×

พริษฐ์ชี้ กรณีแสตมป์อ้างถูก ม.112 ข่มขู่ อาจเป็นการใช้กฎหมายเพื่อประโยชน์ส่วนตน ส่งผลดีต่อระบอบประชาธิปไตยจริงหรือไม่

โดย THE STANDARD TEAM
21.01.2025
  • LOADING...
democracy-stamp-112

วันนี้ (21 มกราคม) ที่อาคารรัฐสภา พริษฐ์ วัชรสินธุ สส. แบบบัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีของ แสตมป์-อภิวัชร์ เอื้อถาวรสุข นักร้องนักแต่งเพลงที่อ้างว่าถูกข่มขู่ด้วยคดีมาตรา 112 โดยระบุว่า อะไรที่เป็นความขัดแย้งส่วนตัว จะไม่ขอแสดงความเห็น แต่ประเด็นสาธารณะในฐานะผู้แทนราษฎรควรจะต้องติดตาม คือเรื่องประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ซึ่งยังไม่เห็นว่าขั้นตอนที่ผ่านมาเป็นเช่นไร

 

พริษฐ์กล่าวว่า ในเชิงหลักการที่พรรคประชาชนยึดถือ คือไม่อยากจะเห็นกฎหมายเปิดช่องให้มีการใช้ ม.112 มาแก้ไขความขัดแย้งส่วนตน ต้องยอมรับว่าปัจจุบันกฎหมายเปิดช่องให้นำไปสู่กรณีดังกล่าวได้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะใครก็มีสิทธิร้องทุกข์กล่าวโทษใน ม.112 ดังนั้นจึงเป็นการเพิ่มความเสี่ยงในการใช้เป็นเครื่องมือเพื่อแก้ปัญหาส่วนตน

 

กรณีเช่นนี้จะนำไปสู่ 2 ปัญหาที่ตามมาได้แก่ 1. คนที่ถูกกล่าวหาแม้ว่าท้ายที่สุดพิสูจน์ได้ว่าการกระทำไม่ได้เป็นในลักษณะที่เข้าข่ายฝ่าฝืน ม.112 แต่ก็ต้องรับภาระตามกระบวนการทางคดี ซึ่งอาจจะรบกวนทั้งเวลาและการพิสูจน์ในแต่ละขั้นตอน รวมถึงสิทธิได้รับการประกันตัว ก็อาจจะไม่ได้รับการคุ้มครองด้วยมาตรฐานเดียวกัน จึงเป็นปัญหาที่น่ากังวลว่าคนที่ถูกร้องทุกข์กล่าวโทษ แม้ว่าจะพิสูจน์ได้ว่าไม่ได้กระทำอะไรที่ผิด แต่ก็ต้องรับภาระทางคดี

 

ส่วนปัญหาที่ 2 คือ การหยิบยกกฎหมายมาตรานี้มาใช้แก้ปัญหาส่วนตน ท้ายที่สุดแล้วมาส่งผลดีต่อการรักษาระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขจริงหรือ และส่งผลดีจริงหรือต่อมุมมองของประชาชนถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเรื่องพวกนี้เป็นปัญหาหนึ่งที่พรรคเคยสื่อสารมาก่อน กรณีที่เพิ่งเกิดขึ้นนี้ก็สะท้อนให้เห็นว่าเมื่อกฎหมายเปิดช่องให้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ความเสียหายก็เกิดขึ้น ที่ผ่านมาเรามีการสื่อสารให้จำกัดสิทธิของผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ ไม่เปิดให้ใครก็ตามไปร้องทุกข์ได้ ควรจะมีกระบวนการกลั่นกรองให้รัดกุม

 

อย่างไรก็ตาม พริษฐ์ระบุว่า เรื่องนี้รายละเอียดยังไม่ชัดเจน จึงยังไม่สามารถให้ความเห็นได้ว่า เป็นการข่มขู่คุกคามหรือใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือหรือไม่ แต่เพิ่งเห็นในข่าวกองทัพบกชี้แจงว่า ผู้ที่ข่มขู่เป็นอดีตข้าราชการทหาร จึงคิดว่าต้องมีการดำเนินการตรวจสอบอย่างเต็มที่

 

สำหรับการขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวของพรรคประชาชน พริษฐ์ยืนยันว่า เรายังเป็นเหมือนวันแรกที่ตั้งพรรคมา ว่า ม.112 มีปัญหาในเรื่องการบังคับใช้ และตัวบทกฎหมายบางส่วน จึงควรมีการทบทวนเพื่อให้ได้สมดุล ซึ่งเมื่อมีคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญออกมา การหาทางออกเรื่องนี้ก็คงจะแคบลงกว่าเดิม ดังนั้นสิ่งที่เราทำอยู่คือการศึกษาว่า ในพื้นที่ที่เหลืออยู่อะไรคือสิ่งที่พอจะเป็นไปได้ โดยที่ไม่ขัดต่อคำสั่งศาลรัฐธรรมนูญ

 

“ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้ห้ามไม่ให้แก้ไข ม.112 เลย เพียงแต่ว่ามีคำวินิจฉัยบางส่วนที่ไปจำกัดว่าถ้าแก้ไขต้องแก้ไขอย่างไร กระบวนการเสนอเรื่องนี้ควรจะเป็นเช่นไร ผมยืนยันว่าคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ได้ไปเขียนลักษณะไม่ให้มีการแก้ไข แม้คำวินิจฉัยจะทำให้พื้นที่ในการหาทางออกแคบลง แต่เราก็พยายามหาวิธีการเรื่องนี้” พริษฐ์กล่าว

 

พริษฐ์ยังทิ้งท้ายว่า ประเด็นนี้ไม่ใช่ประเด็นที่พรรคประชาชนพูดฝ่ายเดียว ความจริงนายกรัฐมนตรีก็เคยพูดว่าจะนำเรื่องนี้เข้ามาคุยในสภา ส่วนตัวก็รอดูเหมือนกันว่าวันนี้เป็นนายกรัฐมนตรีแล้ว จะดำเนินการหาทางออกเรื่องนี้อย่างไร

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising