ซิโก, ทอสเทา, โซคราเตส จนถึงเบเบโต, โรมาริโอ, โรแบร์โต คาร์ลอส, โรนัลโด, โรนัลดินโญ และอีกมากมาย
สิ่งที่น่าเสียดายคือเกมการเล่นฟุตบอลสมัยใหม่ดูเหมือนจะไม่เอื้อต่อการเล่นในแบบนี้มากนัก ระบบการเล่นแบบ Positional Game จำกัดและตีกรอบจินตนาการในการเล่น ขณะที่ระบบทุนนิยมฟุตบอลทำให้นักเตะบราซิลกลายเป็นสินค้าส่งออกที่ถูกผลิตให้ตอบโจทย์ผู้ซื้ออย่างสโมสรในยุโรปเท่านั้น
นักฟุตบอลแซมบ้าลีลาสวยงามเริ่มกลายเป็นของหายากไปแล้ว และได้แต่หวังว่าจะไม่หายหรือสูญพันธุ์ในอนาคต
ว่าแต่อ่านมาถึงตรงนี้ พอจะมีนักเตะแซมบ้าในดวงใจมาแบ่งกันสักคนไหมครับ
อ้างอิง: