วันนี้ (20 ธันวาคม) ที่อาคารรัฐสภา กรุณพล เทียนสุวรรณ สส. แบบบัญชีรายชื่อ รองโฆษกพรรคประชาชน กล่าวถึงกรณีตำรวจชุดสืบสวนภาค 2 บุกตรวจค้นบ้าน สุเมธ เหรียญพงษ์นาม ที่จังหวัดปราจีนบุรี พร้อมแจ้งข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
กรุณพลชี้แจงว่า ข่าวที่นำเสนอดังกล่าวมีความคลาดเคลื่อน เพราะสุเมธไม่ใช่ผู้อำนวยการพรรค แต่เคยเป็นอดีตผู้ประสานงานจังหวัดปราจีนบุรีของพรรคก้าวไกล และเคยเป็นผู้ช่วยของ เบญจา แสงจันทร์ อดีต สส. พรรคก้าวไกล เมื่อเบญจาถูกตัดสิทธิทางการเมือง สุเมธก็ไม่ได้เป็นผู้ช่วย สส. และไม่ใช่ผู้ประสานงานจังหวัดแล้ว
กรุณพลกล่าวต่อไปว่า ก่อนหน้านี้สุเมธเคยเป็นประธานคัดเลือกท้องถิ่นของจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งกระบวนการจบไปแล้ว ปัจจุบัน สุเมธ ไสลวงษ์ เป็นผู้อำนวยการกองการเลือกตั้งปราจีนบุรี พรรคประชาชน ไม่ใช่คนชื่อสุเมธที่ถูกตรวจค้น ซึ่งอาจเป็นความเข้าใจผิดด้วยความที่ชื่อสุเมธเหมือนกัน
ทั้งนี้ สุเมธที่ตกเป็นข่าวไม่ได้มีตำแหน่งในพรรคแล้ว เนื่องจากการคัดเลือกในจังหวัดปราจีนบุรีเสร็จสิ้นแล้ว ซึ่งพรรคประชาชนประกาศเปิดตัวผู้สมัครไปเมื่อวานนี้ ดังนั้นตามที่ข่าวกล่าวอ้างว่าสุเมธเป็นผู้อำนวยการพรรคจังหวัดปราจีนบุรี และเป็นผู้ช่วย สส. จึงไม่ใช่ข้อเท็จจริง
ส่วนกรณีดังกล่าวอาจเป็นการถูกวางงานหรือไม่นั้น กรุณพลยอมรับว่า อาจมีโอกาส เพราะมีข้อสังเกตว่าการตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นการตรวจค้นในบ้าน ปืนทุกกระบอกมีทะเบียน มีเพียง 2 กระบอกที่ลงทะเบียนในชื่อของพ่อและพี่ชาย และปืนทั้ง 5 กระบอกไม่ใช่ปืนเถื่อน เป็นปืนอยู่ในกล่อง ซึ่งไม่พร้อมใช้งาน และไม่ได้พกพาออกไปจากที่อยู่อาศัย
“หลายคนมองว่าเหตุใดคนหนึ่งคนถึงมีปืนเยอะ สุเมธเคยเป็นนักกีฬายิงปืนของจังหวัด และเคยเข้าแข่งงานกีฬาแห่งชาติมาแล้ว นักกีฬายิงปืนจะมีปืนมากกว่า 1 กระบอกเป็นเรื่องธรรมดา สส. ที่ไม่ได้เป็นนักกีฬายิงปืนก็มีปืนหลายกระบอก สส. พรรคประชาชนหลายท่านก็สะสมปืน ซึ่งเป็นปืนที่ถูกต้องตามกฎหมาย มีใบอนุญาตในการซื้อและพกพา” กรุณพลระบุ
กรุณพลกล่าวด้วยว่า เมื่อเรื่องนี้ถึงชั้นศาล สุเมธคงมีช่องทางการต่อสู้และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ยืนยันว่า ปืนทั้ง 5 กระบอกเป็นปืนที่ถูกต้อง มีใบอนุญาต อย่างไรก็ตาม สุเมธยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ แต่มีการนำเสนอข่าวที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง ซึ่งว่าไปตามฐานความผิด สุเมธยังไม่ได้ทำอะไรถึงขั้นต้องขับออกจากสมาชิกพรรค