ธุรกิจเดลิเวอรีในประเทศไทยยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2567 โดยข้อมูลล่าสุดจาก LINE MAN Wongnai เผยว่าการเติบโตของธุรกิจนี้สูงกว่า 20% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และมีอัตราการเติบโตสูงถึง 4 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2563 ซึ่งเป็นช่วงโควิด
จากข้อมูลของ LINE MAN Wongnai พบว่า หมวดหมู่อาหารที่มาแรงในปี 2567 ได้แก่ ส้มตำ กะเพรา และก๋วยเตี๋ยว โดยข้าวผัดมีอัตราการเติบโตถึง 10.9% ส่วนข้าวราดแกงและตามสั่งเติบโต 16% และเมนูยำเติบโตสูงถึง 17.5%
ด้านเครื่องดื่ม เมนูที่โดดเด่นที่สุดคือกาแฟ ซึ่งเติบโตถึง 12 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2563 โดยเฉพาะอเมริกาโนและแบล็กคอฟฟี่ที่เติบโต 38.4% เอสเพรสโซเติบโต 35.1% และคาปูชิโนเติบโต 31.9%
เมนูที่ถูกค้นหามากที่สุดในปี 2567 ได้แก่ ตำเส้นเล็กที่มีการค้นหาเพิ่มขึ้นถึง 580% ชาไทยเพิ่มขึ้น 79% เฟรนช์ฟรายส์เพิ่มขึ้น 59% หม่าล่าเพิ่มขึ้น 57% และครัวซองต์เพิ่มขึ้น 71%
นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่นๆ ที่มีการค้นหาเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เช่น เค้กเพิ่มขึ้น 33% ไก่ทอดเพิ่มขึ้น 20% มาการองเพิ่มขึ้น 216% บานอฟฟี่เพิ่มขึ้น 169% กรีกโยเกิร์ตเพิ่มขึ้น 98% และโยเกิร์ตเพิ่มขึ้น 64% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคมีความสนใจในเมนูที่หลากหลายมากขึ้น
ที่น่าสนใจคือ ‘ชาไทย Specialty’ มาแรงในรอบ 3 ปี โดยมีออร์เดอร์รวมกว่า 400,000 แก้วจากปี 2566 และ 2567 ร้านเปิดใหม่เพิ่มขึ้น 205% และยอดสั่งเติบโต 3.3 เท่า
‘มัทฉะฟีเวอร์’ ก็เป็นอีกเทรนด์ที่มาแรง โดยในปี 2567 มียอดสั่งทะลุ 5 ล้านแก้ว เติบโต 78% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า โดยพื้นที่ที่มีร้านขายเมนูมัทฉะมากที่สุดคือกรุงเทพฯ (โดยเฉพาะเขตจตุจักร ปทุมวัน และวัฒนา) รองลงมาคือนนทบุรีและชลบุรี
แม้ธุรกิจร้านอาหารในไทยจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงเต็มไปด้วยความท้าทาย โดยมากกว่า 50% ของร้านอาหารเปิดใหม่ปิดตัวลงตั้งแต่ปีแรก และมากกว่า 65% ปิดตัวลงภายใน 3 ปี
ปัญหาสำคัญที่เจ้าของธุรกิจร้านอาหารมักเผชิญคือต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น โดยพบว่า 77% ของร้านอาหารมักเผชิญกับปัญหานี้ นอกจากนี้ยังพลาดโอกาสในการขยายรายได้ โดยข้อมูลระบุว่า 58% ของลูกค้าต่างชาติเลือกจ่ายให้ร้านที่รับบัตรเครดิต
นอกจากนี้ปัจจุบันยังพบปัญหาการทุจริตและฉ้อโกงที่พบบ่อยในธุรกิจร้านอาหาร เช่น สลิปปลอม การโอนยอดเงินไม่ครบ พนักงานทุจริต และความเสี่ยงในการจัดการบัญชีเมื่อมีจำนวนธุรกรรมมาก เจ้าของร้านอาหารหลายรายประสบปัญหาลูกค้าโอนเงินไม่สำเร็จ หรือพนักงานมองพลาดทำให้รับเงินไม่ครบจำนวน ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อรายได้ของร้าน
ภาพ: ปวรุตม์ งามเอกอุดมพงศ์ / THE STANDARD LIFE