Ignifier นำทัพเหล่ากูรูและพันธมิตรทางธุรกิจ เปิดประสบการณ์ความรู้สู่เส้นทางการพัฒนาความยั่งยืนให้กับผู้เข้าร่วมงานภายใต้ธีม ‘Ignite the Future’ เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและปลุกไฟในการรังสรรค์สิ่งที่ดีให้กับโลกและสังคม ผ่านการชมภาพยนตร์สารคดี Beyond Zero เมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ โรงแรม Conrad Bangkok ซึ่งมีเคล็ดลับความสำเร็จมากมายที่สามารถหยิบจับและนำไปประยุกต์ใช้ในการบริหารธุรกิจได้อย่างครบครัน
เปิดเวทีด้วยหัวข้อ ‘Beyond Sustainability: The Green Shift’ โดย ทรงพล ชัญมาตรกิจ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อิกนิไฟเออร์ จำกัด (Ignifier) กล่าวถึงวิวัฒนาการด้านความรับผิดชอบต่อสังคมของไทยและของโลกในห้วงเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันที่วิกฤตการณ์โลกร้อนยังไม่มีแนวโน้มจะดีขึ้น ทำให้โลกของเราต้องการแนวคิดใหม่ที่มากกว่าแค่การลดผลกระทบเชิงลบเท่านั้น นั่นคือ ‘Regenerative Business’ ธุรกิจที่สามารถฟื้นฟูและกอบกู้โลก
โดยนำเสนอเรื่องราวของบริษัท Interface Inc. ผู้ผลิตพรมชั้นนำระดับโลก ที่เป็นต้นแบบความสำเร็จในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง ผ่านภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Beyond Zero
หลังชมภาพยนตร์ พนอจันทร์ จารุรังสีพงศ์ ที่ปรึกษาด้านความยั่งยืนองค์กร และ GRI Certified Sustainability Professional ได้สรุปเคล็ดลับความสำเร็จในหัวข้อ ‘Practical Lessons for Regenerative Leadership’ การเปลี่ยนแปลงสำคัญในองค์กรสามารถเกิดขึ้นได้หากผู้นำองค์กรมีความมุ่งมั่นอันแรงกล้า มีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนและกล้าหาญ ดังเช่น เรย์ แอนเดอร์สัน ผู้ก่อตั้ง Interface ที่สามารถจุดประกายและสร้างแรงบันดาลใจให้คนทั้งองค์กรร่วมกันขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมาย นำมาซึ่งนวัตกรรมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตที่ลดผลกระทบเชิงลบ และสร้างผลกระทบเชิงบวกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการประยุกต์ใช้ศาสตร์การออกแบบนวัตกรรมโดยเทคนิคเลียนแบบธรรมชาติ (Biomimicry) ทำให้สามารถลดต้นทุน สร้างยอดขาย และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้ธุรกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ
กุญแจสำคัญของการพัฒนาไปสู่การเป็น Regenerative Business นั้น นอกจากต้องมีความรู้และความเชี่ยวชาญในธุรกิจ รวมทั้งมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้ว ยังต้องคำนึงถึงองค์ประกอบสำคัญอีกหลายอย่าง
ด้าน บุญรอด เยาวพฤกษ์ กรรมการ บริษัท เดอะ ครีเอจี้ จำกัด ให้มุมมองในเรื่อง ‘Climate Strategy: From Reduction to Regeneration’ ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เป็นผลมาจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งในปัจจุบันการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอที่จะทำให้สภาพภูมิอากาศของโลกกลับมาดีดังเดิม ธุรกิจจำเป็นต้องผนวกการดำเนินงานด้าน Climate เข้ากับกลยุทธ์การเติบโต เพราะไม่อาจแยกการดำเนินธุรกิจออกจากผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมได้ ดังนั้นการปรับตัวและแสวงหาหนทางเพื่อฟื้นฟูโลกใบนี้ พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางธุรกิจและรักษาความสามารถในการแข่งขันให้ได้ในระยะยาว จึงเป็นเรื่องที่ทุกคนควรคำนึงถึงและมุ่งหน้าพัฒนาร่วมกัน
