วันนี้ (20 มกราคม) พล.ต.อ. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติบูรณาการกับทุกภาคส่วนวางแนวทางการปฏิบัติในการป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ การสกัดกั้นคนต่างชาติลักลอบเข้าเมือง และการถูกหลอกลวงให้ไปทำงานยังประเทศที่สามโดยอาศัยประเทศไทยเป็นทางผ่าน พร้อมบูรณาการการทำงานกับหน่วยงานต่างประเทศ เสริมสร้างความร่วมมือในระดับสากล
ที่ผ่านมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติเดินหน้าดำเนินการโดยมีผลปฏิบัติการที่ดีขึ้นตามลำดับ และสามารถช่วยเหลือเหยื่อทั้งคนไทยและคนต่างชาติที่ถูกหลอกลวง ประสานทางการประเทศต้นทางให้รับตัวกลับไปอย่างปลอดภัยหลายราย เช่น หวังซิง หรือ ซิงซิง นักแสดงชาวจีน, หยางเจ๋อฉี นายแบบชาวจีน, เยาวชนชาวญี่ปุ่น รวมทั้งชาวจีนอีกจำนวนหนึ่งที่ไม่ได้เป็นข่าว ทำให้ประเทศไทยได้รับความไว้วางใจมากขึ้นจากนักท่องเที่ยวและชาวต่างชาติจากการดูแลความปลอดภัยของตำรวจไทย
ด้านสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยออกแถลงการณ์ผ่านทางเว็บไซต์ของสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย แสดงความขอบคุณรัฐบาลไทยซึ่งได้ช่วยเหลือหวังซิงว่า สถานทูตจีนและสถานกงสุลใหญ่จีนประจำประเทศไทยขอขอบคุณรัฐบาลไทยและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สำหรับความพยายามและการดำเนินงานอย่างมีประสิทธิภาพในการช่วยเหลือครั้งนี้ รวมทั้งหวังซิงได้แสดงความขอบคุณตำรวจไทย คนไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ให้การช่วยเหลือจนสามารถกลับประเทศได้อย่างปลอดภัย
เช่นเดียวกับหยางเจ๋อฉีได้โพสต์ขอบคุณตำรวจและทางการไทยที่ประสานงานจนช่วยเหลือกลับประเทศได้โดยปลอดภัย และล่าสุดทางผู้แทนสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยเข้าพบ พล.ต.อ. ธัชชัย เพื่อแสดงความขอบคุณในการให้ความช่วยเหลือติดตามตัวเยาวชนชายชาวญี่ปุ่น จนกระทั่งสามารถพากลับประเทศอย่างปลอดภัยในเวลาอันรวดเร็ว
พล.ต.อ. ธัชชัย กล่าวว่า ยืนยันว่าประเทศไทยไม่เคยมีการบังคับขู่เข็ญหรือหลอกลวงให้ไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน ประเทศไทยไม่ได้เป็นแหล่งของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และไม่มีการหลอกลวงชาวต่างชาติมาทำงานผิดกฎหมายอย่างแน่นอน ซึ่งแก๊งมิจฉาชีพมักจะใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน เพื่อพาผู้เสียหายไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ที่ผ่านมาพบว่ามีสื่อต่างประเทศบางสื่อที่นำเสนอข่าวอันเป็นเท็จหรือ Fake News ในการปฏิบัติงานของตำรวจไทย สร้างความเข้าใจผิดและสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและประเทศไทย ซึ่งจะมีการดำเนินการตามกฎหมายในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป