กระทรวงพลังงานคาด ภายใน 2-3 เดือนได้ข้อสรุปลดค่าไฟต่ำกว่า 4 บาท ปลัดกระทรวงเผย ทรัมป์ 2.0 เพิ่มการผลิตฟอสซิลอาจช่วยกดต้นทุนผลิตไฟไทยถูกลง เร่งจัดทำแผนก๊าซธรรมชาติ (LNG) รักษาดุลการค้าสหรัฐอเมริกา พร้อมมองทรัมป์ถอนตัวจากข้อตกลงปารีสไม่กระทบไทย ยันจุดยืนแผนพลังงานสะอาด ขณะที่สื่อนอกเผย ประเทศแถบเอเชียเล็งซื้อน้ำมันและก๊าซสหรัฐฯ เพิ่มหวังต่อรองภาษีและดุลการค้า
ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ข้อเสนอค่าไฟที่ 3.70 บาทต่อหน่วย ที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เสนอมานั้น ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการหารือกับอัยการ ซึ่งการปรับ Adder และ FiT เป็นนโยบายที่ กกพ. เคยนำเสนอแล้ว และนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานแล้วเมื่อปีที่แล้ว โดยมีข้อเสนอว่าให้ปรับรูปแบบ Adder มาเป็นแบบ FiT หมายความว่า ให้คงอัตรารับซื้อไฟฟ้าคงที่ตลอดอายุโครงการ และบางโครงการก็ให้สิ้นสุดสัญญาลง แต่เมื่อเป็นเรื่องของสัญญาจำเป็นต้องทำให้รอบคอบ ต้องหารือกับอัยการ เพราะต้องตรวจสอบหลักสัญญาว่าเขียนไว้รัดกุมแค่ไหน จึงจะเอื้อให้มีการเปลี่ยนแปลงได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- “3 วันนี้เป็น 3 วันที่ไม่ธรรมดา เก๋าเกม ทำเหมือนอยู่มาแล้ว 1 เดือน” ถอดรหัสแนวคิดทรัมป์ 2.0 กับ 3 วันเขย่าโลก
- วิเคราะห์ ‘ลดราคาน้ำมันและค่าไฟฟ้า’ นโยบายว้าวุ่นที่เกาไม่เคยถูกที่คัน?
- เปิด (ร่าง) แผน PDP เวอร์ชัน 2024 ปรับเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนเป็น 51% บรรจุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ SMR สำคัญอย่างไร ทำไมคนไทยต้องรู้?
ยอมรับลดยาก ต้องหารือ 3 การไฟฟ้า
“เราเข้าใจว่าทั้ง Adder และ FiT เป็นต้นทุนของค่าไฟฟ้า แต่ก็ต้องดูกันอย่างรอบคอบ ซึ่งปัจจุบันก็มีการหารือกับกระทรวงมหาดไทย, 3 การไฟฟ้า, ปตท. และ กฟผ. ด้วยว่าจะใช้แนวทางไหนได้บ้าง”
ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องยาก ไม่อยากให้ใช้ตัวเลข 3.70 บาทต่อหน่วย เพราะเมื่อแผนเสร็จแล้วอาจมีตัวเลขใหม่ออกมา คาดว่าจะเห็นแผนภายใน 2-3 เดือนนี้ แต่ไม่รับปากว่าสามารถปรับลดค่าไฟได้ภายในรอบที่ 2 ของปี (เดือนพฤษภาคม-สิงหาคม)” ประเสริฐกล่าวย้ำ
ประเสริฐระบุอีกว่า เวลานี้แม้ว่าค่าไฟไทยจะไม่ถูกที่สุด แต่คุณภาพการบริการไฟฟ้าของไทยอยู่ในอันดับต้นของอาเซียน
นโยบายทรัมป์ 2.0 อาจทำให้ค่าไฟไทยถูกลง?
ส่วนนโยบายพลังงานทรัมป์ 2.0 นั้น กรณีถอนตัวจากข้อตกลงปารีส ความตกลงตามกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (United Nations Framework Convention on Climate Change: UNFCCC) “เชื่อมั่นว่าหลายๆ ประเทศยังเดินหน้านโยบายลดโลกร้อน และจุดยืนของไทยยังคงสนับสนุนพลังงานหมุนเวียน พลังงานสะอาด และการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV)”
ส่วนกรณีที่ทรัมป์ระบุว่าจะกลับมาผลักดันให้เกิดการผลิตเชื้อเพลิงจากฟอสซิลมากขึ้น อาจมีผลสนับสนุนให้ราคาเชื้อเพลิงพลังงานที่นำมาผลิตไฟฟ้าลดลง และเป็นผลให้ค่าไฟไทยลดได้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ต้องนำมาพิจารณาและติดตามอย่างใกล้ชิด
ปตท. เตรียมแผนซื้อก๊าซสหรัฐฯ
ทั้งนี้ การรักษาดุลการค้าไทย-สหรัฐฯ อาจสะท้อนไปยังแผนการจัดซื้อก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG)
“ยอมรับว่า ปตท. เตรียมแผนนำเข้าและเสนอ กกพ. พิจารณาเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องของปริมาณเป็นไปตามที่มีการวางแผนไว้ ซึ่งจะสามารถผ่อนคลายสิ่งที่ถูกเพ่งเล็งได้”
ขณะเดียวกันต้องพิจารณาว่าการที่ประเทศไทยเกินดุลการค้าและจะให้เพิ่มการจัดซื้อจากสหรัฐฯ นั้น จะต้องมองเรื่องความจำเป็นของประเทศด้วยว่าต้องการเท่าไร และการจัดซื้อเพิ่มอาจกระทบต่อสัดส่วนและปริมาณการจัดซื้อของเจ้าอื่นๆ ประเทศอื่นๆ หรือไม่
พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการ กกพ. กล่าวว่า การลดค่าไฟเหลือ 3.98 บาทต่อหน่วยในรอบบิลงวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคมนี้เลยหรือไม่นั้น คงไม่สามารถตอบได้เวลานี้
“แต่ก็มีปัจจัยหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลงไป เช่น นโยบายพลังงานทรัมป์ 2.0 อาจมีการเร่งผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิลมากยิ่งขึ้น ซึ่งเมื่อมีปริมาณฟอสซิลมากขึ้นก็อาจทำให้ต้นทุนลดลง แต่ต้องมาดูอัตราแลกเปลี่ยน ปริมาณการใช้ไฟในงวดถัดไป รวมถึงนโยบายที่กำลังจะพิจารณา”
ทรัมป์ 2.0 ไม่กระทบไฟฟ้าสีเขียวไทย
ส่วนข้อตกลงปารีสนั้น ย้ำว่าไม่ส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้พลังงานสีเขียวในประเทศไทย เนื่องจากโมเมนตัมของการพัฒนาพลังงานสะอาดเป็นสิ่งที่ทั่วโลกเห็นถึงความจำเป็นของการเปลี่ยนผ่านพลังงาน
อย่างไรก็ตาม ประเสริฐกล่าวอีกว่า สำหรับแผนการดำเนินงานในปี 2568 กระทรวงพลังงานมุ่งเน้น 3 เป้าหมาย ได้แก่
- ความมั่นคงทางพลังงาน โดยประเด็นเขตพื้นที่ไหล่ทวีปคาบเกี่ยวไทย-กัมพูชา (OCA) ต้องหาแนวทางให้เกิดเป็นพื้นที่พัฒนาร่วม
- พลังงานขับเคลื่อนเศรษฐกิจ
- พลังงานคาร์บอนต่ำ ตามเทรนด์ที่หลายบริษัทชั้นนำระดับโลกมุ่งหาพลังงานสะอาด ดังนี้
-
- จัดหาแหล่งพลังงานใหม่ในประเทศ โดยจะเร่งสำรวจและผลิตปิโตรเลียมทั้งบนบกและในทะเล
- บริหารจัดการระบบพลังงานให้มีประสิทธิภาพ
- พัฒนาระบบ Smart Grid
- พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานยานยนต์ไฟฟ้า (EV)
- พัฒนาระบบ SPR (ยุทธศาสตร์น้ำมัน)
- กระตุ้นและส่งเสริมการลงทุนด้านพลังงานสะอาดรับการลงทุน Data Center ผ่านมาตรการ เช่น Direct PPA และ UGT
- ปรับแผน PDP ให้เหมาะสม หลังจากล่าช้าจากปี 2567 คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในครึ่งปี 2568
- ติดตั้งโซลาร์รูฟ
- ผลักดันมาตรการทางภาษี
- ลดขั้นตอนการขออนุญาตติดตั้ง การส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวล เพื่อลดการเผาไหม้ในที่โล่งแจ้ง ช่วยลดฝุ่น PM2.5
- หนุนใช้น้ำมันเครื่องบินหรือ SAF
- กักเก็บคาร์บอน CCUS
เอเชียเล็งซื้อน้ำมันและก๊าซธรรมชาติสหรัฐฯ หวังต่อรองภาษี ดุลการค้า
ถ้อยแถลงพิธีสาบานตนของทรัมป์กำลังเขย่าวงการพลังงาน เริ่มตั้งแต่ให้คำมั่นว่าจะยุติ Green New Deal, ถอนตัวจากข้อตกลงปารีส และเพิกถอนคำสั่งที่ โจ ไบเดน ตั้งเป้าหมายผลิตรถยนต์ไฟฟ้า 50% ภายในปี 2030
พร้อมทั้งประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านพลังงานแห่งชาติ โดยแม้ว่าขณะนี้สหรัฐฯ จะผลิตน้ำมันมากกว่าประเทศอื่นๆ แต่เขาตั้งใจที่จะยกเลิกคำสั่งห้ามขุดเจาะน้ำมันแห่งใหม่ กลับมาเติมสำรองเชิงยุทธศาสตร์ให้เต็มอีกครั้ง และส่งออกพลังงานของสหรัฐฯ ไปทั่วโลก
เมื่อเร็วๆ นี้รายงานข่าวจาก Bloomberg ระบุว่า ประเทศในภูมิภาคเอเชียต่างเตรียมพิจารณาการซื้อน้ำมันและก๊าซธรรมชาติจากสหรัฐฯ เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เจรจาภาษีกับรัฐบาลทรัมป์ให้ง่ายขึ้น ซึ่งจะเป็นผลบวกต่ออุตสาหกรรมพลังงานสหรัฐฯ โดยสาเหตุหลักๆ มาจากการที่ทรัมป์ขู่ว่าจะเก็บภาษีเพิ่มเติมกับหลายประเทศที่มีดุลการค้าเกินสหรัฐฯ ส่งผลให้ญี่ปุ่นและไทยเริ่มต้นการเจรจากับโครงการส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลวจากสหรัฐฯ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และพร้อมที่จะลงนามในสัญญากับสหรัฐฯ หากราคาเหมาะสม
ภาพ: Arseniy45 / Getty image
อ้างอิง: