วันนี้ (13 ธันวาคม) พล.ต.ท. ยิ่งยศ เทพจำนงค์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 แถลงผลการทลายเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่เปิดสำนักงานในทาวน์เฮาส์แห่งหนึ่งในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ซึ่งจับกุมได้เมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยล่าสุดกองบังคับการสืบสวนตำรวจภูธรภาค 2 ขยายผลจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาเครือข่ายฟอกเงินเพิ่มเติม 5 คน เป็นคนไทย 3 คน คนจีน 2 คน ยึดทรัพย์รวมมูลค่า 152 ล้านบาท
พล.ต.ท. ยิ่งยศ เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาลและสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญในการสืบสวนขยายผลแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ดังนั้นหลังจากจับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เปิดสำนักงานในจังหวัดชลบุรีได้แล้ว จึงขยายผลยึดทรัพย์ต่อเนื่อง
โดยล่าสุดรวบรวมหลักฐานออกหมายจับกลุ่มผู้กระทำผิด 3 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มพนักงานออฟฟิศ จำนวน 11 คน 2. กลุ่มบัญชีม้า (รวมจัดหาบัญชีและยิงโฆษณา) จำนวน 15 คน และ 3. กลุ่มบอส หรือระดับสั่งการ และเครือข่ายฟอกเงิน จำนวน 9 คน รวมออกหมายจับทั้งหมด 35 คน จับกุมได้แล้ว 21 คน อยู่ระหว่างติดตามจับกุม 14 คน ซึ่งบางส่วนหลบหนีออกนอกประเทศ อยู่ในกระบวนการติดตามจับกุม
จากการสืบสวนสอบสวนเครือข่ายนี้พบว่า ผู้ก่อเหตุจะแปลงเงินที่ได้จากการหลอกลวงประชาชนเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลคริปโตเคอร์เรนซี จากนั้นจะโอนต่อไปยังกระเป๋าเงินดิจิทัลนิรนามต่างๆ และยังพบว่าตัวการระดับสั่งการซึ่งเป็นคนจีน นำเงินที่ได้จากการหลอกลวงประชาชนบางส่วนมาใช้ในประเทศไทย โดยใช้ชีวิตอย่างหรูหรา ซื้อบ้านหรู รถยนต์ ทรัพย์สินต่างๆ รวมถึงประกอบกิจการในนามบริษัทนอมินี โดยใช้บริษัทนอมินีที่เปิดขึ้นมาซื้อและถือครองทรัพย์สินประเภทอสังหาริมทรัพย์ จึงประสานงานกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบ นำไปสู่การติดตามจับกุมและตรวจสอบยึดทรัพย์สิน ดำเนินการตามกฎหมาย
พล.ต.ท. ยิ่งยศ กล่าวว่า ในระหว่างวันที่ 12-13 ธันวาคม ได้ติดตามจับกุมกลุ่มผู้ต้องหาเครือข่ายฟอกเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์มังกรเทาดำเพิ่มเติม 5 คน เป็นคนไทย 3 คน คนจีน 2 คน และตรวจยึดทรัพย์สินที่สำคัญ ดังนี้
- บ้านหรู เนื้อที่ 3 งาน 12.5 ตร.ว. อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี มูลค่า 65 ล้านบาท
- บ้านหรู เนื้อที่ 3 งาน 6.2 ตร.ว. อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี มูลค่า 75 ล้านบาท
- รถยนต์ Lexus สีขาว มูลค่า 8 ล้านบาท
- รถยนต์ Benz สีขาว มูลค่า 3.5 ล้านบาท
- รถยนต์ Mazda สีดำ มูลค่า 4 แสนบาท
และทรัพย์สินอื่นๆ รวมทั้งหมดมูลค่ากว่า 152 ล้านบาท
พล.ต.ท. ยิ่งยศ กล่าวย้ำว่า เร่งรัดขยายผลติดตามจับกุมดำเนินคดีกับเครือข่ายและผู้เกี่ยวข้องต่อไป และขอให้คนไทยที่คิดจะเข้าไปมีส่วนร่วมกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เช่น รับจ้างเปิดบัญชี เป็นธุระจัดหาซิมผีบัญชีม้า รวมถึงการเข้าไปร่วมทำธุรกิจหรือถือครองทรัพย์สินซึ่งอาจเข้าข่ายนอมินี จะมีความผิดตามกฎหมาย นอกจากความผิดเรื่องคอลเซ็นเตอร์แล้ว ยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. 2497 และ พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของบุคคลต่างด้าว พ.ศ. 2542 ด้วย
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถแจ้งข้อมูลและเบาะแสคนต่างชาติหรือคนไทยต้องสงสัยเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้ที่เพจเฟซบุ๊ก ตำรวจภูธรภาค 2