Sundar Pichai ซีอีโอของ Google เข้าร่วมกับผู้บริหารระดับสูงของ Apple, Microsoft และ Meta ในการชื่นชม DeepSeek ผู้พัฒนา AI จากประเทศจีน และกล่าวว่าการลดต้นทุนของ AI จะเป็นผลดีต่อบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่และอุปสงค์ AI โดยรวม
Pichai กล่าวถึง DeepSeek ในการประชุมทางโทรศัพท์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (4 กุมภาพันธ์) ว่า “อย่างแรกเลย ผมคิดว่าพวกเขาเป็นทีมที่ยอดเยี่ยมมาก ผมคิดว่าพวกเขาทำงานได้ดีมากๆ จริงๆ”
ซีอีโอของ Google กล่าวว่าเมื่อต้นทุนการอนุมาน (Inference) ของ AI ลดลงอย่างต่อเนื่อง การใช้งาน AI ก็จะมีความเป็นไปได้มากขึ้น ซึ่งเหล่านี้เป็น ‘โอกาส’ สำหรับบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ โดยการอนุมานหมายถึงการใช้แบบจำลอง AI ที่ได้รับการฝึกฝนเพื่อตอบคำถามหรือสร้างเนื้อหา
DeepSeek กลายเป็นหัวข้อทั่วไปในการพูดคุยเรื่องผลประกอบการของบริษัทเทคโนโลยีในฤดูกาลนี้ โดยเกือบทุกบริษัทใหญ่ถูกถามเกี่ยวกับบริษัทจีนแห่งนี้ DeepSeek-R1 โมเดลที่บริษัทเปิดตัวเมื่อปลายเดือนที่แล้ว สร้างความตกตะลึงให้กับ Silicon Valley และ Wall Street หลังจากที่บริษัทอ้างว่าประสบความสำเร็จในระดับประสิทธิภาพใกล้เคียงกับโมเดล o1 ของ OpenAI แต่มีต้นทุนที่ต่ำกว่ามาก
Pichai กล่าวว่าโมเดล Gemini 2.0 Flash และ 2.0 Flash Thinking ของ Google สามารถเทียบเคียงได้กับ R1 ของ DeepSeek ในแง่ของประสิทธิภาพ ด้าน Lisa Su ซีอีโอของ AMD ผู้พัฒนาชิปของสหรัฐฯ ยังเรียก DeepSeek ว่าเป็น ‘สิ่งที่ดี’ สำหรับอุตสาหกรรม
แม้จะมีคำถามว่าโมเดลที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่าง R1 จะลดความต้องการชิป AI ที่ผลิตโดย AMD และ NVIDIA ซึ่งเป็นคู่แข่งหรือไม่ แต่ Su กล่าวว่า “เราคิดว่าการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ในโมเดลและอัลกอริทึมเป็นเรื่องดีสำหรับการนำ AI ไปใช้”
“การที่มีวิธีใหม่ๆ ในการนำความสามารถในการฝึกฝนและอนุมานมาใช้ โดยใช้โครงสร้างพื้นฐานที่น้อยลงนั้นเป็นเรื่องดีจริงๆ เพราะทำให้เราสามารถนำการประมวลผล AI ไปใช้ในแอปพลิเคชันที่กว้างขึ้นและมีการนำไปใช้มากขึ้น” เธอกล่าวเสริม
Pichai และ Su เข้าร่วมกับซีอีโอของ Apple, Microsoft และ Meta ในการยกย่อง DeepSeek แม้ว่าบริษัท AI ของจีนจะทำให้เกิดข้อสงสัยเกี่ยวกับรูปแบบการพัฒนา AI ที่ขับเคลื่อนด้วยการใช้จ่าย ซึ่งบริษัทเทคโนโลยีของสหรัฐฯ กำลังผลักดัน แต่อย่างน้อย Google ก็ไม่ได้แสดงสัญญาณว่าจะลดการใช้จ่ายในด้านนี้
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา Alphabet บริษัทแม่ของ Google ประกาศค่าใช้จ่ายด้านทุน 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2.5 ล้านล้านบาท) ในปี 2025 เนื่องจากบริษัทเพิ่มการลงทุนด้าน AI สำหรับ 3 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม
บริษัทรายงานรายรับเพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบเป็นรายปี เป็น 9.65 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 3.2ล้านล้านบาท) บริษัทยังเข้าไปพัวพันกับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ล่าสุดระหว่างสหรัฐฯ และจีน
โดยปักกิ่งตอบโต้การเรียกเก็บภาษี 10% ที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำหนดกับสินค้านำเข้าจากจีน ด้วยมาตรการตอบโต้หลายชุดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา รวมถึงการเปิดการสอบสวนการต่อต้านการผูกขาดกับ Google สำนักงานบริหารการกำกับดูแลตลาดแห่งรัฐไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสอบสวน
The Financial Times รายงานว่า หน่วยงานกำกับดูแลของจีนจะตรวจสอบว่าระบบ Android ของ Google ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ผลิตสมาร์ทโฟนในประเทศ เช่น Xiaomi หรือไม่
Google ถอนบริการอินเทอร์เน็ต เช่น การค้นหาและอีเมลในจีนแผ่นดินใหญ่ในปี 2010 ท่ามกลางข้อพิพาทเกี่ยวกับการเซ็นเซอร์ แต่ระบบปฏิบัติการมือถือ Android ยังคงใช้กันอย่างแพร่หลายในสมาร์ทโฟนของจีน และบริษัทก็สร้างรายได้จากการโฆษณาจำนวนมากผ่านบริการที่เสนอให้กับบริษัทจีนที่กำหนดเป้าหมายไปยังตลาดต่างประเทศ
บริษัทไม่ได้กล่าวถึงการสอบสวนของหน่วยงานกำกับดูแลของจีนในการรายงานผลประกอบการ แต่กล่าวว่าบริษัทเห็นการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในยอดขายโฆษณาจากผู้ค้าปลีกในเอเชียแปซิฟิกในช่วงไตรมาสที่ 4
อ้างอิง: