×

เศรษฐาบรรยายหลักสูตร วปอ. รุ่น 67 ปลุกความเท่าเทียม ลดความเกลียดชังตัวบุคคล

โดย THE STANDARD TEAM
29.01.2025
  • LOADING...
เศรษฐา ทวีสิน บรรยายพิเศษที่ วปอ.

วานนี้ (28 มกราคม) เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี บรรยายพิเศษให้กับวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร สถาบันวิชาการป้องกันประเทศ หลักสูตรการป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) รุ่นที่ 67 หัวข้อ ‘ประสบการณ์และการเป็นผู้นำระดับยุทธศาสตร์’

 

เศรษฐากล่าวตอนหนึ่งว่า ตนไม่ได้มีอคติหรือว่ามีประเด็นอะไรกับใครใน วปอ. เพียงแต่มีความหวังดีและอยากให้สถาบันนี้อยู่อย่างมั่นคง พวกเราทราบกันดีอยู่ว่าในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมานี้มีการเรียกร้องจากหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นอดีตรัฐมนตรี คอลัมนิสต์ต่างๆ ให้ยกเลิกคอร์สที่ใช้คำว่าอภิสิทธิ์ชนทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็น หลักสูตรผู้บริหารกระบวนการยุติธรรมระดับสูง (บยส.), วปอ. ฯลฯ ซึ่งต้องยอมรับว่าจริงๆ พวกท่านเป็น 0.01% ของประชาชนคนไทย ตนเชื่อว่าท่านทราบว่าการจะได้เข้ามาเรียนที่นี่ลำบากขนาดไหน แม้ตนจะไม่เคยเรียนหลักสูตรไหน แต่ก็ไม่เห็นด้วยกับการแก้ปัญหาด้วยการยกเลิก และคิดว่าไม่ถูกต้องด้วย ตนคิดว่าหากมีปัญหาเราก็ต้องแก้ ซึ่งการแก้ไขก็ไม่ได้แก้ไขแค่บางหลักสูตร แต่ต้องทำอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ และต้องเกิดการรวมพลังจากทุกภาคส่วน

 

เศรษฐากล่าวอีกว่า วันนี้ตนอยากฉายภาพประเทศไทยมากว่าจากนี้เราจะทำอะไรกันบ้างและเราควรจะทำอะไร โดยเรื่องแรกที่เรากำลังประสบคือการลดลงของประชากร ไทยรัฐรายงานเมื่อเช้าว่าเรามีประชากรลดลงทุกวัน อีก 50 ปีประชากรจะหายไปครึ่งหนึ่ง แล้วคนที่ขายของทั้งหลายจะขายของให้ใคร เศรษฐกิจระยะยาวจะเป็นอย่างไร แล้วคนที่อยู่จะเป็นคนสูงวัยขนาดไหน เราต้องให้ลูกหลานมาแบกในส่วนนี้เรื่อยๆ ประเทศเราจะเดินไปข้างหน้าได้อย่างไร ถ้าเราไม่ปรับปรุงวิธีการดำรงชีวิต วิธีการทำงานเพื่อทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ ดังนั้นเราต้องสนับสนุนการมีลูก โดยจะต้องทำสังคมให้เสมอภาค เท่าเทียม มีโอกาสเข้าถึงระบบการศึกษาที่ถูกต้อง ไร้เส้นสาย และต้องมีนโยบายเพื่อให้คนมั่นใจว่าลูกหลานจะได้รับสิทธิพื้นฐาน มีอากาศบริสุทธิ์ มีสิทธิเสรีภาพในการเลือกประกอบอาชีพ และต้องมีการปรับโครงสร้างภาษีรายได้ส่วนบุคคลและภาษีนิติบุคคล เพื่อดึงดูดให้คนรุ่นใหม่อยากอยู่ในประเทศ แต่ไม่ใช่ภาษี VAT

 

เศรษฐากล่าวว่า ประเทศไทยมีศักยภาพสูงในการดึงดูดการลงทุน เรามีสถานพยาบาลที่ดีและทันสมัย มีโรงเรียนนานาชาติที่ได้รับการยอมรับ มีอาหารการกินที่ดี ด้วยปัจจัยเล็กๆ เหล่านี้ทำให้หลายองค์กรของต่างชาติอยากลงทุนในไทย แต่ที่สำคัญที่สุดคือความเป็นกลาง ไทยเป็นเพื่อนของทุกคน มีหลายประเทศที่ใฝ่ฝันหาประเทศที่เป็นกลางจริงๆ ซึ่งนี่ไม่ใช่ผลงานของรัฐบาลใด แต่เป็นจิตวิญญาณของคนไทยเองที่ทำให้เราได้เปรียบในเรื่องนี้

 

อีกเรื่องคือแลนด์บริดจ์ เรามีโอกาสทองตรงนี้ที่จะเป็นส่วนหนึ่งของโกลบอลโลจิสติกส์ อาวุธยุทโธปกรณ์เราอาจจะไม่จำเป็นต้องมียุทโธปกรณ์เยอะหรือมีมูลค่าราคาแพง เพราะจริงๆ แล้วเราใช้คำว่าสงครามการค้าตลอดเวลา ตราบใดที่เรามีแลนด์บริดจ์ และตราบใดที่เราจะมี Infrastructure ระดับโลกถือว่าเรามีอาวุธอันหนึ่งที่จะช่วยปกป้องเอกราชของประเทศไทยได้ ทำให้เราเป็นประเทศที่มีคนอยากค้าขายด้วย

 

เศรษฐากล่าวถึงเรื่องสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ด้วยว่าไม่ได้หมายถึงคาสิโนอย่างเดียว วันนี้เรามี National Stadium เรามี Indoor National Stadium ที่จะจัดเวิลด์คลาสอีเวนต์ สร้างสนามอินดอร์สเตเดียม 30,000-40,000 ที่นั่ง โรงแรม Exhibition Center สวนสนุกอะไรหลายๆ อย่าง ทำให้ประเทศไทยเป็น Man Made Exhibition ที่มีคนอยากเข้ามา ควบคู่ไปกับการขยายสนามบินสุวรรณภูมิจาก 60 ล้านคน เป็น 150 ล้านคน ควบคู่ไปกับการลงทุนข้ามชาติที่ BOI ไปติดต่อมา และควบคู่ไปกับสร้าง Lanna International Airport ที่ภาคเหนือ ควบคู่ไปกับการสร้างสนามบินอันดามันที่ภาคใต้ นำความเจริญไปทั่วถึงไม่ใช่แค่ภาคใดภาคหนึ่ง รองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยว คาสิโนเป็น 5% เท่านั้นเอง ตนว่าเป็นเรื่องที่เราควรต้องพูดคุยในเรื่องประสิทธิผล ไม่ใช่ไม่ชอบพรรคหรือคนที่ทำแล้วก็บอกว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่ดี

 

“เรื่องสำคัญที่ผมอยากพูดคุยกับทุกคนคือเรื่องของความเท่าเทียม ผมไม่ได้มองในด้านของเศรษฐกิจอย่างเดียว ผมมองในแง่ของจิตใจด้วย เราต้องให้เกียรติ ให้พื้นที่ ให้ความเสมอภาคเท่าเทียม ไม่ใช่ความเหนือชั้นกับชนบางกลุ่ม ผมไม่ปฏิเสธว่าสังคมไทยมีคนรวยเยอะมาก เพราะยอดพีระมิดมีอยู่ไม่กี่หมื่นคนเท่านั้นเอง ส่วนมากจะอยู่ที่ฐานราก เรื่องของความเสมอภาคเท่าเทียมจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ตอนที่ผมเป็นนายกรัฐมนตรี วันแรกที่ผมเดินทางออกต่างจังหวัดมีการเลี้ยงรับรองมื้อเที่ยง ผมก็เดินไปดูโต๊ะผู้สื่อข่าวกับสตาฟฟ์ของทำเนียบรัฐบาลและผู้ติดตาม เขากินข้าวผัดกับแตงโม ผมก็เลยเรียกสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี (สลน.) มาบอกว่าผมไม่เอาแบบนี้ ทุกคนต้องกินเหมือนกันหมด เวลาผมกินเลี้ยง ผมมีอาหารสำรับเดียวครับ”

 

ดังนั้นถ้าท่านเป็นผู้ว่าราชการจังหวัดลงไปตรวจพื้นที่ ผมอยากฝากข้อคิดไว้อันหนึ่งว่า ลูกน้องท่านเขาจะกินข้าวกับท่านปีหนึ่งกี่หน บางคนแปลก ยิ่งเด่น ยิ่งชอบ ยิ่งจะทำตัวเหนือเขา นี่คือสิ่งที่ Negative มากๆ สำหรับคนรุ่นใหม่ สำหรับข้าราชการชั้นผู้น้อย หรือสำหรับคนที่กำลังไต่เต้า อีกประเด็นคืออย่ามาใช้ทรัพย์สมบัติของประเทศชาติในทางที่ผิด และเป็นการลดแรงบันดาลใจของคนรุ่นใหม่ ผมคิดว่าการที่เราจะทำให้เด็กรุ่นใหม่มีความหวังและแรงบันดาลใจต้องวางตัวให้ดีและเหมาะสมที่สุด

 

“วันนี้ทุกท่านได้อยู่ในสถาบันอันทรงเกียรติ เราต้องถามว่าหน้าที่ของเราคืออะไร แทนที่จะนั่งกันกินข้าว คุยกันเรื่องไวน์ เรื่องลูก เรื่องธุรกิจ เด็กไทยประมาณสองล้านคนหลุดออกนอกระบบการศึกษา ไม่ได้เข้าสู่ระบบการศึกษา เราลองคิดช่วยกันหน่อย แสดงให้ทุกคนได้เห็นว่าพวกคุณเป็นผู้ที่เหมาะสม ควรที่จะถูกเลือกเข้ามาเรียนในสถาบันทรงเกียรตินี้ และขอให้เราทุกคนลดอคติที่จะเกลียดชังเป็นตัวบุคคลลงไป ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือใครก็ตาม ลดความเกลียดชังในแง่ส่วนตัวลง แล้วให้ความเป็นธรรมกันมากขึ้น ถ้าไม่คิดอย่างนั้นแล้วประเทศไม่มีความหวัง ผมอยากให้สังคมเดินไปข้างหน้าได้” เศรษฐากล่าว

 

เศรษฐา ทวีสิน บรรยายพิเศษที่ วปอ. เศรษฐา ทวีสิน บรรยายพิเศษที่ วปอ.

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising