กสิกรไทยคาดว่ายอดผู้ใช้ K PLUS ปี 2568 เพิ่มล้านราย เป็น 23.9 ล้านราย ชูความสำเร็จผู้นำ Digital Banking ต่อเนื่อง รวมทั้งเป็นบริการ Wealth ที่ลูกค้าไว้วางใจ พร้อมสร้างความประทับใจ และมุ่งสู่ ROE เป็น 2 หลักในปี 2569
ธนาคารกสิกรไทยคาดว่ายอดผู้ใช้ K PLUS ในปี 2568 เพิ่มล้านราย เป็น 23.9 ล้านราย ตอกย้ำความเป็นผู้นำ Digital Banking ด้วย K PLUS ที่ใช้งานง่าย สะดวก และรวดเร็ว ทำให้มีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุด โดยปัจจุบัน K PLUS มีส่วนแบ่งตลาด 30% พร้อมกันนี้ยังมีผลิตภัณฑ์การลงทุนและการให้คำปรึกษาด้านความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนแบบองค์รวม ด้วยบริการ Wealth และ SME ที่ลูกค้าไว้วางใจ และได้รับความพึงพอใจในการบริการเป็นอันดับ 1 เน้นการให้สินเชื่ออย่างมีคุณภาพต่อเนื่อง พร้อมสร้างความประทับใจให้ลูกค้าทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่องต่อไป เดินหน้ายุทธศาสตร์ 3+1 ด้วยความมุ่งมั่นลงมือทำให้สำเร็จยิ่งกว่าเดิม และผลักดัน ROE เป็นเลข 2 หลักให้ได้ภายในปี 2569
ขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ภายใต้บริบทของความท้าทายต่างๆ ที่ยังมีอยู่อย่างต่อเนื่อง ธนาคารกสิกรไทยยังคงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการอย่างเต็มที่ เพื่อสามารถตอบสนองการใช้ชีวิตและธุรกิจของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ผ่านการสร้างความประทับใจในทุกมิติ และพร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนไปพร้อมๆ กัน อาทิ การพัฒนานวัตกรรมทางการเงินที่ผสมผสานเทคโนโลยีและความเชี่ยวชาญของบุคลากร เพื่อตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ โดยมี K PLUS เป็นจุดเชื่อมต่อไปยังผลิตภัณฑ์และบริการที่หลากหลายของธนาคาร
ทั้งนี้ K PLUS ยังคงครองอันดับ 1 ของ Digital Banking ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุด โดยมีส่วนแบ่งตลาด 30% ของปริมาณธุรกรรม Mobile Banking ทั้งระบบ สะท้อนถึงความไว้วางใจของลูกค้าที่มีต่อบริการของธนาคาร โดยมีผู้ใช้งาน K PLUS จำนวน 22.8 ล้านราย และคาดว่าจะไปสู่ 23.9 ล้านรายในปี 2568
นอกจากนี้ ธนาคารกสิกรไทยได้รับคะแนนจากผู้บริโภคเป็นอันดับ 1 ด้านความพึงพอใจและความผูกพันกับแบรนด์ (Net Promoter Score: NPS) ในกลุ่มธุรกิจธนาคารในประเทศไทย จากผลสำรวจของบริษัท นีลเส็นไอคิว (NielsenIQ) บริษัทวิจัยผู้บริโภคชั้นนำของโลก โดยผู้บริโภคให้คะแนนสูงสุดด้านภาพรวมบริการและช่องทางการให้บริการของธนาคาร
รวมถึง K PLUS เป็น Mobile Banking อันดับ 1 ชูความสำเร็จของธนาคารจากความเข้าใจความต้องการของลูกค้าในการใช้บริการผ่านช่องทางต่างๆ ขณะที่ธนาคารครองความเป็นอันดับ 1 ที่ลูกค้ากลุ่มผู้ประกอบการ SME ให้ความไว้วางใจ จากผลการสำรวจธนาคารหลักที่ลูกค้าเลือกใช้บริการ (Main Banking Status) โดยบริษัท อิปซอสส์ (Ipsos) บริษัทวิจัยตลาดระดับโลก
การนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนและการให้คำปรึกษาด้านความมั่งคั่งอย่างยั่งยืนแบบองค์รวมที่เหมาะสมกับความต้องการตลอดช่วงชีวิตของลูกค้า ทั้งของธนาคาร, บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด และพันธมิตร นำเสนอผ่านช่องทางการขายและบริการอย่างครอบคลุม โดยกองทุนรวมของกสิกรไทยมี AUM อันดับที่ 1 ต่อเนื่อง และบริการด้าน Private Banking มีจำนวนลูกค้ามากเป็นอันดับ 1 สะท้อนถึงความไว้วางใจของลูกค้าในผลิตภัณฑ์และบริการด้านความมั่งคั่ง การให้ความสำคัญในการให้สินเชื่ออย่างมีคุณภาพด้วยความรับผิดชอบ ร่วมสร้างวินัยทางการเงิน และให้ความรู้ทางการเงินในมิติต่างๆ
ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยยังคงดำเนินยุทธศาสตร์ 3+1 ที่ประกาศไว้ตั้งแต่ต้นปีอย่างต่อเนื่อง โดยจะมุ่งมั่นลงมือทำให้สำเร็จยิ่งกว่าเดิม เพื่อผลักดัน ROE เป็นเลข 2 หลักให้ได้ภายในปี 2569 ด้วยความเป็นผู้นำในด้านต่างๆ มุ่งมั่นสร้างสรรค์นวัตกรรม บริการ และโซลูชัน ที่สร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าทุกกลุ่มให้มากขึ้น ควบคู่กับการส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้าอย่างมั่นคงต่อไป