×

ใบสั่งจราจรเดิมยังมีผลตามกฎหมายอีก 180 วัน หลังศาลปกครองสูงสุดพิพากษาสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติปรับปรุงรูปแบบ-อัตราค่าปรับ

โดย THE STANDARD TEAM
08.02.2025
  • LOADING...
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีแถลงกรณีใบสั่งจราจร

วันนี้ (8 กุมภาพันธ์) คารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กรณีเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2568 ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาในคดีขอเพิกถอนประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรื่องกำหนดแบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจร พ.ศ. 2563 และเรื่องการกำหนดเกณฑ์จำนวนค่าปรับตามที่เปรียบเทียบสำหรับความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 นั้น

 

ศูนย์บริหารงานจราจร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงว่า รูปแบบใบสั่งของเจ้าพนักงานจราจรและการกำหนดอัตราค่าปรับในปัจจุบันยังคงมีผลบังคับใช้ตามกฎหมายต่อไปเป็นระยะเวลา 180 วัน นับแต่วันที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา ดังนั้นผู้ที่กระทำผิดกฎหมายจราจร เช่น ฝ่าฝืนสัญญาณไฟ, ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด, ขับรถบนทางเท้า, ขับรถย้อนศร, ไม่สวมหมวกนิรภัย และข้อหาอื่นๆ ซึ่งการกระทำดังกล่าวเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก และเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุจราจร ทั้งนี้ เมื่อถูกเจ้าพนักงานจราจรออกใบสั่งจราจรตามความผิดที่ปรากฏ ยังคงถือเป็นผู้กระทำผิดกฎจราจรและต้องรับโทษปรับเป็นพินัยตามกฎหมายว่าด้วยการปรับเป็นพินัย โดยปัจจุบันในการออกใบสั่งจราจรจะระบุข้อความแจ้งสิทธิตามกฎหมายว่าด้วยการปรับพินัยให้ประชาชนทราบด้วยทุกครั้ง

คารมกล่าวต่อว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะดำเนินการปรับปรุงรูปแบบใบสั่งและเกณฑ์การกำหนดอัตราค่าปรับให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด รวมทั้งให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยการปรับเป็นพินัย และจะประกาศบังคับใช้โดยเร็วตามกรอบระยะเวลาต่อไป ทั้งนี้ ขอความร่วมมือผู้ที่ได้รับใบสั่งจราจรจากเจ้าหน้าที่ให้รีบดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย นอกจากนี้ หากไม่แน่ใจว่าเคยขับขี่ยานยนต์ผิดกฎจราจรหรือไม่ สามารถเช็กใบสั่งจราจรออนไลน์ได้ที่ https://ptm.police.go.th/eTicket/#/

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising