เกิดอะไรขึ้น:
การประชุมเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2568 เกี่ยวกับกลยุทธ์ปี 2568 บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT ได้ปรับเพิ่มเป้า Synergy เพิ่มขึ้น หลังจากการควบรวมธุรกิจ B2B กับธุรกิจ B2C ที่จะเห็นใน P&L ของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 5.2 พันล้านบาท (2.5 พันล้านบาทจากอัตรากำไรขั้นต้นที่ดีขึ้น และ 2.7 พันล้านบาทจากค่าใช้จ่าย SG&A ที่ลดลง) จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 5 พันล้านบาท (2.5 พันล้านบาทที่จะเห็นใน P&L และ 2.5 พันล้านบาทจากการประหยัด CAPEX)
โดยคาดว่าจะเห็นผลภายในปี 2568-2569 เร็วกว่าเดิมที่มองไว้ในปี 2568-2570 โดย Synergy จะมาจากการค้า (เช่น การกำหนดราคาขายสินค้าข้ามกันระหว่างสองธุรกิจให้มีความเหมาะสม และการจัดซื้อสินค้าร่วมกันโดยเปลี่ยนแหล่งการจัดซื้อเป็น Direct Sourcing) และที่ไม่เกี่ยวกับการค้า (เช่น การประหยัดค่าใช้จ่ายในระบบ IT, Supply Chain ผ่านศูนย์กระจายสินค้าและการจัดการระบบ การจัดส่งสินค้า แม่บ้าน และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย)
ในปี 2568 CPAXT ตั้งเป้าการเติบโตของยอดขายเป็นตัวเลขหลักเดียวระดับสูง YoY สนับสนุนจาก SSS Growth, การเปิดสาขาเพิ่มเป็น 2,778 สาขาในรูปแบบ B2B และ B2C (เพิ่มขึ้น 50 สาขา, เพิ่มจำนวนสาขา เพิ่มขึ้น 2% จากปีก่อน ด้วยการเปิดสาขาขนาดใหญ่ 10-15 สาขา เปิดสาขาขนาดเล็ก 200 สาขา แต่จะปิดสาขาขนาดเล็กที่ไม่ทำกำไรลง), พื้นที่ให้เช่าเพิ่มขึ้น (เพิ่มขึ้น 8 หมื่นตารางเมตร, เพิ่มขึ้น 7%YoY ณ สิ้นปี 2568 จากสิ้นปี 2567) และอัตราการเช่าพื้นที่เพิ่มขึ้น (94% ในปี 2568 เทียบกับ 93% ในปี 2567)
บริษัทตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น 60 BPS YoY (35 BPS จากการดำเนินงานที่ดีขึ้นจากการเพิ่มสินค้าอาหารและสินค้าเฮาส์แบรนด์ที่ให้มาร์จิ้นสูง และ 25 BPS จาก Synergy) บริษัทคาดว่า EBITDA จะเติบโตเป็นตัวเลขสองหลัก YoY จากการเติบโตของยอดขาย อัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น และอัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A ยอดขายที่ลดลงจาก Synergy และค่าใช้จ่าย Omni-Channel ที่เพิ่มขึ้นช้ากว่ายอดขาย Omni-Channel
บริษัทตั้งเป้า CAPEX ไว้ที่ 2.4-2.8 หมื่นล้านบาทในปี 2568 (CAPEX ปกติ 1.8-2.2 หมื่นล้านบาท และการลงทุนใน Habitat ส่วนที่เหลือ 6 พันล้านบาท) เทียบกับปี 2567 ที่ 2.7 หมื่นล้านบาท (CAPEX ปกติ 1.8 หมื่นล้านบาท และการลงทุนใน Habitat 9 พันล้านบาท)
การลงทุนในโครงการ Mixed-Use ในอนาคต CPAXT อยู่ในระยะแรกของการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาสาขา 16 แห่งที่ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพให้เป็น Community Center ซึ่งอาจเป็นโครงการ Mixed-Use ขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการ ในระยะกลางถึงระยะยาว
เหตุผลที่บริษัทเข้าลงทุนใน Habitat ซึ่งเป็นโครงการ Mixed-Use ที่ CPAXT จะบริหารงานในส่วนของศูนย์การค้าและสำนักงานเองนั้น สอดคล้องกับหนึ่งในแผนธุรกิจของบริษัทในการสร้างศูนย์รวมการใช้ชีวิตแบบสมาร์ทที่ตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ โดยประเมินอัตราผลตอบแทนจากโครงการมากกว่า 10% (สอดคล้องกับเกณฑ์การลงทุนในโครงการอื่นๆ ของบริษัท) และได้ผลตอบแทนจากโครงการลงทุนแบบ Brownfield (ตั้งเป้าแล้วเสร็จภายใน 1Q69) เร็วกว่า Greenfield (4-5 ปี)
สำหรับการลงทุนในโครงการ Mixed-Use ในอนาคตนั้น CPAXT จะเน้นการบริหารงานในส่วนธุรกิจหลัก (ค้าปลีก) เอง และจะให้พาร์ตเนอร์ช่วยบริหารงานในส่วนที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก (โรงแรม ที่พักอาศัย และสำนักงาน)
กระทบอย่างไร:
ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้น CPAXT ปรับขึ้น 5.61% สู่ 28.25 บาท ขณะที่ SET Index ปรับลง 3.08% สู่ 1,352.56 จุด
กลยุทธ์การลงทุนและคำแนะนำ:
InnovestX Research คาดว่ากำไรปกติ 4Q67 จะทำจุดสูงสุดของปี 2567 ที่ 3.8 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 57%QoQ จากปัจจัยฤดูกาล และเพิ่มขึ้น 15%YoY จากยอดขายที่ดีขึ้น (SSS ในธุรกิจ B2B และ B2C โต 1.5-2%), อัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น (เพิ่มขึ้น 80 BPS YoY) จากยอดขายสินค้ามาร์จิ้นสูงที่เพิ่มขึ้น) ซึ่งจะมากเกินพอชดเชยอัตราส่วนค่าใช้จ่าย SG&A / ยอดขายที่สูงขึ้น (เพิ่มขึ้น 60 BPS YoY) ในธุรกิจ B2B จากการเปิดสาขามากขึ้นและค่าใช้จ่าย Omni-Channel
กลยุทธ์การลงทุนยังคงคำแนะนำ Outperform สำหรับ CPAXT โดยให้ราคาเป้าหมายกลางปี 2568 อ้างอิงวิธี DCF ที่ 40 บาทต่อหุ้น (WACC 7.1% และการเติบโตระยะยาวที่ 2.5%)
ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ต้องติดตามคือ การเปลี่ยนแปลงนโยบายของรัฐบาลและกำลังซื้อ ความเสี่ยง ESG ที่สำคัญคือ การบริหารจัดการพลังงานและของเสีย ผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน (E) และการบริหารจัดการคุณภาพผลิตภัณฑ์ แนวปฏิบัติด้านแรงงาน และความเป็นส่วนตัวของข้อมูล (S)
Cafe Invest แหล่งรวมข้อมูลการลงทุนและบทวิเคราะห์คุณภาพโดย InnovestX 🚀 คลิกเลย CPAXT – เปิดเผยเป้าหมายปี 68 เชิงบวก: https://www.innovestx.co.th/cafeinvest/research/company-analysis/company-update/cpaxt-20250117