กรุงศรี คอนซูมเมอร์ ประกาศรีโฟกัสกลับมาที่ ‘การเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้’ พร้อมรุกสินเชื่อส่วนบุคคล ทวงบัลลังก์ ‘เจ้าแห่งการผ่อน’ ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่ม 14% สวนทางเศรษฐกิจไทยที่ยังฟื้นตัวช้า หนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง การผิดนัดชำระหนี้และหนี้เสียที่สูงขึ้น การแข่งขันที่เข้มข้นขึ้น และการกำกับดูแลที่เข้มงวดขึ้น
วันนี้ (6 มีนาคม) อธิศ รุจิรวัฒน์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ผู้ให้บริการด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล เปิดเผยผลประกอบการในปี 2567 ที่ผ่านมาของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการด้านบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล อันประกอบไปด้วย บัตรเครดิต กรุงศรี, บัตรกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์, บัตรเครดิตเซ็นทรัล เดอะวัน และบัตรเครดิตโลตัส
โดยระบุว่า ผลประกอบการในปี 2567 ที่ผ่านมาของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เติบโตเป็นที่น่าพอใจ และกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ก็ยังสามารถรักษาตำแหน่ง ‘ผู้นำตลาดบัตรเครดิต’ ได้อย่างต่อเนื่อง โดยในปีที่ผ่านมา จำนวนบัตรเครดิตของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ อยู่ที่ 6.2 ล้านใบ คิดเป็นราว 24% ของ Maket Share จำนวนบัตรเครดิตทั้งประเทศที่ 26 ล้านใบ
เปิดเผยผลประกอบการในปี 256
- ยอดบัญชีลูกค้าใหม่ 594,000 บัญชี เติบโต 6%YoY
- ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 392,500 ล้านบาท เติบโต 8%YoY
- ยอดสินเชื่อใหม่ 95,500 ล้านบาท เติบโต 4%YoY
- ยอดสินเชื่อคงค้าง 146,200 ล้านบาท ลดลง 1.5%YoY
โดยการลดลงของยอดสินเชื่อคงค้างมาจากปัจจัยหลัก คือ การปรับขึ้น Minimum Payment จาก 5% เป็น 8% เมื่อช่วงต้นปี 2567 ที่ผ่านมา
อวด NPL ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรม
อธิศเปิดเผยอีกว่า สำหรับอัตราส่วนหนี้ที่ค้างชำระเกิน 90 วัน (NPL) อยู่ที่ระดับ 1.1% เท่านั้น สำหรับบัตรเครดิต (เทียบกับค่าเฉลี่ยในธุรกิจซึ่งอยู่ที่ 2.6%) และ 2.6% สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อผ่อนชำระ (เทียบกับค่าเฉลี่ยในธุรกิจซึ่งอยู่ที่ 3.9%) อันเป็นผลจากการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุม
“ค่อนข้างภูมิใจกับตัวเลข NPL นี้ เนื่องจากเรามีการบริหารจัดการความเสี่ยงค่อนข้างดีมาก และดีกว่าตลาดโดยรวม” อธิศกล่าว
เปิดมุมมองธุรกิจในปี 2568: ‘หนักกว่าปีก่อน’
อธิศเปิดเผยว่า แม้ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาล รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น โครงการ Easy E-Receipt จะส่งผลดี กระตุ้นให้ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้น
แต่ในระยะยาวคาดว่า ธุรกิจบัตรเครดิตและสินเชื่อยังต้องเผชิญกับความท้าทายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงฟื้นตัวช้า อัตราส่วนหนี้ครัวเรือนต่อ GDP ในระดับสูง แนวโน้มการผิดนัดชำระหนี้และหนี้เสียที่แม้จะทรงตัว แต่ยังคงอยู่ในระดับที่สูง รวมถึงมาตรการควบคุมจากภาครัฐ เป็นผลให้ผู้ประกอบการต้องปรับตัว
“ปีที่แล้วเป็นปีที่หนัก และไม่ง่ายเลยสำหรับทุกอุตสาหกรรม ไม่ใช่เฉพาะสถาบันการเงิน และปีนี้เราก็คิดว่า ก็เป็นปีที่ไม่ง่าย ดูทรงแล้วก็คิดว่า จะหนักกว่าปีที่แล้ว” อธิศกล่าว
จ่อรุกสินเชื่อส่วนบุคคล ทวงบัลลังก์ ‘เจ้าแห่งการผ่อน’
อธิศยังกล่าวอีกว่า พันธกิจของบริษัทปีนี้ นอกจาก การเติบโตอย่างมีคุณภาพเพื่อคงความเป็นผู้นำในธุรกิจสินเชื่อไร้การค้ำประกัน โดยยึดถือความต้องการของลูกค้าเป็นหลักแล้ว กรุงศรี คอนซูมเมอร์จะให้ความสำคัญกับ ‘การเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้’ ด้วย
โดยการสร้างศักยภาพนี้ กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จำเป็นต้องเพิ่มการเติบโตของ ‘สินเชื่อส่วนบุคคล’ ในปีนี้ หลังจากในช่วงที่ผ่านมา บริษัทมุ่งไปที่การเติบโตของบัตรเครดิตมากกว่า
“พูดกันตามตรง บัตรเครดิตเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่สามารถสร้างรายได้ให้แก่สถาบันการเงินได้เยอะ โดยบาง Segment อาจติดลบด้วยซ้ำ เนื่องจากการทำโปรโมชั่น การทำการตลาด ขณะที่เพดานอัตราดอกเบี้ยบัตรเครดิตของไทยที่ 16% ก็ต่ำ แทบที่สุดในโลก ดังนั้นถ้ากรุงศรี คอนซูมเมอร์ จะกลับไปสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้นได้ ต้องกลับไปโตบนสินเชื่อส่วนบุคคล” อธิศกล่าว
พร้อมทั้งอธิบายอีกว่า “โดยในช่วงที่ 5 ปีผ่านมา การเติบโตไปให้น้ำหนักอยู่ที่บัตรเครดิต เนื่องมาจาก Risk Appetite ของเราก่อนหน้านี้ มองว่า ปล่อยสินเชื่อส่วนบุคคลเสี่ยงมากกว่า ส่วนปล่อยบัตรเครดิตเสี่ยงน้อยกว่า ปีนี้ เราจึงมองว่า ควรมีสมดุลมากขึ้น และจุดที่เราจะเติบโตมากกว่าเดิมคือสินเชื่อส่วนบุคคล”
อธิศมองว่า หนึ่งในเครื่องมือเร่งสินเชื่อส่วนบุคคลก็คือ สินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระ โดยระบุว่า “หากกรุงศรี คอนซูมเมอร์ เร่งการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อเพื่อการผ่อนชำระได้มากขึ้น สัดส่วนสินเชื่อส่วนบุคคล (P-Loan) ก็จะเพิ่มขึ้นตามด้วย แกน ‘การกลับมาเป็นเจ้าของการผ่อน’ เป็นแกนที่เราอยากจะโตปีนี้”
เปิดเป้าหมายปี 2568 พร้อมชู 5 กลยุทธ์หลัก
กรุงศรี คอนซูมเมอร์ จะยังคงมุ่งเน้นสร้างการเติบโตอย่างมีคุณภาพ พร้อมเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้ เพื่อคงความเป็นผู้นำในธุรกิจ โดยยึดความต้องการของลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ผ่าน 5 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ 1. มุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์หลักให้ตอบโจทย์ลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น 2. ขยายระบบนิเวศพันธมิตรเพื่อขยายธุรกิจ 3. สร้างเสริมนวัตกรรมทางการชำระเงิน 4. ผสานความร่วมมือในเครือกรุงศรีเพื่อสร้างโอกาสทางธุรกิจ และ 5. พัฒนาประสิทธิภาพการดำเนินงาน”
โดยกลยุทธ์ทั้ง 5 ประการนี้เป็นไปเพื่อเสริมศักยภาพของกรุงศรี คอนซูมเมอร์ ให้สอดรับกับสภาวะแวดล้อมในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนไป เพื่อสร้างความเติบโตอย่างมีคุณภาพและรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจการเงิน ในปี 2568 บริษัทตั้งเป้าต่างๆ ดังนี้
- ยอดบัญชีลูกค้าใหม่ 652,500 บัญชี (+10%)
- ยอดใช้จ่ายผ่านบัตร 431,500 ล้านบาท (+10%)
- ยอดสินเชื่อใหม่ 108,800 ล้านบาท (+14%)
- และยอดสินเชื่อคงค้าง 158,500 ล้านบาท (+8%)