ท่ามกลางความพยายามอย่างหนักของรัฐบาลจีนในการกอบกู้วิกฤตประชากรที่สั่นคลอนเศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลก กลับมีข่าวร้ายซ้ำเติม เมื่อตัวเลขการจดทะเบียนสมรสในจีนล่าสุด ร่วงลงถึง 1 ใน 5 ต่ำที่สุดนับตั้งแต่มีการบันทึกสถิติมา สะท้อนให้เห็นถึงความท้าทายครั้งใหญ่ในการแก้ไขปัญหาสังคมและเศรษฐกิจที่หยั่งรากลึก
สถิติจากกระทรวงกิจการพลเรือนของจีนที่เปิดเผยเมื่อวันเสาร์ (8 กุมภาพันธ์) ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นถึงจำนวนการจดทะเบียนสมรสที่ลดลงเหลือ 6.1 ล้านคู่ในปีที่แล้ว หลังจากที่เคยเพิ่มขึ้นหลังการระบาดใหญ่ไปอยู่ที่เกือบ 7.7 ล้านคู่ในปี 2023 ตัวเลขในปีล่าสุดนี้ถือเป็นจำนวนคู่สมรสที่น้อยที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกสถิติในปี 1986 และน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของจุดสูงสุดที่เคยทำไว้ในปี 2013
การที่รัฐบาลจีนไม่สามารถส่งเสริมให้ประชาชนหันมา ‘แต่งงาน’ กันมากขึ้นในประเทศที่มีประชากร 1.4 พันล้านคนนี้ ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับรัฐบาลที่กำลังพยายามอย่างหนักเพื่อหยุดยั้งอัตราการเกิดที่ลดลงอย่างรวดเร็วในจีน
ในอดีต การจดทะเบียนการเกิดให้เด็กในประเทศจีนนั้น พ่อแม่จำเป็นต้องแสดงทะเบียนสมรสหรือใบแต่งงานเป็นหลักฐานสำคัญ แต่ปัจจุบันรัฐบาลท้องถิ่นหลายแห่งได้เริ่มยกเลิกข้อกำหนดนี้แล้ว เพื่อให้พ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวและคู่รักที่อยู่ด้วยกันโดยไม่ได้แต่งงาน สามารถจดทะเบียนการเกิดให้ลูกได้อย่างเท่าเทียมกับคู่ที่แต่งงานกัน การเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้เด็กทุกคนได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานตั้งแต่แรกเกิด โดยไม่ถูกจำกัดด้วยสถานภาพการสมรสของพ่อแม่
Ada Li นักวิเคราะห์จาก Bloomberg Intelligence กล่าวในรายงานว่า “การแต่งงานไม่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่คนหนุ่มสาว เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่สูง ภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา และทัศนคติที่เปลี่ยนไปเกี่ยวกับการแต่งงานแบบดั้งเดิม”
จำนวนการจดทะเบียนสมรสในปีที่แล้วอาจได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากความเชื่อที่ว่าปี 2024 เป็นปีอัปมงคลสำหรับการแต่งงาน หรือที่เรียกว่า ‘ปีแม่ม่าย’ นอกจากนี้ ข้อมูลยังแสดงให้เห็นว่ามีผู้ยื่นขอหย่าร้างถึง 2.6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 1.1% จากปี 2023
ถึงแม้ว่าอัตราการเกิดจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่จำนวนประชากรจีนก็ลดลงเป็นปีที่สามติดต่อกันในปี 2024 การปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความเชื่อที่ว่าปีมังกรตามนักษัตรจีนเป็นปีแห่งสิริมงคลสำหรับการมีบุตร
ถึงกระนั้น ปีที่ผ่านมาก็ยังคงเป็นปีที่มีจำนวนการเกิดน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่มีการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนจีนในปี 1949 ซึ่งเน้นย้ำถึงความเสี่ยงระยะยาวที่ต่อเนื่องสำหรับเศรษฐกิจ เนื่องจากกำลังแรงงานที่ลดลงจะสร้างแรงกดดันต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ
จำนวนการแต่งงานลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยตัวเลขรายปีลดลงต่ำกว่า 10 ล้านคู่ในปี 2019 ในสุนทรพจน์เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ประธานาธิบดี Xi Jinping เรียกร้องให้มีการชี้นำเยาวชนให้มากขึ้นในการ ‘สร้างทัศนคติ’ ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการแต่งงาน การมีบุตร และครอบครัว
ในเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา จีนได้เสนอร่างกฎหมายที่ทำให้การจดทะเบียนสมรสทำได้ง่ายขึ้น และการยื่นขอหย่าร้างทำได้ยากขึ้น ซึ่งกระตุ้นให้เกิดกระแสตอบรับอย่างรุนแรงจากสาธารณชน โดยชาวเน็ตต่างตั้งคำถามถึงเจตนาของทางการ
ประเด็นเรื่องจำนวนการจดทะเบียนสมรสในจีนที่ลดลงอย่างฮวบฮาบเมื่อปีที่แล้ว กลายเป็นหัวข้อที่ได้รับความนิยมบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ‘Weibo’ ของจีนเมื่อวันจันทร์ (10 ก.พ.) โดยความคิดเห็นยอดนิยมบางส่วนชี้ไปถึงภาระทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการแต่งงาน
ความคิดเห็นหนึ่งกล่าวว่า “ชีวิตมันเหนื่อยอยู่แล้ว ใครกันจะมี ‘ความกล้า’ ที่จะแต่งงาน?” อีกความคิดเห็นหนึ่งระบุว่า “การแต่งงานเป็นค่าใช้จ่ายที่สูง ปีนี้ฉันรู้สึกว่าการเป็นโสดมันดีจริงๆ ฉันไม่มีแรงกดดันขนาดนั้น และสามารถใช้เงินที่หามาด้วยตัวเองได้”
ภาพ: Cai Jingyu / VCG via Getty Images
อ้างอิง: