ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจดุเดือดและเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การได้งานในบริษัทระดับโลกไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป โดยเฉพาะเมื่อซีอีโอชั้นนำต่างออกมาเปิดใจถึงสิ่งที่พวกเขา ‘รับไม่ได้’ ในตัวพนักงาน โดยเฉพาะคนที่มาทำงานแค่เพื่อเงินเดือน
ล่าสุด Peter Beck เศรษฐีพันล้านและซีอีโอแห่ง Rocket Lab บริษัทผู้สร้างจรวดมูลค่า 1.35 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ถึงกับระบุชัดว่าเขาไม่ต้องการพนักงานที่ทำงานแค่เพื่อเงินเดือน แต่ต้องการคนที่มีใจรักในอุตสาหกรรมการบินและอวกาศ พร้อมปรับตัวเข้ากับตารางงานที่เข้มข้นได้
“การสร้างจรวดเป็นงานที่กดดันสูง บ่อยครั้งที่ต้องทำงานดึกดื่นเพื่อแก้ปัญหาสำคัญก่อนการปล่อยจรวด คนที่ไม่มีความหลงใหลและไม่รู้สึกเร่งด่วนกับงาน จะไม่มีทางประสบความสำเร็จที่ Rocket Lab ได้” Beck กล่าว พร้อมเผยว่าตัวเขาเองทำงาน 12-20 ชั่วโมงต่อวัน โดยเฉพาะในช่วงเตรียมการปล่อยจรวด “ไม่มีใครมาที่นี่เพื่อทำงาน 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น และถ้าคุณคิดจะทำแบบนั้น คุณคงอยู่ที่นี่ไม่ได้นาน”
แนวคิดของ Beck สอดคล้องกับ Todd Graves ซีอีโอและผู้ร่วมก่อตั้งร้านอาหาร Raising Cane’s มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ที่เผยว่าเขารู้สึกระแวงเมื่อเห็นผู้สมัครที่เปลี่ยนงานบ่อยและอยู่แต่ละที่ไม่นาน
“ผมสงสัยว่าคุณคิดถึงแต่ตัวเองหรือเปล่า การเปลี่ยนงานบ่อยๆ ทำให้ดูเหมือนคุณแค่ไล่ล่าหาตำแหน่งมากกว่าจะเป็นคนที่เชื่อในธุรกิจ และต้องการสร้างผลงานในระยะยาว” เขาต้องการคนที่มีแรงจูงใจภายในที่อยากทำงานกับบริษัทจริงๆ
อย่างไรก็ตาม Drew McCaskill ผู้เชี่ยวชาญด้านอาชีพจาก LinkedIn ให้คำแนะนำสำหรับคนที่มีประวัติเปลี่ยนงานบ่อยว่า ในการสัมภาษณ์ให้เน้นย้ำถึงทักษะที่ได้เรียนรู้จากแต่ละที่ และอธิบายอย่างกระชับว่าทำไมคุณถึงตื่นเต้นกับโอกาสใหม่ที่จะสร้างคุณค่าให้กับองค์กร
ด้าน Jason Buechel CEO ของ Whole Foods มองว่าคนที่ยึดติดกับวิธีการเดิมๆ และคิดว่าตัวเองรู้ไปหมดทุกเรื่อง คือสัญญาณอันตรายที่จะทำให้ทั้งผลงานส่วนตัวและบริษัทถดถอย
“ผมเองก็เคยเป็นคนแบบนั้นในอดีต และได้เรียนรู้บทเรียนราคาแพงว่าเราต้องยืดหยุ่น โดยเฉพาะในโลกปัจจุบันที่ความต้องการของลูกค้าเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ธุรกิจก็ต้องปรับตัวอยู่เสมอ”
Sarah Paiji Yoo ซีอีโอสตาร์ทอัพผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเพื่อสิ่งแวดล้อม Blueland ก็มีมุมมองคล้ายกัน โดยเน้นว่าเธอไม่ต้องการจ้างคนที่ไม่ยอมร่วมมือและรับฟังมุมมองที่แตกต่างก่อนตัดสินใจ “เราชอบจ้างคนที่ไม่ได้เข้ามาแล้วบอกว่าฉันเป็นผู้เชี่ยวชาญ ดังนั้นฉันควรเป็นคนตัดสินใจคนสุดท้าย แต่เป็นคนที่เข้าใจว่าการรับฟังความคิดเห็นที่หลากหลายมักนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดีกว่า”
ในฐานะซีอีโอเธอพยายามเป็นผู้นำที่เปิดกว้างและร่วมมือกับทุกคน ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องมีสำหรับทุกคนที่จะเข้ามาร่วมงานกับเธอ
Heidi K. Gardner ผู้เชี่ยวชาญด้านภาวะผู้นำและเฟลโลว์จาก Harvard Law School ยืนยันว่าการเป็นนักทำงานร่วมกับผู้อื่นและการเปิดกว้างทางความคิดคือกุญแจสู่ความสำเร็จ เพราะคนที่มีคุณสมบัติเหล่านี้มักสร้างผลงานคุณภาพสูง ได้เลื่อนตำแหน่งเร็วขึ้น และเป็นที่สังเกตเห็นของผู้บริหารระดับสูง นอกจากนี้ยังมีความได้เปรียบในการแข่งขันเหนือคนอื่นๆ ในที่ทำงานอีกด้วย
เห็นได้ชัดว่าโลกการทำงานยุคใหม่ไม่ได้ต้องการแค่คนเก่ง แต่ต้องการคนที่มีใจรักในงาน พร้อมปรับตัว และสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ด้วย การยึดติดกับวิธีคิดแบบเดิมๆ หรือมุ่งหวังแค่ผลตอบแทน อาจทำให้คุณพลาดโอกาสที่จะเติบโตในองค์กรชั้นนำไปอย่างน่าเสียดาย
ดังนั้นการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการทำงานในอนาคตจึงไม่ใช่แค่การพัฒนาทักษะ แต่รวมถึงการปรับทัศนคติและวิธีคิดให้สอดคล้องกับความต้องการขององค์กรยุคใหม่ด้วย
ภาพ: Ann Rodchua / Shutterstock
อ้างอิง:
