‘ของหวานไม่ดีต่อสุขภาพ’ คือสิ่งที่ทุกคนรู้กันดี แต่ในเมื่อหัวใจมันเรียกร้องอยู่บ่อยๆ จะให้งดไปเลยก็คงไม่ถูก พวกเราจึงพาทุกคนมาที่ Gelateria Kitokki ร้านเจลาโตแห่งใหม่ย่านอารีย์ที่ไม่ใช้น้ำตาลเลยสักนิด เพราะหนึ่งในเจ้าของร้าน แบม-พัณณิน ผู้พัฒน์ ชื่นชอบไอศกรีมเป็นชีวิตจิตใจ แต่ไม่อยากกินน้ำตาลบ่อยๆ ให้ทำลายสุขภาพ เธอจึงคิดค้นสูตรเจลาโตที่ใช้ความหวานจากน้ำผึ้งแทนน้ำตาล แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีความเป็นเจลาโตอยู่ นี่จึงเป็นคาเฟ่ที่คนรักไอศกรีมแวะมาแล้วต้องแฮปปี้แน่นอน!
The Vibe
Gelateria Kitokki อยู่ในซอยอารีย์ 5 ฝั่งเหนือ มาถึงทุกคนจะยังไม่เจอหน้าร้าน เพราะที่นี่เปิดอยู่บนชั้น 2 ด้านในตึก White Cloud แต่เมื่อทุกคนเปิดบานประตูเข้ามาด้านในก็จะพบกับคาเฟ่ไวบ์น่ารักๆ แห่งนี้ ที่มาพร้อมเคาน์เตอร์สั่งไอศกรีมหลายรสชาติ และโซนนั่งกินไอศกรีมชิลๆ ดูน่าแวะมานั่งเล่นกับเพื่อนๆ
The Taste
“แบมเป็นคนชอบกินของหวานมาก โดยเฉพาะไอศกรีม ถ้ากินข้าวแล้วไม่กินของหวานจะรู้สึกขาดอะไรไป แต่พอมารู้ว่าน้ำตาลน่ากลัวอย่างไร แบมก็เริ่มหาข้อมูลจนพบว่าเจลาโตดีกว่าไอศกรีมทั่วไปตรงที่ใช้นมเป็นเบสเสียส่วนใหญ่ ต่างจากไอศกรีมที่ใช้ครีม ก็เลยเริ่มสนใจเจลาโตและไปลงเรียนวิธีการทำเจลาโตมา” แบม เจ้าของร้าน Gelateria Kitokki เล่าให้เราฟังถึงจุดเริ่มต้นในการทำเจลาโตที่ใช้ความหวานจากน้ำผึ้งแทนน้ำตาล
“แต่พอไปเรียนก็ได้รู้อีกว่าเจลาโตก็ใช้น้ำตาลไม่น้อย แบมก็เริ่มคิดว่าเราสามารถใช้อะไรแทนน้ำตาลได้บ้าง จนมาเจอน้ำผึ้งที่รู้สึกว่าดีกว่าหลายๆ อย่างที่ศึกษามา แถมกินแล้วอินซูลินไม่พุ่งสูงเหมือนน้ำตาลด้วย”
เจลาโตของ Gelateria Kitokki จึงเป็นสูตรที่แบมคิดขึ้นเองทั้งหมดด้วยการลองผิดลองถูกจนกว่าจะได้เจลาโตที่มีเนื้อสัมผัสถูกต้อง รสชาติอร่อยแม้ไม่ใช้น้ำตาล รวมถึงใช้วัตถุดิบธรรมชาติทั้งหมดตามหลักการทำเจลาโตด้วย
“การทำเจลาโตจะมีกฎบางอย่างที่ต้องทำตาม เช่น ห้ามใช้ผลไม้แช่แข็ง ต้องใช้วัตถุดิบทำสดเท่านั้น ร้านเราก็ทำทุกอย่างเองหมดเลย อย่างเช่น Orange Makgeolli Sorbet ที่มีน้ำส้ม เราก็ใช้น้ำส้มคั้นสด”
Gelateria Kitokki จะเปลี่ยนรสชาติเจลาโตไปตามฤดูกาล แต่รสชาติประจำที่มาแล้วเจอได้บ่อยๆ ก็อย่างเช่น Valrhona Dark Chocolate, Pistachio, Banana and Butter Crumble หรือ Baked Apple ที่เป็นเมนูโปรดของแบม เพราะเธอบอกว่าต้องนำแอปเปิ้ลไปอบนานหลายชั่วโมงจนกว่าจะนำเนื้อมาทำเจลาโตได้
โดยทุกคนสามารถสั่งได้ 1-3 รสชาติต่อถ้วย ราคาเริ่มต้น 135-209 บาท และที่ร้านมีไวน์สำหรับคนอยากลองแพริ่งไวน์กับเจลาโตด้วย แต่ถ้าหากกลัวจะเลือกไม่ถูกก็สามารถถามพนักงานได้เลย
Good for
เราว่าหลายรสชาติน่าจะถูกใจใครหลายๆ คนเลย อีกทั้งชิมไปแล้วยังได้รสชาติของเจลาโตชัดเจน แต่จะมีความหวานสดชื่นแบบน้ำผึ้งเข้ามาเสริมเบาๆ กินไปเรื่อยๆ ก็แอบได้ความหอมที่ชวนให้เพลินดีด้วย
ถ้าใครอยากรู้ว่าเจลาโตที่ใช้น้ำผึ้งแทนน้ำตาลจะสดชื่นขนาดไหน ต้องตามไปลองแล้วนะ
Gelateria Kitokki
Open: วันพุธ-จันทร์ เวลา 12.00-21.00 น. (ปิดวันอังคาร)
Contact: @gelateria_kitokki
Address: ชั้น 2 ด้านในตึก White Cloud ปากซอยอารีย์ 5 ฝั่งเหนือ
Budget: 135-209 บาท