ขณะที่ ศิริคเณศ สกุลยง Chief Designer and Biomimicry Consultant Sapience Solutions ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบนวัตกรรมโดยเทคนิคเลียนแบบธรรมชาติ (Biomimicry) มาช่วยไขความกระจ่างในหัวข้อ ‘Biomimicry in Action: Designing Sustainable Innovations Inspired by Nature’ แสดงให้เห็นถึงความสามารถของสิ่งมีชีวิตในธรรมชาติที่มีวิวัฒนาการในการอยู่รอดมากว่า 3.8 พันล้านปี ดังนั้นการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่ถอดแบบกลไกของธรรมชาติดังเช่นที่ Interface ใช้ จะกลายเป็นแนวทางการดำเนินงานหนึ่งที่เป็นประโยชน์อย่างมากต่อธุรกิจ พร้อมสร้างความยั่งยืนให้แก่โลกของเรา
เมธา บัวรักสกุล Sustainability Business Development Manager บริษัท เอสจีเอส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวถึงความสำคัญของการเปิดเผยข้อมูลด้าน ESG ในหัวข้อ ‘Building Trust Through Sustainability Assurance and Transparency’ ซึ่งข้อมูลที่ได้รับการทวนสอบและรับรองความถูกต้องจากบุคคลที่สาม จะเป็นสิ่งสำคัญที่จะเปลี่ยนความสงสัยของผู้ที่ใช้ข้อมูลให้เป็นความไว้วางใจและความมั่นใจในบริษัท การเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสจะช่วยป้องกันการฟอกเขียว (Greenwashing) ที่บั่นทอนความเชื่อมั่นของผู้มีส่วนได้เสียได้
นอกจากนี้การสื่อสารผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืนทั้งในองค์กรและนอกองค์กรเป็นเรื่องที่จำเป็นสำหรับธุรกิจ โดย กฤษณพล พงศ์ธนาวรานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทีวีบูรพา จำกัด ได้แนะนำวิธีการเล่าเรื่องที่ทรงพลังในหัวข้อ ‘Storytelling for Sustainability: Creating Lasting Impact and Inspiring Change’ กล่าวถึงความเชื่อว่า ‘Facts Inform, but Stories Inspire’ ทุกเรื่องเล่าต้องใช้ ‘หัวใจ’ ในการเชื่อมโยงผู้คน ให้เกิดการตระหนักรู้ สร้างแรงบันดาลใจ และเปลี่ยนแปลงกรอบความคิด ไปสู่การลงมือทำ โดยการใช้สื่อหรือวิธีการหลากหลายรูปแบบ เพื่อก่อให้เกิดการขับเคลื่อนสังคมไปสู่ผลลัพธ์ในการพัฒนาความยั่งยืนที่แท้จริง
ปิดท้ายช่วงสุดท้ายภายในงาน Ignite the Future ด้วยหัวข้อ ‘The Road Ahead of Sustainability’ โดย ดร.ธนัย ชรินทร์สาร Strategic Management Professional มาเน้นย้ำถึงเรื่องความยั่งยืนว่าจะมีความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจและความสำเร็จของบริษัทมากขึ้นเรื่อยๆ จึงควรต้องวางกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนควบคู่ไปกับการกำหนดกลยุทธ์ทางธุรกิจ และมีการวางแผนที่ดีเพื่อนำไปปฏิบัติ ซึ่งจุดนี้เองที่หลายบริษัทอาจมองข้าม เพราะแม้จะมีแผนกลยุทธ์ที่ดีเพียงใด แต่ขาดการลงมือทำอย่างจริงจังและมีประสิทธิภาพ ความสำเร็จที่คาดหวังไว้ย่อมไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน