×

ยุค ‘คนโสด’ ครองเมือง ปรากฏการณ์ใหม่ทำอัตราเกิดดิ่งเหว เมื่อคนใช้ชีวิตลำพังพุ่งสูงขึ้น

03.02.2025
  • LOADING...

ในยุคที่ ‘อัตราการเกิด’ กลายเป็นประเด็นร้อนแรงในแทบทุกวงสนทนา และถูกจับตาโดยผู้กำหนดนโยบายทั่วโลก ‘ปรากฏการณ์คนโสด’ กำลังระบาดหนักและแผ่ขยายวงกว้างไปทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐอเมริกา, ฟินแลนด์, เกาหลีใต้, ตุรกี, ตูนิเซีย หรือแม้แต่ไทย อัตราการเกิดที่ลดลงล้วนเป็นผลพวงมาจากความสัมพันธ์ที่ลดน้อยลงในกลุ่มคนวัยหนุ่มสาว

 

จนนำไปสู่อัตราการเกิดที่ลดลงอย่างน่าใจหาย ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่นี้ส่งผลกระทบในวงกว้าง ทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง และสิ่งแวดล้อม แต่สิ่งที่น่าสนใจคือความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้มี ‘ความแตกต่าง’ จากอดีตอย่างสิ้นเชิง 

 

เพราะไม่ใช่แค่การตัดสินใจมีลูกน้อยลงของคู่รัก แต่เป็นการลดลงของจำนวน ‘คู่รัก’ อย่างเห็นได้ชัด เรื่องราวสำคัญทางประชากรศาสตร์ในยุคนี้จึงไม่ใช่แค่อัตราการมีลูกที่ลดลง แต่เป็น ‘อัตราความโสด’ ที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดต่างหาก

 

ถือเป็นการเปลี่ยนแปลง ‘พื้นฐาน’ ครั้งใหญ่ในสังคมยุคใหม่ โดยข้อมูลจากสหรัฐฯ ชี้ชัดว่า หากอัตราการแต่งงานและการอยู่ร่วมกันของคนอเมริกันยังคงที่ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา อัตราการเจริญพันธุ์โดยรวมของสหรัฐฯ ในวันนี้จะสูงกว่าที่เป็นอยู่ ความสัมพันธ์ไม่ได้แค่เกิดขึ้นน้อยลง แต่ยังเปราะบางมากขึ้นอย่างไม่เคยมีมาก่อน

 

แม้แต่ในฟินแลนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความเท่าเทียม ก็พบว่าคู่รักที่ย้ายมาอยู่ด้วยกันมีแนวโน้มที่จะ ‘เลิกรา’ มากกว่าการมีลูก ซึ่งตรงกันข้ามกับบรรทัดฐานในอดีตอย่างสิ้นเชิง แม้คู่รักยุคใหม่ที่ทั้งสองคนต่างทำงานและเลือกที่จะไม่มีลูก ซึ่งทำให้พวกเขามีอิสระทางการเงินและสามารถใช้ชีวิตได้ตามใจ อาจเป็นเทรนด์ที่ดูเหมือนไม่มีปัญหาอะไร

 

แต่การเพิ่มขึ้นของความโสดและการแยกทางกลับไม่ได้สวยหรูอย่างที่คิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพบว่าการก่อตัวของความสัมพันธ์ที่ลดลงนั้น ‘รุนแรงที่สุด’ ในกลุ่มคนยากจน แม้ว่าจะมีหลายคนที่พึงพอใจกับการเป็นโสด และเสรีภาพในการเลือกใช้ชีวิตเป็นสิ่งที่น่ายินดี แต่ข้อมูลที่สะท้อนความเหงาและความผิดหวังจากการออกเดต บ่งชี้ว่าทุกอย่างอาจไม่ได้ราบรื่นอย่างที่คิด

 

John Burn-Murdoch ผู้สื่อข่าวแห่ง Financial Times เคยกล่าวไว้ว่า “เรื่องราวสำคัญทางประชากรศาสตร์ในยุคนี้ไม่ใช่แค่การมีลูกที่ลดลง แต่คือการเพิ่มขึ้นของความโสด” คำถามคืออะไรเป็นสาเหตุของการลดลง และทำไมถึงเกิดขึ้นในตอนนี้ การที่ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้น ‘เกือบทุกที่’ พร้อมๆ กัน ชี้ให้เห็นว่ามีปัจจัยในระดับโลกที่ส่งผลกระทบมากกว่าปัจจัยเฉพาะของแต่ละประเทศ

 

การแพร่หลายของสมาร์ทโฟนและโซเชียลมีเดียเป็นหนึ่งในปัจจัยภายนอกที่เข้ามามีบทบาท ความแตกต่างทางภูมิศาสตร์ในการเพิ่มขึ้นของความโสดสอดคล้องกับการใช้อินเทอร์เน็ตบนมือถือ โดยเฉพาะในกลุ่มผู้หญิงที่มีวิธีคิดในการเลือกคู่ครองเปลี่ยนไป สอดคล้องกับงานวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าโซเชียลมีเดียช่วยให้ ‘ค่านิยมเสรี’ แพร่กระจายและส่งเสริมพลังของผู้หญิง

 

การลดลงของคู่รักพบมากที่สุดในยุโรป เอเชียตะวันออก และลาตินอเมริกา ตามมาด้วยตะวันออกกลางและแอฟริกา ความโสดนั้นยังคงหายากในเอเชียใต้ ซึ่งผู้หญิงเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ ‘จำกัดกว่า’ แม้กลไกที่แท้จริงยังคงเป็นที่ถกเถียง แต่การแพร่หลายของความโสดและบทบาทในการทำให้อัตราการเกิดลดลงอย่างรวดเร็วแสดงให้เห็นว่า ในขณะที่แรงจูงใจทางการเงินและนโยบายอื่นๆ สามารถกระตุ้นอัตราการเกิดได้บ้าง แต่ก็กำลังเผชิญกับ ‘แรงต้าน’ จากกระแสสังคมและวัฒนธรรมที่แข็งแกร่งกว่ามาก นโยบายที่มุ่งเน้นการส่งเสริมการสร้างความสัมพันธ์อาจมีประสิทธิภาพมากกว่านโยบายที่มุ่งเน้นการช่วยเหลือคู่รักให้มีลูก โลกที่เต็มไปด้วยคนโสดอาจไม่ได้ดีหรือแย่ไปกว่าโลกที่เต็มไปด้วยคู่รักและครอบครัว

 

แต่มัน ‘แตกต่าง’ อย่างสิ้นเชิงจากสิ่งที่เคยเป็นมา ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง ทำให้เกิดคำถามสำคัญว่า นี่คือสิ่งที่ผู้คนต้องการจริงๆ หรือไม่ ถ้าไม่ใช่ อะไรคือสิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลง

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising