TikTok หยุดให้บริการในสหรัฐอเมริกาแล้ว พร้อมถูกถอดออกจาก Apple Store และ Google Play โดย ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok สัญชาติจีน แจ้งผู้ใช้งานให้รอสัญญาณบวกจากทรัมป์ช่วยให้แอปกลับมาใช้ได้อีกครั้ง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า TikTok หยุดให้บริการในสหรัฐอเมริกาเมื่อเวลาประมาณ 22.45 น. ของคืนวันเสาร์ (18 มกราคม) ตามเวลาสหรัฐฯ และถูกถอดออกจาก Apple Store และ Google Play เนื่องจากกฎหมายที่จะมีผลบังคับใช้ในวันอาทิตย์นี้ (19 มกราคม) ซึ่งกำหนดให้ต้องปิดแอปที่มีผู้ใช้ชาวอเมริกันถึง 170 ล้านคน
ไม่เว้นแม้แต่แอปพลิเคชันอื่นๆ ที่อยู่ภายใต้บริษัท ByteDance เช่น CapCut แอปตัดต่อวิดีโอ และ Lemon8 แอปไลฟ์สไตล์ ก็ไม่สามารถใช้งานและดาวน์โหลดได้เช่นกัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- นักการตลาดหวั่นสูญเสียยอดขาย หลัง TikTok ในสหรัฐฯ โดนสั่งปิด ย้ำ ไม่มีแอปไหนแทนที่ได้
- ทำไมทรัมป์อาจเป็นอัศวินขี่ม้าขาวต่อชะตา TikTok?
- จีนเล็งพิจารณาขาย TikTok ในสหรัฐฯ ให้กับ อีลอน มัสก์ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกแบนในสหรัฐฯ
ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok สัญชาติจีน ร่อนจดหมายชี้แจงว่า TikTok ได้หยุดให้บริการในสหรัฐฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับของกฎหมาย แต่ยังถือว่ามีสัญญาณบวกจาก โดนัลด์ ทรัมป์ ที่แสดงท่าทีว่าจะช่วยบริษัทหาทางแก้ไขเพื่อให้ TikTok กลับมาใช้งานได้อีกครั้ง
สอดคล้องกับคำแถลงการณ์ของ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ระบุว่ารัฐบาลจะให้เวลา TikTok เพิ่มอีก 90 วันก่อนจะบังคับใช้กฎหมาย เพราะเชื่อว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมที่สุด และมีแนวโน้มสูงที่ทรัมป์จะประกาศถึงเรื่องนี้อีกครั้งในวันจันทร์นี้ (20 มกราคม)
หากย้อนไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ผู้ที่เข้าใช้งานใน TikTok จะเห็นข้อความที่บอกว่ากฎหมายบังคับให้แอปต้องปิดการใช้งาน และบริษัทอยู่ระหว่างกอบกู้ให้แอปกลับมาใช้งานในสหรัฐฯ ได้เร็วที่สุด โดยปัจจุบันในสหรัฐฯ มีผู้ใช้บริการ TikTok กว่า 170 ล้านคน เรียกว่าเกือบครึ่งของจำนวนประชากรทั้งหมด เนื่องจาก TikTok ทรงอิทธิพลมากในโลกออนไลน์ จนทำให้ธุรกิจทั้งรายเล็กและรายใหญ่เลือกเป็นเครื่องมือทำการตลาด
คารีน ฌอง-ปิแอร์ เลขาธิการสำนักข่าวทำเนียบขาว กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า ต่อจากนี้จะเป็นหน้าที่ของรัฐบาลชุดใหม่ที่จะต้องดำเนินการต่อ ส่วนสถานทูตจีนในกรุงวอชิงตันระบุสั้นๆ ว่าสหรัฐฯ ใช้อำนาจกดดัน TikTok อย่างไม่เป็นธรรม
สำหรับกฎหมายดังกล่าวถูกลงมติด้วยเสียงเป็นเอกฉันท์และได้ให้ทางเลือกกับ TikTok ในการออกจากบริษัทแม่ที่ตั้งอยู่ในจีนไปแล้ว แต่ถ้าไม่ทำก็ต้องปิดการดำเนินงานในสหรัฐฯ เพื่อเป็นการลบล้างข้อกังวลที่สหรัฐฯ กลัวว่า TikTok อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา แฟรงก์ แม็คคอร์ต มหาเศรษฐีนักธุรกิจชาวอเมริกัน ในฐานะประธานโครงการไม่แสวงหากำไร Project Liberty ที่มีเป้าหมายปกป้องสิทธิเสรีภาพบนอินเทอร์เน็ต ได้ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ จาก ByteDance แต่ไม่ได้เปิดเผยมูลค่า และยืนยันว่า ByteDance ได้รับข้อเสนอแล้ว
และล่าสุด Perplexity AI บริษัทผู้พัฒนาระบบค้นหาข้อมูลด้วย AI ก็ได้ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการ TikTok ในสหรัฐฯ แล้วเช่นกัน โดยจะควบรวมกิจการ Perplexity กับ TikTok U.S. เอาไว้ด้วยกัน เพื่อให้ผู้ถือหุ้น ByteDance ยังถือสัดส่วนหุ้นไว้ได้เหมือนเดิม แต่ ByteDance ก็ยังไม่ได้แถลงการณ์ถึงการซื้อกิจการแต่อย่างใด
ภาพ: miss.cabul / Shutterstock
อ้างอิง: