วานนี้ (23 ธันวาคม) ที่ห้องนพรัตน์ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) จักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, พรพรหม ณ.ส. วิกิตเศรษฐ์ ที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, ผู้บริหารด้านความยั่งยืนของกรุงเทพมหานคร และผู้ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมคณะกรรมการพิจารณาการออกประกาศห้ามรถตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไปเข้าพื้นที่วงแหวนรัชดาภิเษกภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด ครั้งที่ 1/2567
จักกพันธุ์กล่าวว่า สืบเนื่องจากการประชุมคณะกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5) ในกรุงเทพมหานคร ครั้งที่ 2/2567 เมื่อวันที่ 24 กันยายน มีมติเห็นชอบต่อแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปี 2568 ภายใต้แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครใช้อำนาจตามมาตรา 29 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. 2550 ในการออกประกาศกรุงเทพมหานคร เรื่อง การห้ามรถตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไปเข้าพื้นที่วงแหวนรัชดาภิเษกภายใต้หลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด
เมื่อการพยากรณ์คาดว่าจะมีปริมาณฝุ่นละออง PM2.5 มากกว่า 75 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) ต่อเนื่องติดต่อกัน 3 วัน ไม่น้อยกว่า 5 เขต โดยเพื่อให้การพิจารณาหลักเกณฑ์ในการออกประกาศดังกล่าวเป็นไปด้วยความรอบคอบและเกิดประสิทธิภาพสูงสุดในการดำเนินการ
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจึงมีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ขึ้น ณ วันที่ 29 พฤศจิกายน เพื่อพิจารณาให้ความเห็น ข้อเสนอแนะ หรือให้คำปรึกษา เพื่อประกอบการพิจารณาการออกประกาศ รวมทั้งเชิญบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ความเห็น เพื่อขับเคลื่อนภารกิจการดำเนินมาตรการเขตมลพิษต่ำ (Low Emission Zone) รวมทั้งให้มีอำนาจเรียกเอกสารประกอบข้อคิดเห็น ตลอดจนปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครมอบหมาย
ที่ประชุมได้แจ้งเพื่อทราบถึงมาตรการเขตมลพิษต่ำในพื้นที่กรุงเทพมหานครว่า ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครจะใช้อำนาจตามมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 37 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ. ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เมื่อ ‘เกิดหรือใกล้จะเกิดสาธารณภัย’ ขึ้นในพื้นที่ใดและการอยู่อาศัยหรือดำเนินกิจการใดๆ ในพื้นที่นั้นจะเป็นอันตรายอย่างร้ายแรงต่อสุขภาพประชาชน
ในการออกประกาศดังกล่าวได้กำหนดระยะเวลาการห้ามและเขตพื้นที่ที่ห้ามตามที่จำเป็นไว้ โดยมีเป้าหมายเป็นรถตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป จำนวน 106,578 คัน (ยกเว้น EV, NGV, EURO 5 และ 6) และมีวัตถุประสงค์ในการห้ามรถตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไปเข้ากรุงเทพมหานครชั้นในในช่วงที่ฝุ่นอยู่ในช่วงอันตราย เพื่อลดปัจจัยต้นตอสำคัญของมลพิษและลดความอันตรายต่อสุขภาพประชาชนในพื้นที่
ซึ่งหลักเกณฑ์การออกประกาศเป็นการพิจารณาจากข้อมูลบ่งชี้ คือ ค่าเฉลี่ยฝุ่นละออง PM2.5 อยู่ในระดับสีแดง (ค่า PM2.5 ตั้งแต่ 75.1 มคก./ลบ.ม.) 5 เขต หรือจากการพยากรณ์ล่วงหน้า 2 วัน โดยค่าฝุ่นละออง PM2.5 ระดับสีแดงมากกว่า 5 เขต หรือระดับสีส้ม (ค่า PM2.5 ตั้งแต่ 37.6-75 มคก./ลบ.ม.) มากกว่า 15 เขต ประกอบกับอัตราการระบายอากาศ (VR) ต้องน้อยกว่า 3,000 ตารางเมตรต่อวินาที และมีทิศทางลมจากตะวันออก
โดยหากเข้าเกณฑ์ดังกล่าว กรุงเทพมหานครจะพิจารณาออกประกาศดังกล่าว ทั้งนี้ ที่ประชุมมีมติให้พิจารณาทบทวนตัดเงื่อนไขทิศทางลม เนื่องจากในช่วงที่ค่าเฉลี่ยฝุ่นสูงนั้นอาจมีลมที่พัดมาจากทิศอื่น เช่น ตะวันออกเฉียงเหนือ หรือบางครั้งอาจไม่มีลมพัดมาจากที่ใดเลยก็ได้
สำหรับแนวทางการออกมาตรการเขตมลพิษต่ำ ประกอบด้วย 1. คณะกรรมการพิจารณาเหตุผล-ความจำเป็นในการออกประกาศ 2. สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเสนอผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครออกประกาศ 3. บังคับใช้ให้เป็นไปตามประกาศ โดยพื้นที่บังคับใช้มาตรการเขตมลพิษต่ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร วงแหวนรัชดาภิเษก ได้แก่ ด้านในแนวถนน มีจำนวน 9 เขต ได้แก่ เขตดุสิต, พญาไท, พระนคร, ป้อมปราบศัตรูพ่าย, สัมพันธวงศ์, คลองสาน, สาทร, ปทุมวัน และบางรัก และแนวถนนผ่าน 13 เขต (31 แขวง) ได้แก่ เขตบางซื่อ (วงศ์สว่าง), จตุจักร (จตุจักร / ลาดยาว / จันทรเกษม / จอมพล), ห้วยขวาง (ห้วยขวาง / สามเสนนอก / บางกะปิ), ดินแดง (ดินแดง / รัชดาภิเษก), ราชเทวี (มักกะสัน), วัฒนา (คลองเตยเหนือ), คลองเตย (คลองเตย), ยานนาวา (ช่องนนทรี / บางโพงพาง), บางคอแหลม (บางคอแหลม / บางโคล่), ธนบุรี (ดาวคะนอง / สำเหร่ / บุคคโล / ตลาดพลู), บางกอกใหญ่ (วัดท่าพระ), บางกอกน้อย (บางขุนนนท์ / อรุณอมรินทร์ / บางขุนศรี / บ้านช่างหล่อ / ศิริราช) และบางพลัด (บางพลัด / บางบำหรุ / บางอ้อ /บางยี่ขัน)
ซึ่งจากเป้าหมายรถตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป 106,578 คัน มีจำนวนรถที่เข้าพื้นที่วงแหวนรัชดาภิเษกเฉลี่ยวันละ 9,600 คัน โดยข้อมูล ณ วันที่ 23 ธันวาคม มีรถตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไปขึ้นทะเบียนบัญชีสีเขียว (Green List) แล้ว 9,555 คัน (ร้อยละ 99.53 ของรถที่เข้าพื้นที่วงแหวนรัชดาภิเษกเฉลี่ยต่อวัน)
อย่างไรก็ตาม หากสถานการณ์ยังไม่คลี่คลายและมีแนวโน้มฝุ่นเพิ่มมากขึ้น จะพิจารณาจากข้อมูลบ่งชี้ คือ ค่าเฉลี่ยฝุ่นละออง PM2.5 อยู่ในระดับสีแดง 10 เขต หรือจากการพยากรณ์ล่วงหน้า 2 วัน โดยค่าฝุ่นละออง PM2.5 ระดับสีแดงมากกว่า 10 เขต หรือสีส้มมากกว่า 25 เขต ประกอบกับอัตราการระบายอากาศน้อยกว่า 3,000 ตารางเมตรต่อวินาที และมีทิศทางลมจากตะวันออก จะมีการประกาศขยายพื้นที่ไปยังวงแหวนกาญจนาภิเษกเพื่อควบคุมปริมาณฝุ่นต่อไป โดยที่ประชุมมีมติเช่นเดียวกันคือให้พิจารณาทบทวนตัดเงื่อนไขทิศทางลมออก
ทั้งนี้ กรุงเทพมหานครมีมาตรการบัญชีสีเขียว เปิดให้รถตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป (ยกเว้น EV, NGV, EURO 5 และ 6) ที่ต้องวิ่งในพื้นที่เขตมลพิษต่ำในพื้นที่กรุงเทพมหานครลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป โดยผู้ประกอบการสามารถนำรถเข้ากระบวนการบำรุงรักษา เช่น เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เปลี่ยนไส้กรองอากาศ จากนั้นลงทะเบียนกรอกแบบฟอร์ม ‘บัญชีสีเขียว’ ประกอบการขอยกเว้นมาตรการเขตมลพิษต่ำในพื้นที่กรุงเทพมหานคร พร้อมแนบหลักฐานการเข้ากระบวนการบำรุงรักษา โดยกรอกข้อมูลทาง Google Forms ที่ https://bit.ly/47RK0Yy
หรือติดต่อกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม โทร. 0 2203 2951 พร้อมกันนี้ยังเชิญชวนรถตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไปที่ได้รับการยกเว้น (EV, NGV, EURO 5 และ 6) ร่วมลงทะเบียนบัญชีสีเขียว เพื่อความสะดวกต่อการกวดขันและตรวจสอบ ตลอดจนเพื่อความสะดวกในการเข้าพื้นที่เขตมลพิษต่ำ
จากนั้นที่ประชุมแจ้งถึงแนวทางการบังคับการให้เป็นไปตามประกาศ โดยอาศัยข้อมูลทะเบียนรถจากบัญชีสีเขียวของสำนักสิ่งแวดล้อม ประกอบกับข้อมูลภาพหลักฐานจากกล้อง CCTV ของสำนักการจราจรและขนส่ง ผ่านระบบคัดกรองคัดแยก ซึ่งจะนำไปสู่การออกเอกสารหลักฐานการร้องทุกข์กล่าวโทษ และให้ฝ่ายเทศกิจ สำนักงานเขต บังคับการอย่างเข้มงวดต่อไป