วันนี้ (6 กุมภาพันธ์) ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี ภราดร ปริศนานันทกุล รองประธานคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภาคภูมิ บูลย์ประมุข สส. ตาก พรรคกล้าธรรม ได้ขอหารือเรื่องความเดือดร้อนประชาชนในประเด็นสถานการณ์ในจังหวัดตาก ว่าจังหวัดตากเป็นพื้นที่กระสุนตก ทั้งเรื่องออนไลน์คอลเซ็นเตอร์ในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งมีการตัดไฟไปเมื่อวานนี้ (5 กุมภาพันธ์) รวมถึงกรณีสหรัฐอเมริกาตัดความช่วยเหลือผู้ลี้ภัยสงครามนั้น
ภาคภูมิกล่าวว่า การตัดไฟเมื่อวานนี้ จังหวัดตากมีการตัดไฟไปทั้งสิ้น 2 จุด ตนเองเห็นด้วยกับการตัดไฟเพื่อทำลายระบบคอลเซ็นเตอร์ แต่ย่อมมีผลกระทบที่ตามมา โดยเฉพาะ 5 อำเภอทิศตะวันตกของจังหวัดตาก ทั้งการโต้ตอบจากประเทศเพื่อนบ้าน และการตอบโต้จากชนกลุ่มน้อยตามแนวชายแดน ตนเข้าใจถึงปัญหาที่มีมานาน คนได้รับผลประโยชน์มาก แต่ต้องไม่ลืมว่ามีพ่อค้าแม่ค้า เกษตรกร ชาวบ้านที่ประกอบอาชีพสุจริต ทำการค้าขายนำเข้าส่งออกมานานในจังหวัดตาก และเกษตรกรที่ข้ามไปทำเกษตรพันธสัญญา (Contract Farming) ไปทำเกษตรกรรมส่งกลับมาไทย ตนเองไม่อยากให้รัฐบาลตัดไฟฟ้าแล้วทิ้งคนเหล่านี้ให้อยู่อย่างเดียวดาย
ภาคภูมิกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาผู้ว่าราชการจังหวัดตากและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามจะแก้ไขปัญหามาตลอด ซึ่งมีศักยภาพที่ทำได้ แต่ครั้งนี้กลายเป็นเรื่องระหว่างประเทศ ซึ่งหนักกว่าทุกครั้ง อยากขอส่งกำลังเสริมจากหน่วยงานราชการ ลงไปช่วยผู้ว่าราชการจังหวัดตากและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้มีพละกำลังที่จะรองรับเพื่อช่วยเหลือในสิ่งที่จะเกิดขึ้นนี้
“ถ้ามีโอกาสขอเชิญนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีลงพื้นที่ไปประชุม ครม.สัญจร ที่จังหวัดตาก เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นให้กับนักธุรกิจและประชาชนในจังหวัดตาก ว่าตากจะกลับมาเหมือนเดิมเมื่อ 4-5 ปีที่ผ่านมา ชาวต่างชาติเข้าไปอาศัยในจังหวัดจำนวนมากทำให้วิถีชีวิตเปลี่ยนไปมากพอสมควร หากรัฐบาลแก้ไขเรื่องนี้ไทยจะกลับไปเป็นประตูสู่ต่างประเทศตะวันออกได้” ภาคภูมิกล่าว