เจ. ดี. แวนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ร่วมเวทีการประชุมด้านความมั่นคงที่เมืองมิวนิก ประเทศเยอรมนี โดยกล่าวโจมตีบรรดาประเทศพันธมิตรในยุโรป พร้อมกับระบุว่า ภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นภายในยุโรปเอง ซึ่งเป็นอันตรายยิ่งกว่าจีนและรัสเซีย พร้อมแนะให้ฟังเสียงประชาชนของตนเอง
แวนซ์อ้างว่า บรรดาชาติยุโรปกำลังจำกัดเสรีภาพในการพูดแสดงความเห็น รวมถึงสูญเสียการควบคุมผู้อพยพเข้าเมือง และปฏิเสธที่จะทำงานร่วมกับพรรคฝ่ายขวาจัดในรัฐบาล ท่ามกลางความคาดหวังของบรรดาผู้ฟังที่ต้องการรับทราบถึงแนวทางการทำงานของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ 2.0 เพื่อยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครน
“ภัยคุกคามที่ผมกังวลมากที่สุดของยุโรป ไม่ใช่รัสเซีย ไม่ใช่จีน ไม่ใช่ตัวแสดงภายนอก แต่กลับเป็นภัยคุกคามจากภายในยุโรปเอง ที่กำลังถอยร่นออกไปจากค่านิยมขั้นพื้นฐานที่สุด”
นับตั้งแต่ที่ทรัมป์หวนคืนทำเนียบขาวอีกครั้ง ความเคลื่อนไหวของรัฐบาลทรัมป์ 2.0 สร้างแรงกระเพื่อมให้กับประชาคมโลกอย่างต่อเนื่อง นอกจากการแสดงจุดยืนของแวนซ์ในครั้งนี้แล้ว พีต เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ก็เน้นย้ำในที่ประชุม NATO ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียมว่า ยุโรปจะต้องแสดงบทบาทนำในกรณีของสงครามยูเครน ขณะที่โอกาสที่เส้นพรมแดนของยูเครนจะกลับไปเป็นเหมือนช่วงก่อนปี 2014 รวมถึงการเข้าเป็นสมาชิกใหม่ของ NATO เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ยาก
นอกจากนี้ยังมีสัญญาณว่า ทรัมป์เริ่มพูดคุยกับ วลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซียแล้ว พร้อมประกาศว่าการเจรจาเพื่อยุติสงครามในยูเครนจะเริ่มขึ้นทันที โดยที่อาจไม่มี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน นั่งร่วมโต๊ะเจรจา
การกล่าวสุนทรพจน์ของแวนซ์มีขึ้นเพียงหนึ่งสัปดาห์ ก่อนที่หนึ่งในประเทศเสาหลักของยุโรปอย่างเยอรมนีจะจัดการเลือกตั้งครั้งสำคัญขึ้น โดยมีประเด็นเรื่องผู้อพยพเป็นหนึ่งในประเด็นสำคัญในช่วงหาเสียงเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งตั้งข้อสังเกตว่า แวนซ์โจมตียุโรปอย่างหนัก แต่กลับไม่วิพากษ์วิจารณ์ประเทศอย่างเช่นรัสเซียและเบลารุส ที่ผู้นำผูกขาดอำนาจทางการเมืองมาอย่างยาวนาน
ทรัมป์กล่าวชื่นชมสุนทรพจน์ของแวนซ์ พร้อมเน้นย้ำว่าการจำกัดเสรีภาพในการพูดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในยุโรป พร้อมแนะให้ยุโรประมัดระวังต่อปัญหาผู้อพยพครั้งใหญ่ที่จะไหลทะลักเข้าสู่ภูมิภาคนี้
อนาคตของสงครามยูเครน
เซเลนสกีให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว NBC โดยยอมรับว่า ยูเครนมีโอกาสที่จะรอดจากการโจมตีของรัสเซียน้อยมาก หากสหรัฐฯ ไม่ให้ความช่วยเหลือ โดยสัญญาณการพูดคุยระหว่างทรัมป์และปูติน ซึ่งไม่มีเซเลนสกีอยู่บนโต๊ะเจรจา ทำให้เขาอาจตกอยู่ในที่นั่งลำบาก
เซเลนสกีพบกับแวนซ์ในเวทีการประชุมด้านความมั่นคงครั้งนี้ พร้อมร้องขอ ‘หลักประกันความปลอดภัย’ ให้กับยูเครน ซึ่งก่อนหน้านี้ทรัมป์เคยยื่นข้อเสนอแลกเปลี่ยนความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ กับแร่ธาตุสำคัญของยูเครน โดยทรัมป์ต้องการแร่ธาตุหายากมูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นองค์ประกอบสำคัญในการผลิตชิ้นส่วนเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อแลกกับความช่วยเหลือของสหรัฐฯ เบื้องต้นผู้นำยูเครนตอบรับข้อเสนอนี้แล้ว
แวนซ์ระบุว่า เป้าหมายของทรัมป์คือ สหรัฐฯ ต้องการให้สงครามยุติลง แต่ในขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ก็ต้องการบรรลุข้อตกลงสันติภาพยั่งยืนและถาวร
เซเลนสกีกล่าวขอบคุณสำหรับการสนับสนุนของสหรัฐฯ พร้อมเชิญชวน คีธ เคลล็อกก์ ทูตพิเศษสหรัฐฯ ประจำรัสเซียและยูเครน เดินทางเยือนกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครนในอนาคตอันใกล้ พร้อมให้คำมั่นว่า ยูเครนพร้อมที่จะก้าวไปข้างหน้าเพื่อหลักประกันสันติภาพที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม เซเลนสกีระบุทิ้งท้ายด้วยว่า ยังมีภารกิจอีกมากที่เขาต้องทำเพื่อหยุดยั้งปูติน
ภาพ: Leah Millis / Reuters
อ้างอิง:
- https://www.nytimes.com/2025/02/14/world/europe/zelensky-nbc-meet-the-press.html
- https://edition.cnn.com/2025/02/14/europe/jd-vance-munich-speech-europe-voters-intl/index.html
- https://edition.cnn.com/2025/02/14/world/vances-speech-upsets-european-leaders-intl-latam/index.html
- https://www.reuters.com/world/europe/vance-uses-munich-speech-criticize-europe-censoring-free-speech-2025-02-14/