ภายหลังสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) ประกาศให้ซาอุดีอาระเบียเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2034 อย่างเป็นทางการ และนับเป็นชาติที่ 2 จากตะวันออกกลางต่อจากกาตาร์ที่ได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพมหกรรมฟุตบอลระดับโลก
อย่างไรก็ตาม การเลือกซาอุดีอาระเบียเป็นเจ้าภาพหนนี้ทำให้มีประเด็นเรื่องของสิทธิมนุษยชน ที่ปัจจุบันในประเทศซาอุดีอาระเบียยังไม่มีการคุ้มครองทางกฎหมายหรือรับรองสวัสดิภาพของกลุ่มแฟนบอล LGBTQIA+
โดยในประเด็นนี้ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (FA) เผยแพร่แถลงการณ์เกี่ยวกับการเป็นเจ้าภาพฟุตบอลโลก 2034 ของซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมีความต้องการให้แฟนๆ ทุกคนรวมถึงกลุ่มแฟนบอล LGBTQIA+ สามารถเข้าร่วมและสนุกไปกับมหกรรมฟุตบอลโลกในปีดังกล่าวได้อย่างราบรื่น
“เรามุ่งเน้นที่การทำให้แน่ใจว่าแฟนๆ ทุกคนสามารถเข้าร่วมและสนุกไปกับการแข่งขันได้
“คณะกรรมการ FA เข้าพบสหพันธ์ฟุตบอลซาอุดีอาระเบียเมื่อเดือนที่แล้วเพื่อหารือเกี่ยวกับการเสนอตัวของพวกเขาในรายละเอียดเพิ่มเติม เราขอให้พวกเขามุ่งมั่นที่จะทำให้แน่ใจว่าแฟนๆ ทุกคนจะปลอดภัยและได้รับการต้อนรับในซาอุดีอาระเบียในปี 2034 รวมถึงแฟนๆ LGBTQIA+ ซึ่งพวกเขาให้คำมั่นกับเราว่าพวกเขามุ่งมั่นที่จะมอบสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยและยินดีต้อนรับแฟนๆ ทุกคน
“ฟุตบอลเป็นเกมระดับโลกและมีไว้สำหรับทุกคน ความมุ่งมั่นของเราต่อความหลากหลายและการรวมเข้าด้วยกันนั้นหมายถึงการเคารพทุกคน รวมถึงทุกศาสนาและทุกวัฒนธรรม เราเชื่อด้วยว่าการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกสามารถเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสำหรับการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกได้ ซึ่งจะทำได้ดีที่สุดโดยการทำงานร่วมกันเป็นหุ้นส่วนกับประเทศเจ้าภาพ
“เราจะทำงานร่วมกับ FIFA และ UEFA เพื่อให้แน่ใจว่าคำมั่นสัญญาในการเคารพสิทธิมนุษยชนทุกประการจะบรรลุผล”
ทั้งนี้ การแข่งขันฟุตบอลโลก 2034 ที่ซาอุดีอาระเบียยังไม่มีการยืนยันว่าจะจัดขึ้นช่วงไหนของปี 2034 ซึ่ง FIFA ทราบดีถึงสภาพอากาศในช่วงฤดูร้อนที่มักจะสูงเกิน 100 องศาฟาเรนไฮต์ และถูกมองว่าไม่ปลอดภัยสำหรับฟุตบอลรวมถึงแฟนบอล ทำให้อาจต้องเลื่อนไปแข่งขันในช่วงปลายปีอย่างเดือนธันวาคม (แบบเดียวกับฟุตบอลโลกที่กาตาร์) หรือขยายไปจนถึงปี 2035 หรือไม่ ต้องรอติดตามความคืบหน้าในเรื่องนี้ต่อไป
อ้างอิง: